กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

directions_run

โครงการตรวจคัดกรองสารเคมีในเลือดเกษตรกรและกลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาปูน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ปีงบประมาณ 2567

แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์

รายงานฉบับสมบูรณ์


โครงการ
“ โครงการตรวจคัดกรองสารเคมีในเลือดเกษตรกรและกลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาปูน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ปีงบประมาณ 2567 ”
ตำบลเขาปูน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง



หัวหน้าโครงการ
นางภัทรศิรา ฐิติกรกิจ




ชื่อโครงการ โครงการตรวจคัดกรองสารเคมีในเลือดเกษตรกรและกลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาปูน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ปีงบประมาณ 2567

ที่อยู่ ตำบลเขาปูน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง จังหวัด ตรัง

รหัสโครงการ 67-L1528-1-10 เลขที่ข้อตกลง 08/2567

ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 26 มกราคม 2567 ถึง 30 กันยายน 2567

กิตติกรรมประกาศ

"โครงการตรวจคัดกรองสารเคมีในเลือดเกษตรกรและกลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาปูน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ปีงบประมาณ 2567 จังหวัดตรัง" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลเขาปูน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.เขาปูน ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการตรวจคัดกรองสารเคมีในเลือดเกษตรกรและกลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาปูน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ปีงบประมาณ 2567



บทคัดย่อ

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อค้นหาประชากรกลุ่มเสี่ยงจากการบริโภคอาหาร และประกอบอาชีพเกษตรกรในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช (2) เพื่อตรวจหาระดับสารเคมีตกค้างในเลือดของประชากรกลุ่มเสี่ยงจากการใช้/ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (3) เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงจากการใช้/ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ได้ทราบผลการตรวจว่าอยู่ในระดับใด และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย

ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) ประชาสัมพันธ์โครงการ (2) ดำเนินการตรวจหาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในกลุ่มเกษตรกร/ผู้บริโภค ตามวัน และเวลาที่นัดหมาย (3) ประชาสัมพันธ์โครงการ (4) 2.1 กิจกรรมลงทะเบียน และรับแบบสอบถามคัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้ารับการเจาะเลือด 2.2 เตรียมเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ในการตรวจคัดกรองการตรวจเลือดโดยใช้กระดาษทดสอบเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส และชุดตรวจคัดกรองความเสี่ยงจากการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช 2.3 ดำเนินการตรว

ข้อเสนอแนะ ได้แก่ จากการดำเนินการ โครงการตรวจคัดกรองสารเคมีในเลือดเกษตรกรและกลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาปูน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ในครั้งนี้พบปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ ดังนี้ ปัญหาอุปสรรค :เครื่องปั่นฮีมาโตคริตที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาปูนไม่สามารถใช้งานได้ต้องนำส่งซ่อมกับโรงพยาบาลแม่ข่ายซึ่งใช้ระยะเวลาในการซ่อมค่อยข้างนาน โดยในวันที่ดำเนินกิจกรรมโครงการ ต้องนำเลือดที่เจาะจากผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด ไปปั่นที่ศูนย์สุขภาพชุมชนโรงพยาบาลห้วยยอด ทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการไม่ทราบผลหลังการเจาะเลือดในทันที แต่ทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งผลการตรวจสารเคมีตกค้างในเลือดผ่านทางกลุ่มไลน์อสม.และโทรแจ้งรายบุคคลสำหรับผู้ที่มีผลการตรวจสารเคมีอยู่ในระดับเสี่ยงและไม่ปลอดภัย เพื่อรับยาสมุนไพรรางจืดและทำการนัดหมายเจาะเลือดซ้ำครั้งที่ 2

ข้อเสนอแนะ : ก่อนการดำเนินโครงการควรมีการเช็คเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมหรือวางแผนแก้ไขปัญหาหากเกิดปัญหาหรือเหตุสุดวิสัยขึ้น ระหว่างการดำเนินกิจกรรมโครงการ

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"


สารบัญ

กิตติกรรมประกาศ»
บทคัดย่อ»
   ความเป็นมา/หลักการเหตุผล»
   วัตถุประสงค์โครงการ»
   กิจกรรม/การดำเนินงาน»
   กลุ่มเป้าหมาย»
   ผลลัพธ์ที่ได้»
   การประเมินผล»
   ปัญหาและอุปสรรค»
   ข้อเสนอแนะ»
   เอกสารประกอบอื่นๆ»

