โครงการกินอยู่อย่างไรให้ปลอดภัยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานของกลุ่มเสี่ยง
ชื่อโครงการ | โครงการกินอยู่อย่างไรให้ปลอดภัยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานของกลุ่มเสี่ยง |
รหัสโครงการ | 67-L2511-2-12 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขโรงพยาบาลบูกิ๊ตจือแร |
วันที่อนุมัติ | 19 มีนาคม 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤษภาคม 2567 - 31 สิงหาคม 2567 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2567 |
งบประมาณ | 23,060.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวรอฮานี เอกรัตน์ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันคนไทยทั้งที่อยู่ในชุมชนเมืองและในชนบททั่วประเทศประสบปัญหาสุขภาพไม่แตกต่างกันล้วนเป็นโรคที่เกิดมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูงตรวจพบจำนวนกว่า 10 ล้านคนเพิ่มขึ้นจาก พ.ศ. 2559 ถึง 4 เท่าตัวและพบว่าโรคเบาหวานกว่า 3 ล้านคน ซึ่งใช้เงินสำหรับรักษาผู้ป่วยเบาหวานอายุ 20 - 79 ปี มากถึงราว 10.688 ล้านล้านบาท สภาพปัญหาสาธารณสุข ได้มีโรคใหม่เกิดขึ้นมามากมายมีทั้งโรคติตต่อและโรคไม่ติดต่อ ซี่งกลุ่มโรคไม่ติดต่อพบลว่ามีคนไทยจำนวนมากป่วยและยังมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น อันได้แก่โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน อุบัติเหตุ โรคหัวใจ มะเร็ง ภาวะไขมันในเลือดสูง ภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน โรคที่เกิดจากความเครียดและโรคทางจิตประสาท โรคไม่ติดต่อเมื่อป่วยแล้วส่วนใหญ่รักษาไม่หาย ต้องกลายเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องรับประทานยาตลอดชีวิต มีผลต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิต ทำให้คุณภาพชีวิตไม่ดี ปัจจุบันมีการปฏิรูประบบสุขภาพที่เน้นการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค การพัฒนาขบวนการสร้างเสริมสุขภาพและการสาธารณสุขมูลฐานที่กระทำโดยประชาชนเพื่อประชาชน โดยเน้นการเสริมสร้างพลังอำนาจและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดูแลสุขภาพตนเองทั้งด้านกาย - ใจ สังคม จิตวิญญาณ ดังนั้นการค้นหาโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานทุกปี จึงเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนในพื้นที่ตื่นตัวในการตรวจสุขภาพเพื่อหาโรคดังกล่าว ซึ่งการค้นพบตั้งแต่เริ่มแรกทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที สูญเสียทรัพยากรบุคคลน้อยลง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำลบ้านบูกิ๊ตจือแร ได้จัดอบรมกลุ่มเสี่ยง ซึ่งเห็นได้จากการสรุปผลการอบรมว่า กลุ่มเสี่ยงมีความรู้เรื่องโรคเบาหวานและความดันโลหิตเพิ่มขึ้น รู้จักวิธีการกินอาหารอย่างถูกสัดส่วน ออกกำลังกายตามสภาพ และกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานจึงเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีเพื่อจะได้ไม่เป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ๑. เพื่อลดอัตราการป่วยโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ ๑. อัตราผู้ป่วยความดันโลหิตสูงรายใหม่ ไม่เกินร้อยละ5 |
5.00 | |
2 | ๒. เพื่อลดอัตราการป่วยโรคเบาหวานรายใหม่ ๒.อัตราผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่ ไม่เกินร้อยละ2.4 |
2.40 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 23,060.00 | 0 | 0.00 | |
1 พ.ค. 67 - 31 ส.ค. 67 | 1. กิจกรรมประชุมกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงและโรคความเบาหวาน | 0 | 20,960.00 | - | ||
1 มิ.ย. 67 - 31 ส.ค. 67 | ๒.กิจกรรมประชุมเชิงปฏิบัติการและเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้แก่กลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวาน | 0 | 2,100.00 | - |
- กลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานได้รับความรู้ ความเข้าใจและสามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างถูกต้อง ๒. อัตราป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานลดลง ๓. เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพลดโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2566 00:00 น.