โครงการส่งเสริมทันตสุขภาพและป้องกันโรคในช่องปากในกลุ่มวัยทำงาน (ประเภทที่ 1)
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมทันตสุขภาพและป้องกันโรคในช่องปากในกลุ่มวัยทำงาน (ประเภทที่ 1) |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกระทูน-พิปูนล้นเกล้า |
วันที่อนุมัติ | 14 มีนาคม 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2567 - 30 กันยายน 2567 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 22,975.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายวีรวัฒน์ ล่าโยค |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลควนกาหลง อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.953,100.03place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : ระบุ |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
กลุ่มวัยทำงานถือเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และมีบทบาทสำคัญในการดูแล
กลุ่มวัยอื่น ๆ ในครอบครัว เช่น บิดา มารดา หรือบุตร ดังนั้นการดูแลสุขภาพของคนกลุ่มวัยนี้ ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อตัวเอง แต่ยังส่งผลต่อกลุ่มวัยอื่น ๆ ด้วย สุขภาพช่องปากมีความสัมพันธ์กับสุขภาพร่างกาย ก่อให้เกิดพัฒนาการและคุณภาพชีวิตที่ดีของคนทุกกลุ่มวัย แต่โรคในช่องปาก เช่น ฟันผุ และปริทันต์อักเสบที่ไม่ได้รับการดูแล ป้องกัน รักษาที่เหมาะสมและทันเวลา จะเป็นสาเหตุหลักของการสูญเสียฟัน โดยเฉพาะในประชากรกลุ่มวัยทำงาน ซึ่งอาจส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน
จากการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากระดับประเทศ ครั้งที่ 8 ประเทศไทย พ.ศ. 2560 ในกลุ่มวัยทำงาน อายุ 35-44 ปี ปัญหาที่พบเกิดจากรอยโรคสะสม ทั้งปัญหาสภาวะปริทันต์ ที่พบการอักเสบของเหงือก มีเลือดออกง่าย ร้อยละ 39.3 ปัญหาปริทันต์อักเสบที่มีการทำลายของกระดูกรองรับรากฟันร่วมด้วย ซึ่งพบร้อยละ 15.6 และปัญหาโรคฟันผุที่ยังไม่ได้รับการรักษา ร้อยละ 35.2 โดยปัญหาดังกล่าว จะแสดงอาการที่รุนแรงจนเกิดความเจ็บปวดและการสูญเสียฟันในช่วงอายุต่อไป ถ้าไม่ได้รับการดูแล ป้องกัน รักษาที่เหมาะสมทันเวลา นอกจากนี้ในวัยนี้ยังมีพฤติกรรมที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคในช่องปาก โดยเฉพาะการสูบบุหรี่ ที่พบร้อยละ 19.6 เฉลี่ย 11.7 มวนต่อวัน รวมทั้งพฤติกรรมการไปใช้บริการในรอบปีร้อยละ 37.9 ซึ่งในจำนวนนี้ส่วนใหญ่ร้อยละ 39.0 ไปรับบริการเมื่อมีอาการปวดและเสียวฟันแล้ว
มีเพียงร้อยละ 10.1 เท่านั้น ที่ไปรับบริการเพื่อต้องการตรวจเช็คโดยไม่มีอาการ อย่างไรก็ตามวัยทำงานส่วนใหญ่ ยังไม่รู้สึกว่าสุขภาพช่องปากมีปัญหา เพราะยังไม่รู้สึกว่ามีอาการผิดปกติใดๆ รวมทั้งส่วนใหญ่ร้อยละ 93.7 ยังรู้สึกว่าสามารถใช้ฟันบดเคี้ยวอาหารได้ดีเนื่องจากยังมีฟันหลังสบกันใช้งานได้อย่างน้อย 4 คู่สบ และร้อยละ 97.8 ยังมีฟันแท้ใช้งานได้อย่างน้อย 20 ซี่ ดังนั้น สำหรับกลุ่มวัยทำงานนอกจากการทำให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และความรู้เพื่อการดูแลอนามัยช่องปากตนเองแล้ว ยังจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมป้องกันโรค โดยเฉพาะสนับสนุนให้ใช้อุปกรณ์เสริมทำความสะอาดซอกฟันเพื่อป้องกันโรคปริทันต์และฟันผุบริเวณด้านประชิด
จากการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากในวัยทำงานอำเภอควนกาหลงปี 2566 จากการศึกษาและสำรวจสภาวะทันตสุขภาพในกลุ่มวัยทำงาน อายุ 35-59 ปี จำนวน 200 คน ในพื้นที่ตำบลควนกาหลง พบว่า แม้ส่วนใหญ่จะมีการแปรงฟันอย่างน้อย 2 ครั้งขึ้นไป แต่กลุ่มตัวอย่างมากกว่าร้อยละ 70 ก็ยังมีหินปูนและมีปัญหาโรคเหงือกอักเสบและ
ปริทันต์รวมถึงมีปัญหาฟันผุมากกว่าร้อยละ 50 แสดงว่ากลุ่มตัวอย่างดังกล่าว ยังมีปัญหาด้านคุณภาพการแปรงฟัน ประกอบกับอัตราการเข้าถึงบริการทันตกรรมในกลุ่มวัยทำงานอายุ 15-59 ปี ในเขตโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
บ้านกระทูน-พิปูนล้นเกล้า ยังมีจำนวนน้อยเพียงร้อยละ 1.79 เท่านั้น ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
บ้านกระทูน-พิปูนล้นเกล้า จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมทันตสุขภาพและป้องกันโรคในช่องปากในกลุ่มวัยทำงาน เพื่อสามารถดำเนินชีวิตประจำวันด้วยวิถี self care ดูแลช่องปากตนเองได้ และขยายผลไปสู่การดูแลสุขภาพช่องปากคนในครอบครัวและในชุมชนที่ตนเองดูแลอยู่ ซึ่งส่งผลให้การดูแลสุขภาพช่องปากในชุมชนดีขึ้นด้วย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี |
---|
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2567 09:54 น.