แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.นาทอน
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.นาทอน
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนาทอน
๑. นางหทัยกาญจน์ สันมาหมีน
๒. นางสาววนิดา ยาพระจันทร์
พื้นที่รับผิดชอบ ม.๑, ม.๒, ม.๓, ม.๖ และ ม.๗ ต.นาทอน อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
***ข้อมูลจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่าโรคเรื้อรังหรือโรคไม่ติดต่อเป็น โรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ได้แก่ การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ การไม่ออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีรสเหวาน มัน เค็มจัด รวมถึงความเครียด ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคร้าย ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมองและหัวใจ มะเร็ง ถุงลมโป่งพองและ โรคอ้วนลงพุง และทำให้อายุไขของคนป่วยกลุ่มนี้จะมีอายุต่ำกว่า ๖๐ ปี โดยจากสถิติพบว่า คนไทยเสียชีวิตด้วยโรคกลุ่มดังกล่าวมากกว่าปี ละ ๓ แสนคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
***ปัจจุบันโรคเรื้อรังที่เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญในคือ โรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน ถ้าไม่รับการดูแลรักษาและปฏิบัติตัวที่เหมาะสม จะส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมามากมาย โดยเฉพาะโรคไตเรื้อรัง (chronic kidney disease) ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยพบว่ามีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังมากถึงร้อยละ ๑๗.๕ ของประชากรที่เป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนาทอน มีผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ขึ้นทะเบียน จำนวนทั้งหมด ๔๗๕ ราย ผู้ป่วยเบาหวานที่ขึ้นทะเบียน จำนวน ๑๖๖ คน (ข้อมูลจาก HDC ปีงบประมาณ 2566) และจากการตรวจร่างกายประจำปีของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตและโรคเบาหวาน ในปี งบประมาณ ๒๕๖๖ พบว่ามีภาวะเสี่ยงโรคไตเรื้อรังระยะ ๓ ขึ้นไป จำนวน ๑๔ ราย ,ผู้ป่วยต้องล้างไตทางหน้าท้อง จำนวน ๑ ราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อโรคดำเนินเข้าสู่ระยะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย (end stage renal disease ERSD) จะต้องได้รับการรักษาบำบัดทดแทนไต การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม การล้างไตทางช่องท้อง การผ่าตัดปลูกถ่ายไต เมื่อเป็นโรคไตเรื้อรังในระยะสุดท้ายจะส่งผลต่อคุณภาพของผู้ป่วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และประเทศจะต้องสูญเสียงบประมาณด้านสาธารณสุขเป็นเงินจำนวนมหาศาล เป็นสาเหตุการป่วย พิการและเสียชีวิตอันดับต้นๆ ส่งผลให้เกิดภาระและสูญเสียในทุกมิติทั้งกาย จิต สังคม เศรษฐกิจต่อทั้งผู้ป่วย ครอบครัว และประเทศชาติ โดยมีปัจจัยเสี่ยงหลักที่สำคัญต่อการเกิดโรคดังนี้ ภาวะความดันโลหิตสูงและเบาหวานควบคุมโรคไม่ได้ ภาวะไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ ภาวะอ้วนลงพุง
***ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขตำบลบ้านนาทอนได้ตระหนักถึงความสำคัญ เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงที่มีภาวะเสี่ยงสูง เกิดอุบัติการณ์มีภาวะไตเสื่อมเพิ่มขึ้นและเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนกลุ่มป่วยและผู้ดูแล รวมทั้งแกนนำหมู่บ้าน มีความตระหนัก เล็งเห็นความสำคัญในการปรับเปลี่ยนสุขภาพในการป้องกันโรค ลดโรค ซึ่งประกอบกับเครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินงานคือ เครื่องวัดความดันโลหิตที่มีอยู่ในชุมชน ชำรุดและมีไม่ครบทุกหมู่บ้าน และแพทย์ให้มีการติดตามวัดความดันโลหิตที่บ้าน ทางรพ.สต.บ้านนาทอนจึงได้จัดทำโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดโรค และชะลอความเสื่อมของไตในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/04/2024
กำหนดเสร็จ 30/09/2024
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?ผลที่คาดว่าจะได้รับ
๑. ผู้ป่วย ผู้ดูแล ที่ผ่านการอบรมได้รับความรู้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อชะลอภาวะไตเสื่อม ร้อยละ ๑๐๐
๒. ผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงที่เสี่ยงต่อภาวะไตเสื่อมได้รับการดูแลติดตาม ร้อยละ ๑๐๐
๓. ผู้ป่วยป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงที่มีภาวะไตเสื่อม สามารถปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง ร้อยละ ๘๐
๔. อสม.แกนนำมีความรู้และทักษะการดูแลกลุ่มป่วยที่เสี่ยงต่อภาวะไตเสื่อม ร้อยละ ๑๐๐