โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดโรค และชะลอความเสื่อมของไตในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนาทอน ปี ๒๕๖๗
ชื่อโครงการ | โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดโรค และชะลอความเสื่อมของไตในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนาทอน ปี ๒๕๖๗ |
รหัสโครงการ | 67-L5294-01-04 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนาทอน |
วันที่อนุมัติ | 1 เมษายน 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 เมษายน 2567 - 30 กันยายน 2567 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 27,400.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางหทัยกาญจน์ สันมาหมีน |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | พื้นที่รับผิดชอบ ม.1 ม.2 ม.3 ม.6 และ ม.7 |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 40 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
***ข้อมูลจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่าโรคเรื้อรังหรือโรคไม่ติดต่อเป็น โรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ได้แก่ การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ การไม่ออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีรสเหวาน มัน เค็มจัด รวมถึงความเครียด ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคร้าย ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมองและหัวใจ มะเร็ง ถุงลมโป่งพองและ โรคอ้วนลงพุง และทำให้อายุไขของคนป่วยกลุ่มนี้จะมีอายุต่ำกว่า ๖๐ ปี โดยจากสถิติพบว่า คนไทยเสียชีวิตด้วยโรคกลุ่มดังกล่าวมากกว่าปี ละ ๓ แสนคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
***ปัจจุบันโรคเรื้อรังที่เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญในคือ โรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน ถ้าไม่รับการดูแลรักษาและปฏิบัติตัวที่เหมาะสม จะส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมามากมาย โดยเฉพาะโรคไตเรื้อรัง (chronic kidney disease) ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยพบว่ามีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังมากถึงร้อยละ ๑๗.๕ ของประชากรที่เป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนาทอน มีผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ขึ้นทะเบียน จำนวนทั้งหมด ๔๗๕ ราย ผู้ป่วยเบาหวานที่ขึ้นทะเบียน จำนวน ๑๖๖ คน (ข้อมูลจาก HDC ปีงบประมาณ 2566) และจากการตรวจร่างกายประจำปีของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตและโรคเบาหวาน ในปี งบประมาณ ๒๕๖๖ พบว่ามีภาวะเสี่ยงโรคไตเรื้อรังระยะ ๓ ขึ้นไป จำนวน ๑๔ ราย ,ผู้ป่วยต้องล้างไตทางหน้าท้อง จำนวน ๑ ราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อโรคดำเนินเข้าสู่ระยะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย (end stage renal disease ERSD) จะต้องได้รับการรักษาบำบัดทดแทนไต การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม การล้างไตทางช่องท้อง การผ่าตัดปลูกถ่ายไต เมื่อเป็นโรคไตเรื้อรังในระยะสุดท้ายจะส่งผลต่อคุณภาพของผู้ป่วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และประเทศจะต้องสูญเสียงบประมาณด้านสาธารณสุขเป็นเงินจำนวนมหาศาล เป็นสาเหตุการป่วย พิการและเสียชีวิตอันดับต้นๆ ส่งผลให้เกิดภาระและสูญเสียในทุกมิติทั้งกาย จิต สังคม เศรษฐกิจต่อทั้งผู้ป่วย ครอบครัว และประเทศชาติ โดยมีปัจจัยเสี่ยงหลักที่สำคัญต่อการเกิดโรคดังนี้ ภาวะความดันโลหิตสูงและเบาหวานควบคุมโรคไม่ได้ ภาวะไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ ภาวะอ้วนลงพุง
***ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขตำบลบ้านนาทอนได้ตระหนักถึงความสำคัญ เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงที่มีภาวะเสี่ยงสูง เกิดอุบัติการณ์มีภาวะไตเสื่อมเพิ่มขึ้นและเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนกลุ่มป่วยและผู้ดูแล รวมทั้งแกนนำหมู่บ้าน มีความตระหนัก เล็งเห็นความสำคัญในการปรับเปลี่ยนสุขภาพในการป้องกันโรค ลดโรค ซึ่งประกอบกับเครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินงานคือ เครื่องวัดความดันโลหิตที่มีอยู่ในชุมชน ชำรุดและมีไม่ครบทุกหมู่บ้าน และแพทย์ให้มีการติดตามวัดความดันโลหิตที่บ้าน ทางรพ.สต.บ้านนาทอนจึงได้จัดทำโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดโรค และชะลอความเสื่อมของไตในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ข้อที่ ๑ เพื่อให้กลุ่มป่วย ผู้ดูแล ได้รับความรู้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ถูกต้องเพื่อชะลอภาวะไตเสื่อม ผู้ป่วย ผู้ดูแล ที่ผ่านการอบรมมีความรู้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อชะลอภาวะไตเสื่อม ร้อยละ ๑๐๐ |
0.00 | |
2 | ข้อที่ ๒ เพื่อให้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงที่เสี่ยงต่อภาวะไตเสื่อมได้รับการดูแลติดตาม ผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงที่เสี่ยงต่อภาวะไตเสื่อมได้รับการดูแลติดตาม ร้อยละ ๑๐๐ |
0.00 | |
3 | ข้อ ๓ เพื่อให้อสม.แกนนำมีความรู้และทักษะการดูแลกลุ่มป่วยที่เสี่ยงต่อภาวะไตเสื่อมในชุมชนได้อย่างถูกต้อง อสม.แกนนำมีความรู้และทักษะการดูแลกลุ่มป่วยที่เสี่ยงต่อภาวะไตเสื่อม ร้อยละ ๑๐๐ |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 27,400.00 | 0 | 0.00 | |
1 - 31 มี.ค. 67 | ๑.เขียนโครงการเพื่อขออนุมัติ | 0 | 0.00 | - | ||
1 - 30 มี.ค. 67 | ๒.ประชาสัมพันธ์โครงการในพื้นที่ ม.1, ม.2, ม.3, ม.6 และ ม.7 ต.นาทอน | 0 | 0.00 | - | ||
1 - 31 มี.ค. 67 | 3.ประชุมชี้แจงโครงการแก่ จนท.และอสม. | 0 | 0.00 | - | ||
1 - 30 มิ.ย. 67 | ๔. จัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับโรคไตและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อชะลอภาวะไตเสื่อม | 0 | 14,900.00 | - | ||
1 - 31 ก.ค. 67 | ๕. จัดตั้งแกนนำอสม.ที่ผ่านการอบรมเพื่อติดตาม ดูแล ผู้ป่วยที่มีภาวะเสี่ยง | 0 | 0.00 | - | ||
1 - 31 ส.ค. 67 | ๖. ติดตามประเมินผลซ้ำโดยการตรวจ ระดับน้ำตาลในเลือด วัดความดันโลหิต ภาวะแทรกซ้อนทางไตของผู้ป่วย | 0 | 12,500.00 | - | ||
1 - 30 ก.ย. 67 | ๗.สรุปและรวบรวมผลการดำเนินงาน | 0 | 0.00 | - |
ผลที่คาดว่าจะได้รับ ๑. ผู้ป่วย ผู้ดูแล ที่ผ่านการอบรมได้รับความรู้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อชะลอภาวะไตเสื่อม ร้อยละ ๑๐๐ ๒. ผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงที่เสี่ยงต่อภาวะไตเสื่อมได้รับการดูแลติดตาม ร้อยละ ๑๐๐ ๓. ผู้ป่วยป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงที่มีภาวะไตเสื่อม สามารถปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง ร้อยละ ๘๐ ๔. อสม.แกนนำมีความรู้และทักษะการดูแลกลุ่มป่วยที่เสี่ยงต่อภาวะไตเสื่อม ร้อยละ ๑๐๐
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2567 15:16 น.