โครงการปรับพฤติกรรม เปลี่ยนชีวิต พิชิตโรคความดัน เบาหวาน หัวใจ และ โรคหลอดเลือดเชิงรุกในชุมชน
ชื่อโครงการ | โครงการปรับพฤติกรรม เปลี่ยนชีวิต พิชิตโรคความดัน เบาหวาน หัวใจ และ โรคหลอดเลือดเชิงรุกในชุมชน |
รหัสโครงการ | 67-L2527-1-2 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลศรีสาคร |
วันที่อนุมัติ | 31 มกราคม 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2567 - 30 กันยายน 2567 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 25,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายประมวล ทองอินทราช |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลศรีสาคร อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.152,101.492place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 60 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
หลักการและเหตุผล (ระบุที่มาของการทำโครงการ) ในปัจจุบันปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญคือปัญหาผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจเเละหลอดเลือดโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ นับวันจะมีเเนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งโรคเรื้อดังกล่าว โดยเฉพาะโรคเบาหวานก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ นับเป็นปัญหาการเจ็บป่วยที่สำคัญและนำมาซึ่งความสูญเสียทรัพยากรในการดูแลรักษา มีผลกระทบต่อผู้ป่วยเอง และผู้ดูแล ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในครอบครัว มีอาการป่วยเรื้อรังเป็นเวลานาน ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้นอกจากจะเป็นโรคที่รักษาไม่หายแล้ว ยังเชื่อมโยงไปสู่ โรคแทรกซ้อนอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือดโรคไตเรื้อรัง สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรค คือ “กรรมพันธุ์” และ “สิ่งแวดล้อม” ในส่วนของกรรมพันธุ์นั้นเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีอายุมากขึ้น ขณะที่สิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เริ่มต้นตั้งแต่ในครรภ์แม่ แม้กรรมพันธุ์จะเป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ แต่ก็สามารถควบคุมปัจจัยเรื่องอาหารและสิ่งแวดล้อมเพื่อป้องกันโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงได้ จากผลการวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่า การควบคุมอาหารอย่างดี รวมไปถึงการออกกำลังกายเป็นประจำนั้นส่งผลโดยตรงต่อการป้องกันโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะคนที่มีความเสี่ยงสูงทางกรรมพันธุ์ อีกทั้งยังเป็นการควบคุมโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง รวมไปถึงป้องกันโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ จากข้อมูลอัตราการป่วยด้วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลศรีสาคร ปี 2566 พบว่า ประชาชนกลุ่มป่วยโรคเบาหวานในเขตรับผิดชอบทั้งหมด 91ราย ได้รับการตรวจภาวะน้ำตาลในเลือด 76 ราย พบกลุ่มป่วยโรคความดันโลหิตสูงในเขตรับผิดชอบ 192 ราย ได้รับการคัดกรองความดันโลหิตสูง จำนวน 166 ราย หากไม่ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้ในอนาคต การรักษาโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงโดยการให้ความสำคัญเฉพาะด้านการแพทย์อาจไม่เพียงพอ เพื่อการควบคุมโรคที่สมบูรณ์ ผู้ป่วยต้องได้รับความรู้เรื่องโรครวมไปถึงความรู้เรื่องโภชนาการและการออกกำลังกายที่ถูกต้อง พร้อมทั้งได้รับการกระตุ้นการเปลี่ยนพฤติกรรมผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น ค่ายเบาหวาน ความดันหรือกิจกรรมชมรมอย่างสม่ำเสมอซึ่งถ้าปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดตั้งแต่ระยะต้น ก็จะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยปราศจากโรคแทรกซ้อนได้ ดังนั้น โรงพยาบาลศรีสาคร ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเกี่ยวกับการดูแลตนเองเพื่อลดภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง โดยได้จัดโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพกลุ่มป่วยต่อโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง. โรงพยาบาลศรีสาคร ขึ้นโดยเน้นกิจกรรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงอย่างเข้มข้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้ฝึกปฏิบัติการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
|
||
2 | 2. กลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังสุขภาพ และจัดการสุขภาพของตนเอง
|
||
3 | 3. กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง หัวใจ และ โรคหลอดเลือดรายใหม่ลดลง
|
ลำดับ | กิจกรรมหลัก | งบประมาณ | ม.ค. 67 | ก.พ. 67 | มี.ค. 67 | เม.ย. 67 | พ.ค. 67 | มิ.ย. 67 | ก.ค. 67 | ส.ค. 67 | ก.ย. 67 | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | 1. อบรมให้ความรู้เกี่ยวโรคที่เสี่ยงต่อสุขภาพ 2.ตรวจคัดกรองประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรค ความดันโลหิตสูงโรคเบาหวาน stroke และโรคหัวใจ ในชุมชน โดยจนท. สาธารณสุขและเครือข่าย อสม. 3.นัดผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงตรวจซ้ำในสถานบริการ 4.ส่งต่อผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหว(1 ม.ค. 2567-30 ก.ย. 2567) | 0.00 | ||||||||||
รวม | 0.00 |
1 1. อบรมให้ความรู้เกี่ยวโรคที่เสี่ยงต่อสุขภาพ 2.ตรวจคัดกรองประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรค ความดันโลหิตสูงโรคเบาหวาน stroke และโรคหัวใจ ในชุมชน โดยจนท. สาธารณสุขและเครือข่าย อสม. 3.นัดผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงตรวจซ้ำในสถานบริการ 4.ส่งต่อผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหว | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 0 | 0 | 0 | 0 | |
1.ประชากรกลุ่มป่วย มีความรู้และทัศนคติที่เหมาะสม ในเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
2.กลุ่มเป้าหมายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ได้รับการติดตามประเมินผลเป็นระยะตามที่กำหนดไว้
3.ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนในกลุ่มเป้าหมาย
4.ประชาชนกลุ่มเสี่ยงมีพฤติกรรมการออกกำลังกายเพิ่มขึ้นสภาพร่างกายแข็งแรงจนสามารถควบคุมระดับความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือดได้ และไม่มีภาวะแทรกซ้อนของโรคได้ในที่สุด
5. ผู้ป่วยโรคเรื้อรังเข้าสู่ระบบการดูแลที่ถูกต้องและไม่มีการป่วยด้วยโรคแทรกซ้อน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2567 13:42 น.