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

สถานการณ์โรคและภัยสุขภาพจากสารเคมีในปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นว่าแนวโน้มการนำเข้าสารเคมีกำจัดศัตรูพืชสูงขึ้น ส่งผลให้อัตราป่วยของโรคจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชเพิ่งสูงขึ้นเช่นกัน กลุ่มเกษตรกรเป็นกลุ่มแรงงานที่สำคัญของประเทศ และยังคงมีปัญหาการเจ็บป่วยจากพิษสารเคมีกำจัดศัตรูพืช และสารกำจัดแมลง ซึ่งอันตรายจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชดังกล่าวทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพทั้งเฉียบพลันและเรื้อรัง อาการแสดงเฉียบพลันมีตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนรุนแรงถึงแก่ชีวิตขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้น ความเป็นพิษและปริมาณที่ได้รับ ส่วนอาการเรื้อรังสารเคมีกำจัดศัตรูพืชจะสะสมในระบบต่างๆ ของร่างกายทำให้เกิดความผิดปกติในร่างกาย สารเคมีที่เข้าไปสะสมจะไปทำลายอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ตับ ไต ปอด สมอง ผิวหนัง ระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และตา ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าจะได้รับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายทางใด และปริมาณมากน้อยเพียงใด ส่วนใหญ่แล้วการที่อวัยวะภายในร่างกายได้สะสมสารเคมีไว้จนจนถึงขีดที่ร่างกายไม่อาจทนได้ จนแสดงอาการต่างๆขึ้นมา เช่น โรคมะเร็ง โรคต่อมไร้ท่อ โรคเลือด และระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น สารเคมีกำจัดศัตรูพืชสามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง โดยการสัมผัสทางผิวหนัง การสูดหายใจเอาละอองสารเคมีที่ฟุ้งกระจายในอากาศ และการรับประทานน้ำและอาหารที่มีสารเคมีปนเปื้อน ซึ่งพฤติกรรมการใช้สารเคมีที่ไม่ปลอดภัยนั้น ทำให้เกษตรกรผู้อาศัยในชุมชนและผู้บริโภคมีความเสี่ยงจากการได้รับอันตรายจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชเพิ่มขึ้น ในส่วนของการตรวจวิเคราะห์หาสารพวกออร์กาโนฟอสเฟตหรือคาร์บาเมท จากอวัยวะต่างๆ หรือจากเลือดมักจะได้ผลไม่ดี เนื่องจากสารพิษเหล่านั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในร่างกายอย่างรวดเร็ว โดยเกิดปฏิกิริยาทาง เคมีหลายอย่าง จึงนิยมใช้วิธีตรวจหาระดับของเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส (Cholinesterase Enzyme) ในเลือดและอวัยวะต่างๆ เป็นการยืนยันการเป็นพิษแทน เพราะสารเคมีทั้งสองกลุ่มนี้มีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส (Cholinesterase Enzyme) ซึ่งสามารถตรวจหาเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส (Cholinesterase Enzyme) โดยใช้กระดาษทดสอบพิเศษขององค์การเภสัชกรรม       ตำบลเขาปูน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรม โดยมีพื้นที่  ที่ใช้ในการเกษตรมากถึงร้อยละ ๘๐ ของพื้นที่ทั้งหมด ผลกระทบจากการใช้สารเคมีในการควบคุมและกำจัดศัตรูพืช จึงกระจายและขยายเป็นวงกว้าง ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาปูน จึงเล็งเห็นความสำคัญของสุขภาพเกษตรกรในพื้นที่ จึงได้จัดทำโครงการตรวจคัดกรองสารเคมีในเลือดเกษตรกรและกลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาปูน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ขึ้น เพื่อเป็นการค้นหาประชาชนกลุ่มเสี่ยงจากการบริโภคอาหารและจากการประกอบอาชีพเกษตรกรที่มีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และเพื่อประเมินและเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพของผู้ที่มีภาวะเสี่ยงจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช สร้างความตระหนักให้กับผู้บริโภครวมไปถึงเกษตรกรให้เห็นความสำคัญของอันตรายจากการใช้สารเคมีเพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพแบบมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพตนเองที่ถูกต้องและยั่งยืนต่อไป

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

  1. เพื่อค้นหาประชากรกลุ่มเสี่ยงจากการบริโภคอาหาร และประกอบอาชีพเกษตรกรในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช
  2. เพื่อตรวจหาระดับสารเคมีตกค้างในเลือดของประชากรกลุ่มเสี่ยงจากการใช้/ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช
  3. เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงจากการใช้/ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ได้ทราบผลการตรวจว่าอยู่ในระดับใด และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย

กิจกรรม/การดำเนินงาน

  1. ประชาสัมพันธ์โครงการ
  2. ดำเนินการตรวจหาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในกลุ่มเกษตรกร/ผู้บริโภค ตามวัน และเวลาที่นัดหมาย
  3. 2.1 กิจกรรมลงทะเบียน และรับแบบสอบถามคัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้ารับการเจาะเลือด 2.2 เตรียมเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ในการตรวจคัดกรองการตรวจเลือดโดยใช้กระดาษทดสอบเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส และชุดตรวจคัดกรองความเสี่ยงจากการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช 2.3 ดำเนินการตรว

กลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง 100
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

  1. ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับการตรวจคัดกรองเพื่อค้นหาสารเคมีตกค้างในเลือด
  2. ผู้เข้าร่วมโครงการมีความรู้และเข้าใจอันตรายจากการสารเคมีกำจัดศัตรูพืช รวมไปถึงสามารถป้องกันตัวเองได้ หากมีการสัมผัสหรือใกล้ชิดกับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช 3.  ผู้เข้าร่วมโครงการได้รู้ผลว่าระดับสารเคมีในเลือดของตนเองว่าอยู่ในระดับใด

ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ
ผลผลิต*
ผลผลิตที่ตั้งไว้ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง

1. 2.1 กิจกรรมลงทะเบียน และรับแบบสอบถามคัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้ารับการเจาะเลือด 2.2 เตรียมเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ในการตรวจคัดกรองการตรวจเลือดโดยใช้กระดาษทดสอบเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส และชุดตรวจคัดกรองความเสี่ยงจากการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช 2.3 ดำเนินการตรว

วันที่ 25 มกราคม 2567 เวลา 09:00 น.

กิจกรรมที่ทำ

ดำเนินโครงการ 1. วางแผนงาน/ โครงการ 2. จัดทำโครงการเสนอเพื่อขออนุมัติดำเนินการ 3. ประชาสัมพันธ์โครงการเพื่อเตรียมกลุ่มเป้าหมาย และนัด วัน เวลา และสถานที่ในการจัดกิจกรรม 4. ดำเนินการตรวจหาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในกลุ่มเกษตรกร/ผู้บริโภค ตามวัน และเวลาที่นัดหมาย 5. แจ้งผลการตรวจพร้อมคำแนะนำที่ถูกต้องในการดูแลสุขภาพ 6. ตรวจคัดกรองซ้ำในกลุ่มเป้าหมายที่มีผลการตรวจเลือดรอบแรก จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มไม่ปลอดภัย (ตรวจซ้ำครั้งที่ 2) 7. แจ้งผลการตรวจสำหรับกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มไม่ปลอดภัย (ตรวจซ้ำครั้งที่ 2)

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

ผลการดำเนินการ วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 : เพื่อค้นหาประชากรกลุ่มเสี่ยงจากการบริโภคอาหาร และประกอบอาชีพเกษตรกรในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช เครื่องมือวิธีการ :  แบบประเมินความเสี่ยงการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช กิจกรรม : ลงทะเบียนและรับแบบสอบถามคัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้ารับการเจาะเลือด วิธีการดำเนินการ :  1. เจ้าหน้าที่รพ.สต.คัดกรองความเสี่ยงของกลุ่มเป้าหมายก่อนเข้ารับการเจาะเลือดโดยใช้แบบประเมินความเสี่ยงในการทำงานของเกษตรกรจากการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช                             2. เจ้าหน้าที่รพ.สต.แจกแผ่นพับความรู้พร้อมแนะนำให้ความรู้ในเรื่องของอันตรายจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช/ทำอย่างไรจึงจะปลอดภัยจากการสารเคมีกำจัดศัตรูพืช/ข้อควรระวัง ให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ ผลการใช้จ่ายงบประมาณ
1. ค่าป้ายไวนิลประชาสัมพันธ์โครงการ ขนาด 1.5x2 เมตร จำนวน 1 ป้าย เป็นเงิน 500 บาท 2. แบบประเมินความเสี่ยง จำนวน 100 ชุด ชุดละ 2 บาท เป็นเงิน 200 บาท 3. แผ่นพับความรู้(สี) จำนวน 100 แผ่น แผ่นละ 10 บาท เป็นเงิน 1,000 บาท จากการดำเนินโครงการในครั้งนี้ : มีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 106 คน ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนได้รับการตรวจคัดกรองประเมินภาวะเสี่ยงจากการใช้และสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนทราบระดับความเสี่ยงของตนเองและรู้แนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง ในการจัดโครงการในครั้งนี้ บรรลุตามวัตถุประสงค์ วัตถุประสงค์ข้อที่ 2 : เพื่อตรวจหาระดับสารเคมีตกค้างในเลือดของประชากรกลุ่มเสี่ยงจากการใช้/ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช เครื่องมือวิธีการ : ตรวจหาระดับสารเคมีตกค้างในเลือดของประชากรกลุ่มเสี่ยงจากการใช้/ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช โดยใช้ใช้กระดาษทดสอบพิเศษขององค์การเภสัชกรรม(กระดาษทดสอบโคลีนเอสเตอเรส) กิจกรรม : ตรวจคัดกรองหาระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส

วิธีการดำเนินการ : 1.  เจาะเลือดประชากรกลุ่มเสี่ยงจากการใช้/ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช
2.  ปริมาณเลือดใน Capillary tube ต้องไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ส่วนของ tube และดินน้ำมันอุด tube ต้องมีความหนาพอที่จะไม่หลุด ขณะปั่นด้วยเครื่องปั่นฮีมาโตคริต 3. วัดค่าฮีมาโตคริต % แล้วบันทึกผล
4.  เตรียมสไลด์ไว้ 1 คู่  จิ้มเข็มเบอร์ 18 ที่กระดาษทดสอบโคลีนเอสเตอเรส จำนวน 2 ชิ้น วางบนแผ่นสไลด์หัวและท้ายสไลด์ที่วางอยู่บนแผ่นกระดาษแผ่นตารางวางสไลด์เจาะเลือด
5. สอด Capillary tube ที่ที่มีซีรั่มและเลือดเข้าไปในไซริงที่เอา plunger ออก ให้ถึงบริเวณระดับของเลือดและซีรั่มแล้วมือกดและหัก tube ด้านที่เป็นเลือดก็จะเข้าไปในถุงพลาสติก 6. เหยาะซีรั่มไปบนกระดาษโคลีนเอสเตอร์เรสให้ทั่วแผ่น(ต้องให้ทั่วแผ่นกระดาษ) ประกบสไลด์เพื่อป้องกันกระดาษโคลีนฯแห้งก่อนการแปรผล 7 นาที  โดยระบุเวลาเริ่มต้น และระบุเวลาสิ้นสุด 7. เมื่อครบกำหนด 7 นาที อ่านผลการเจาะ ตามแผ่นเทียบสี  (0 ปกติ) (1ปลอดภัย)  (2 มีความเสี่ยง)  (3 ไม่ปลอดภัย)
ผลการใช้จ่ายงบประมาณ
1. กระดาษทดสอบโคลีนเอสเตอเรส จำนวน 2 ขวด ขวดละ 1,000 บาท เป็นเงิน 2,000 บาท 2. เข็มเจาะปลายนิ้ว จำนวน 2 กล่อง กล่องละ 800 บาท เป็นเงิน 1,600 บาท 3. Tube ฮีมาโตคริท (100ชิ้น) จำนวน 2 หลอด หลอดละ 100 บาท เป็นเงิน 200 บาท 4.ถาดดินน้ำมัน (10 อัน ) จำนวน 1 กล่อง เป็นเงิน 800 บาท 5.ถุงมือยาง (50 คู่) จำนวน 2 กล่อง กล่องละ 130 บาท เป็นเงิน 260 บาท 6.สำลีก้อนชุบแอลกอฮอล์ จำนวน 1 กล่อง เป็นเงิน 600 บาท 7. Slide ขนาด 2.5 X 7.5 cm.(72 แผ่น) จำนวน 1 กล่อง เป็นเงิน 70 บาท 8. อาหารว่างและเครื่องดื่ม จำนวน 100 คน คนละ 25 บาท เป็นเงิน 2,500 บาท
จากการดำเนินโครงการในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการที่มีความเสี่ยงจากการใช้/ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ทั้ง 106 คน ได้รับการเจาะเลือด ตรวจคัดกรอง ค้นหาระดับสารเคมีตกค้างในเลือดโดยวิธี Reactive Paper test ครบทุกคน
ในการจัดโครงการในครั้งนี้ บรรลุตามวัตถุประสงค์ วัตถุประสงค์ข้อที่ 3 : เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงจากการใช้/ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ได้ทราบผลการตรวจว่าอยู่ในระดับใด และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย เครื่องมือวิธีการ :  รายงานผลการตรวจคัดกรอง กิจกรรม : รายงานแจ้งผลให้กับผู้เข้าร่วมโครงการได้ทราบผลการตรวจสารเคมีตกค้างในเลือดของตนเอง วิธีการดำเนินการ :  1. หลังการตรวจหาระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส สารเคมีตกค้างในเลือดของผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน เจ้าหน้าที่รพ.สต.จะอ่านผล และแจ้งผลให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการทราบ                             2.จ่ายสมุนไพรรางจืด กรณี อยู่ในระดับความเสี่ยง และระดับไม่ปลอดภัย จำนวน 30 แคปซูล/คน  เมื่อทานยาครบแล้วพักอีก 15 วัน แล้วให้ผู้ที่มีความเสี่ยงเจาะเลือดอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2             3. เจ้าหน้าที่แนะนำวิธีการรับประทานยาสมุนไพรรางจืด และวิธีการปฏิบัติตนในการใช้สารเคมีที่ถูกต้องปลอดภัยและมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพที่ดี ผลการใช้จ่ายงบประมาณ
  1. สมุนไพรล้างสารพิษรางจืด (500mg) จำนวน 5 กระปุก กระปุกละ 150 บาท เป็นเงิน 750 บาท
จากการดำเนินโครงการในครั้งนี้ ผลการตรวจหาระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส สารเคมีตกค้างในเลือดของผู้เข้าร่วมโครงการ ทั้ง 106 คน พบว่า อยู่ในระดับปกติ จำนวน 46 คน ระดับปลอดภัย จำนวน 41 คน ระดับเสี่ยง จำนวน 7 คน และระดับไม่ปลอดภัย จำนวน 12 คน  ซึ่งผู้ที่มีผลการตรวจหาระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส อยู่ในระดับที่มีความเสี่ยงและไม่ปลอดภัย จะได้รับยาสมุนไพรรางจืด คนละ 30 แคปซูล  เมื่อทานยาครบแล้วพักอีก 15 วัน นัดผู้ที่มีความเสี่ยงเจาะเลือดอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 เพื่อดูผลหลังการรับประทานยาสมุนไพรรางจืด โดยผลการตรวจตรวจหาระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส สารเคมีตกค้างในเลือดของผู้ที่อยู่ในระดับที่มีความเสี่ยงและไม่ปลอดภัย จำนวน 19 คน ในครั้งที่ 2 พบว่า อยู่ในระดับปกติจำนวน 1 คน ระดับปลอดภัย จำนวน 8 คน ระดับเสี่ยง จำนวน 9 คน และระดับไม่ปลอดภัย จำนวน 1 คน ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนทราบผลการตรวจว่าตนเองมีสารเคมีตกค้างในเลือดอยู่ในระดับใด รู้วิธีการปฏิบัติตนในการใช้สารเคมีที่ถูกต้องปลอดภัยและมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพที่ดี ในการจัดโครงการในครั้งนี้ บรรลุตามวัตถุประสงค์ จากการดำเนินการ โครงการตรวจคัดกรองสารเคมีในเลือดเกษตรกรและกลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาปูน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ปีงบประมาณ 2567  ในครั้งนี้พบปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ ดังนี้ ปัญหาอุปสรรค 1.เครื่องปั่นฮีมาโตคริตที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาปูนไม่สามารถใช้งานได้ต้องนำส่งซ่อมกับโรงพยาบาลแม่ข่ายซึ่งใช้ระยะเวลาในการซ่อมค่อยข้างนาน โดยในวันที่ดำเนินกิจกรรมโครงการ ต้องนำเลือดที่เจาะจากผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด ไปปั่นที่ศูนย์สุขภาพชุมชนโรงพยาบาลห้วยยอด ทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการไม่ทราบผลหลังการเจาะเลือดในทันที แต่ทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งผลการตรวจสารเคมีตกค้างในเลือดผ่านทางกลุ่มไลน์อสม.และโทรแจ้งรายบุคคลสำหรับผู้ที่มีผลการตรวจสารเคมีอยู่ในระดับเสี่ยงและไม่ปลอดภัย เพื่อรับยาสมุนไพรรางจืดและทำการนัดหมายเจาะเลือดซ้ำครั้งที่ 2
ข้อเสนอแนะ 1.ก่อนการดำเนินโครงการควรมีการเช็คเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมหรือวางแผนแก้ไขปัญหาหากเกิดปัญหาหรือเหตุสุดวิสัยขึ้น ระหว่างการดำเนินกิจกรรมโครงการ

 

100 0

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น


ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม

ผลการดำเนินโครงการ

สรุปผลการดำเนินโครงการ

ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 : เพื่อค้นหาประชากรกลุ่มเสี่ยงจากการบริโภคอาหาร และประกอบอาชีพเกษตรกรในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช เครื่องมือวิธีการ : แบบประเมินความเสี่ยงการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช กิจกรรม : ลงทะเบียนและรับแบบสอบถามคัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้ารับการเจาะเลือด วิธีการดำเนินการ : 1. เจ้าหน้าที่รพ.สต.คัดกรองความเสี่ยงของกลุ่มเป้าหมายก่อนเข้ารับการเจาะเลือดโดยใช้แบบประเมินความเสี่ยงในการทำงานของเกษตรกรจากการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช       2. เจ้าหน้าที่รพ.สต.แจกแผ่นพับความรู้พร้อมแนะนำให้ความรู้ในเรื่องของอันตรายจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช/ทำอย่างไรจึงจะปลอดภัยจากการสารเคมีกำจัดศัตรูพืช/ข้อควรระวัง ให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ ผลการใช้จ่ายงบประมาณ
1. ค่าป้ายไวนิลประชาสัมพันธ์โครงการ ขนาด 1.5x2 เมตร จำนวน 1 ป้าย เป็นเงิน 500 บาท 2. แบบประเมินความเสี่ยง จำนวน 100 ชุด ชุดละ 2 บาท เป็นเงิน 200 บาท 3. แผ่นพับความรู้(สี) จำนวน 100 แผ่น แผ่นละ 10 บาท เป็นเงิน 1,000 บาท จากการดำเนินโครงการในครั้งนี้ : มีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 106 คน ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนได้รับการตรวจคัดกรองประเมินภาวะเสี่ยงจากการใช้และสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนทราบระดับความเสี่ยงของตนเองและรู้แนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง ในการจัดโครงการในครั้งนี้ บรรลุตามวัตถุประสงค์ วัตถุประสงค์ข้อที่ 2 : เพื่อตรวจหาระดับสารเคมีตกค้างในเลือดของประชากรกลุ่มเสี่ยงจากการใช้/ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช เครื่องมือวิธีการ : ตรวจหาระดับสารเคมีตกค้างในเลือดของประชากรกลุ่มเสี่ยงจากการใช้/ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช โดยใช้ใช้กระดาษทดสอบพิเศษขององค์การเภสัชกรรม(กระดาษทดสอบโคลีนเอสเตอเรส) กิจกรรม : ตรวจคัดกรองหาระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส วิธีการดำเนินการ : 1. เจาะเลือดประชากรกลุ่มเสี่ยงจากการใช้/ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช
2. ปริมาณเลือดใน Capillary tube ต้องไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ส่วนของ tube และดินน้ำมันอุด tube ต้องมีความหนาพอที่จะไม่หลุด ขณะปั่นด้วยเครื่องปั่นฮีมาโตคริต 3. วัดค่าฮีมาโตคริต % แล้วบันทึกผล
4. เตรียมสไลด์ไว้ 1 คู่ จิ้มเข็มเบอร์ 18 ที่กระดาษทดสอบโคลีนเอสเตอเรส จำนวน 2 ชิ้น วางบนแผ่นสไลด์หัวและท้ายสไลด์ที่วางอยู่บนแผ่นกระดาษแผ่นตารางวางสไลด์เจาะเลือด
5. สอด Capillary tube ที่ที่มีซีรั่มและเลือดเข้าไปในไซริงที่เอา plunger ออก ให้ถึงบริเวณระดับของเลือดและซีรั่มแล้วมือกดและหัก tube ด้านที่เป็นเลือดก็จะเข้าไปในถุงพลาสติก 6. เหยาะซีรั่มไปบนกระดาษโคลีนเอสเตอร์เรสให้ทั่วแผ่น(ต้องให้ทั่วแผ่นกระดาษ) ประกบสไลด์เพื่อป้องกันกระดาษโคลีนฯแห้งก่อนการแปรผล 7 นาที โดยระบุเวลาเริ่มต้น และระบุเวลาสิ้นสุด 7. เมื่อครบกำหนด 7 นาที อ่านผลการเจาะ ตามแผ่นเทียบสี (0 ปกติ) (1ปลอดภัย) (2 มีความเสี่ยง) (3 ไม่ปลอดภัย)
ผลการใช้จ่ายงบประมาณ
1. กระดาษทดสอบโคลีนเอสเตอเรส จำนวน 2 ขวด ขวดละ 1,000 บาท เป็นเงิน 2,000 บาท 2. เข็มเจาะปลายนิ้ว จำนวน 2 กล่อง กล่องละ 800 บาท เป็นเงิน 1,600 บาท 3. Tube ฮีมาโตคริท (100ชิ้น) จำนวน 2 หลอด หลอดละ 100 บาท เป็นเงิน 200 บาท 4.ถาดดินน้ำมัน (10 อัน ) จำนวน 1 กล่อง เป็นเงิน 800 บาท 5.ถุงมือยาง (50 คู่) จำนวน 2 กล่อง กล่องละ 130 บาท เป็นเงิน 260 บาท 6.สำลีก้อนชุบแอลกอฮอล์ จำนวน 1 กล่อง เป็นเงิน 600 บาท 7. Slide ขนาด 2.5x7.5 cm.(72 แผ่น) จำนวน 1 กล่อง เป็นเงิน 70 บาท 8. อาหารว่างและเครื่องดื่ม จำนวน 100 คน คนละ 25 บาท เป็นเงิน 2,500 บาท
จากการดำเนินโครงการในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการที่มีความเสี่ยงจากการใช้/ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ทั้ง 106 คน ได้รับการเจาะเลือด ตรวจคัดกรอง ค้นหาระดับสารเคมีตกค้างในเลือดโดยวิธี Reactive Paper test ครบทุกคน
ในการจัดโครงการในครั้งนี้ บรรลุตามวัตถุประสงค์ วัตถุประสงค์ข้อที่ 3 : เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงจากการใช้/ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ได้ทราบผลการตรวจว่าอยู่ในระดับใด และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย เครื่องมือวิธีการ : รายงานผลการตรวจคัดกรอง กิจกรรม : รายงานแจ้งผลให้กับผู้เข้าร่วมโครงการได้ทราบผลการตรวจสารเคมีตกค้างในเลือดของตนเอง วิธีการดำเนินการ : 1. หลังการตรวจหาระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส สารเคมีตกค้างในเลือดของผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน เจ้าหน้าที่รพ.สต.จะอ่านผล และแจ้งผลให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการทราบ       2. จ่ายสมุนไพรรางจืด กรณี อยู่ในระดับความเสี่ยง และระดับไม่ปลอดภัย จำนวน 30 แคปซูล/คน เมื่อทานยาครบแล้วพักอีก 15 วัน แล้วให้ผู้ที่มีความเสี่ยงเจาะเลือดอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2   3. เจ้าหน้าที่แนะนำวิธีการรับประทานยาสมุนไพรรางจืด และวิธีการปฏิบัติตนในการใช้สารเคมีที่ถูกต้องปลอดภัยและมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพที่ดี ผลการใช้จ่ายงบประมาณ
1. สมุนไพรล้างสารพิษรางจืด (500mg) จำนวน 5 กระปุก กระปุกละ 150 บาท
เป็นเงิน 750 บาท
จากการดำเนินโครงการในครั้งนี้ ผลการตรวจหาระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส สารเคมีตกค้างในเลือดของผู้เข้าร่วมโครงการ ทั้ง 106 คน พบว่า อยู่ในระดับปกติ จำนวน 46 คน ระดับปลอดภัย จำนวน 41 คน ระดับเสี่ยง จำนวน 7 คน และระดับไม่ปลอดภัย จำนวน 12 คน ซึ่งผู้ที่มีผลการตรวจหาระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส อยู่ในระดับที่มีความเสี่ยงและไม่ปลอดภัย จะได้รับยาสมุนไพรรางจืด คนละ ๓๐ แคปซูล เมื่อทานยาครบแล้วพักอีก 15 วัน นัดผู้ที่มีความเสี่ยงเจาะเลือดอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 เพื่อดูผลหลังการรับประทานยาสมุนไพรรางจืด โดยผลการตรวจตรวจหาระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส สารเคมีตกค้างในเลือดของผู้ที่อยู่ในระดับที่มีความเสี่ยงและไม่ปลอดภัย จำนวน 19 คน ในครั้งที่ 2 พบว่า อยู่ในระดับปกติจำนวน 1 คน ระดับปลอดภัย จำนวน 8 คน ระดับเสี่ยง จำนวน 9 คน และระดับไม่ปลอดภัย จำนวน 1 คน ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนทราบผลการตรวจว่าตนเองมีสารเคมีตกค้างในเลือดอยู่ในระดับใด รู้วิธีการปฏิบัติตนในการใช้สารเคมีที่ถูกต้องปลอดภัยและมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพที่ดี ในการจัดโครงการในครั้งนี้ บรรลุตามวัตถุประสงค์ จากการดำเนินการ โครงการตรวจคัดกรองสารเคมีในเลือดเกษตรกรและกลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาปูน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ในครั้งนี้พบปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ ดังนี้ ปัญหาอุปสรรค 1.เครื่องปั่นฮีมาโตคริตที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาปูนไม่สามารถใช้งานได้ต้องนำส่งซ่อมกับโรงพยาบาลแม่ข่ายซึ่งใช้ระยะเวลาในการซ่อมค่อยข้างนาน โดยในวันที่ดำเนินกิจกรรมโครงการ ต้องนำเลือดที่เจาะจากผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด ไปปั่นที่ศูนย์สุขภาพชุมชนโรงพยาบาลห้วยยอด ทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการไม่ทราบผลหลังการเจาะเลือดในทันที แต่ทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งผลการตรวจสารเคมีตกค้างในเลือดผ่านทางกลุ่มไลน์อสม.และโทรแจ้งรายบุคคลสำหรับผู้ที่มีผลการตรวจสารเคมีอยู่ในระดับเสี่ยงและไม่ปลอดภัย เพื่อรับยาสมุนไพรรางจืดและทำการนัดหมายเจาะเลือดซ้ำครั้งที่ 2

ข้อเสนอแนะ 2.ก่อนการดำเนินโครงการควรมีการเช็คเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมหรือวางแผนแก้ไขปัญหาหากเกิดปัญหาหรือเหตุสุดวิสัยขึ้น ระหว่างการดำเนินกิจกรรมโครงการ

ผลผลิตโครงการ

วัตถุประสงค์สถานการณ์เป้าหมายผลผลิตอธิบาย
1 เพื่อค้นหาประชากรกลุ่มเสี่ยงจากการบริโภคอาหาร และประกอบอาชีพเกษตรกรในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช
ตัวชี้วัด : ร้อยละ 100 ของผู้เข้าร่วมโครงการได้รับการตรวจคัดกรองประเมินภาวะเสี่ยงจากการใช้และสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช
100.00

 

2 เพื่อตรวจหาระดับสารเคมีตกค้างในเลือดของประชากรกลุ่มเสี่ยงจากการใช้/ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช
ตัวชี้วัด : ร้อยละ 100 ของผู้เข้าร่วมโครงการได้รับการตรวจคัดกรองเพื่อค้นหาสารเคมีตกค้างในเลือด
100.00

 

3 เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงจากการใช้/ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ได้ทราบผลการตรวจว่าอยู่ในระดับใด และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
ตัวชี้วัด : ร้อยละ 100 ของผู้เข้าร่วมโครงการได้รู้ผลว่าระดับสารเคมีในเลือดของตนเองว่าอยู่ในระดับใด
100.00

 

ผู้เข้าร่วมโครงการ

กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 100 100
กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน -
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน -
กลุ่มวัยทำงาน -
กลุ่มผู้สูงอายุ -
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด -
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง -
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ -
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง 100 100
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] -

บทคัดย่อ*

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อค้นหาประชากรกลุ่มเสี่ยงจากการบริโภคอาหาร และประกอบอาชีพเกษตรกรในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช (2) เพื่อตรวจหาระดับสารเคมีตกค้างในเลือดของประชากรกลุ่มเสี่ยงจากการใช้/ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (3) เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงจากการใช้/ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ได้ทราบผลการตรวจว่าอยู่ในระดับใด และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย

ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) ประชาสัมพันธ์โครงการ (2) ดำเนินการตรวจหาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในกลุ่มเกษตรกร/ผู้บริโภค ตามวัน และเวลาที่นัดหมาย (3) ประชาสัมพันธ์โครงการ (4) 2.1 กิจกรรมลงทะเบียน และรับแบบสอบถามคัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้ารับการเจาะเลือด 2.2 เตรียมเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ในการตรวจคัดกรองการตรวจเลือดโดยใช้กระดาษทดสอบเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส และชุดตรวจคัดกรองความเสี่ยงจากการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช 2.3 ดำเนินการตรว

ข้อเสนอแนะ ได้แก่ จากการดำเนินการ โครงการตรวจคัดกรองสารเคมีในเลือดเกษตรกรและกลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาปูน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ในครั้งนี้พบปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ ดังนี้ ปัญหาอุปสรรค :เครื่องปั่นฮีมาโตคริตที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาปูนไม่สามารถใช้งานได้ต้องนำส่งซ่อมกับโรงพยาบาลแม่ข่ายซึ่งใช้ระยะเวลาในการซ่อมค่อยข้างนาน โดยในวันที่ดำเนินกิจกรรมโครงการ ต้องนำเลือดที่เจาะจากผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด ไปปั่นที่ศูนย์สุขภาพชุมชนโรงพยาบาลห้วยยอด ทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการไม่ทราบผลหลังการเจาะเลือดในทันที แต่ทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งผลการตรวจสารเคมีตกค้างในเลือดผ่านทางกลุ่มไลน์อสม.และโทรแจ้งรายบุคคลสำหรับผู้ที่มีผลการตรวจสารเคมีอยู่ในระดับเสี่ยงและไม่ปลอดภัย เพื่อรับยาสมุนไพรรางจืดและทำการนัดหมายเจาะเลือดซ้ำครั้งที่ 2

ข้อเสนอแนะ : ก่อนการดำเนินโครงการควรมีการเช็คเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมหรือวางแผนแก้ไขปัญหาหากเกิดปัญหาหรือเหตุสุดวิสัยขึ้น ระหว่างการดำเนินกิจกรรมโครงการ

หมายเหตุ *

  • บทคัดย่อ จะนำไปใส่ในส่วนบทคัดย่อของรายงานฉบับสมบูรณ์
  • หากต้องการใช้ค่าเริ่มต้นของบทคัดย่อ ให้ลบข้อความในช่องบทคัดย่อ ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Refresh

ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ

ปัญหาและอุปสรรคสาเหตุข้อเสนอแนะ

 

 

 


ส่วนที่ 3 ประเมินคุณค่าโครงการ

แบบประเมินคุณค่าของโครงการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสริมสุขภาพ

ชื่อโครงการ โครงการตรวจคัดกรองสารเคมีในเลือดเกษตรกรและกลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาปูน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ปีงบประมาณ 2567

รหัสโครงการ 67-L1528-1-10 รหัสสัญญา 08/2567 ระยะเวลาโครงการ 26 มกราคม 2567 - 30 กันยายน 2567

แบบประเมินคุณค่าของโครงการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสริมสุขภาพ เป็นการคุณค่าที่เกิดจากโครงการในมิติต่อไปนี้

  • ความรู้ด้านการสร้างเสริมสุขภาพและนวัตกรรมเชิงระบบสุขภาพชุมชน
  • การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่มีผลต่อสุขภาวะ
  • การปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาวะ
  • ผลกระทบเชิงบวกและนโยบายสาธารณะที่เอื้อต่อการสร้างสุขภาวะชุมชน
  • กระบวนการชุมชน
  • มิติสุขภาวะปัญญา / สุขภาวะทางจิตวิญญาณ

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่

1. เกิดความรู้ หรือ นวัตกรรมชุมชน

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
1. ความรู้ใหม่ / องค์ความรู้ใหม่

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
2. สิ่งประดิษฐ์ / ผลผลิตใหม่

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
3. กระบวนการใหม่

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
4. วิธีการทำงาน / การจัดการใหม่

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
5. การเกิดกลุ่ม / โครงสร้างในชุมชนใหม่

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
6. แหล่งเรียนรู้ใหม่

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
99. อื่นๆ

 

 

 

2. เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เอื้อต่อสุขภาพ

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
1. การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
2. การบริโภค

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
3. การออกกำลังกาย

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
4. การลด ละ เลิก อบายมุข เช่น การพนัน เหล้า บุหรี่

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
5. การลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ การขับรถโดยประมาท

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
6. การจัดการอารมณ์ / ความเครียด

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
7. การดำรงชีวิต / วิถีชีวิต เช่น การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สมุนไพรในการดูแลสุขภาพตนเอง

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
8. พฤติกรรมการจัดการตนเอง ครอบครัว ชุมชน

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
9. อื่นๆ

 

 

 

3. การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ (กายภาพ สังคม และเศรษฐกิจ)

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
1. กายภาพ เช่น มีการจัดการขยะ ป่า น้ำ การใช้สารเคมีเกษตร และการสร้างสิ่งแวดล้อมในครัวเรือนที่ถูกสุขลักษณะ

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
2. สังคม เช่น มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ลดการเกิดอุบัติเหตุ ครอบครัวอบอุ่น การจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อเด็ก เยาวชน และกลุ่มวัยต่าง ๆ มีพื้นที่สาธารณะ/พื้นที่ทางสังคม เพื่อเอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพของคนในชุมชน มีการใช้ศาสนา/วัฒนธรรมเป็นฐานการพัฒนา

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
3. เศรษฐกิจสร้างสรรค์สังคม /สร้างอาชีพ / เพิ่มรายได้

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
4. มีการบริการสุขภาพทางเลือก และมีช่องทางการเข้าถึงระบบบริการสุขภาพ

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
5. อื่นๆ

 

 

 

4. การพัฒนานโยบายสาธารณะที่เอื้อต่อสุขภาวะ

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
1. มีกฎ / กติกา ของกลุ่ม ชุมชน

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
2. มีมาตรการทางสังคมของกลุ่ม ชุมชน

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
3. มีธรรมนูญของชุมชน

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
4. อื่นๆ เช่น ออกเป็นข้อบัญญัติท้องถิ่น ฯลฯ

 

 

 

5. เกิดกระบวนการชุมชน

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
1. เกิดการเชื่อมโยงประสานงานระหว่างกลุ่ม / เครือข่าย (ใน และหรือนอกชุมชน)

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
2. การเรียนรู้การแก้ปัญหาชุมชน (การประเมินปัญหา การวางแผน การปฏิบัติการ และการประเมิน)

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
3. การใช้ประโยชน์จากทุนในชุมชน เช่น การระดมทุน การใช้ทรัพยากรบุคคลในชุมชน

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
4. มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานของกลุ่มและชุมชนที่เกิดจากโครงการอย่างต่อเนื่อง

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
5. เกิดกระบวนการจัดการความรู้ในชุมชน

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
6. เกิดทักษะในการจัดการโครงการ เช่น การใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ การทำแผนปฏิบัติการ

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
7. อื่นๆ

 

 

 

6. มิติสุขภาวะปัญญา / สุขภาวะทางจิตวิญญาณ

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
1. ความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง / กลุ่ม / ชุมชน

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
2. การเห็นประโยชน์ส่วนรวมและส่วนตนอย่างสมดุล

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
3. การใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และพอเพียง

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
4. ชุมชนมีความเอื้ออาทร

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
5. มีการตัดสินใจโดยใช้ฐานปัญญา

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
6. อื่นๆ

 

 

 

โครงการตรวจคัดกรองสารเคมีในเลือดเกษตรกรและกลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาปูน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ปีงบประมาณ 2567 จังหวัด ตรัง

รหัสโครงการ 67-L1528-1-10

ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว

................................
( นางภัทรศิรา ฐิติกรกิจ )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......

vertical_align_topไปบนสุด