โครงการเกษตรกรปลอดโรค ผู้บริโภคปลอดภัย รู้เท่าทันการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567
ชื่อโครงการ | โครงการเกษตรกรปลอดโรค ผู้บริโภคปลอดภัย รู้เท่าทันการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 |
รหัสโครงการ | 67-L5281-1-05 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านควนบ่อทอง |
วันที่อนุมัติ | 9 พฤษภาคม 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤษภาคม 2567 - 30 สิงหาคม 2567 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2567 |
งบประมาณ | 39,950.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายปรีดี เรืองพูน |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.871,100.144place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 185 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ประเทศไทยมีการใช้สารเคมีเพื่อป้องกันและกําจัดศัตรูพืชอย่างกว้างขวางอาทิ เช่น สารกําจัดแมลง(insecticides) สารกําจัดหนู (rodenticides) สารกําจัดวัชพืช (herbicides) และสารกําจัดเชื้อรา (fungicides) เป็นต้น สารเคมีที่ใช้ในการเกษตรเป็นสารพิษอันตรายที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ซึ่งสามารถเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ผลกระทบต่อสุขภาพส่วนมากเกิดจากการใช้หรือสัมผัสสารเคมีทางการเกษตรหรือใช้สารเคมีไม่ถูกต้อง (สุธาสินี อั้งสูงเนิน, 2558) ซึ่งผลกระทบต่อสุขภาพนั้นมีทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง ผู้ที่สัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช คือ กลุ่มเกษตรกร ผู้ฉีดพ่นที่จะได้รับพิษโดยตรง แต่สำหรับผู้บริโภคจะได้รับพิษทางอ้อมจากผลผลิตทางการเกษตรที่มีสารตกค้างปนเปื้อนอยู่ แม้ได้รับในปริมาณต่ำแต่การที่ได้รับเป็นประจำสารพิษอาจสะสมเป็นปัญหาเรื้อรังและส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานต่าง ๆ ในร่างกาย (ศิริอุมา เจาะจิตต์และคณะ, 2560) โดยเฉพาะสารกลุ่มคาร์บาเมตและกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต มีฤทธิ์ขัดขวางการทำงานของระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาทรอบนอก ยับยั้งเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส ซึ่งมีหน้าที่ส่งสัญญาณประสาท ผลการจับตัวกับเอนไซม์ทำให้ปริมาณของเอนไซม์ลดลงและมีผลต่อกล้ามเนื้อต่างๆ รวมถึงต่อมต่างๆ และกล้ามเนื้อเรียบ ซึ่งควบคุม อวัยวะภายใน ที่ทำงานมากกว่าปกติ เนื่องจากปริมาณเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสมีไม่มากพอที่จะหยุดการทำงาน ส่งผลทำให้ระบบกล้ามเนื้ออ่อนแรง ตะคริวที่กล้ามเนื้อ ต่อมน้ำลายขับน้ำลายออกมาก ต่อมเหงื่อขับเหงื่อออกมาก บางครั้งพบอาการม่านตาหรี่หายใจลำบาก เวียนศีรษะ อาเจียน มือสั่น เดินโซเซ ชัก และหมดสติ (กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม, 2564; วินัย วรานุกูล และคณะ,2564)
ประชากรส่วนใหญ่ในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านควนบ่อทอง ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และบางส่วนมีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ซึ่งจากการสัมภาษณ์ พบว่า การปฏิบัติตนของเกษตรกรก่อนฉีดพ่น ในระหว่างฉีดพ่น และหลังฉีดพ่นยังไม่ถูกต้อง อีกทั้งไม่ได้สวมอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล จึงอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ และจากข้อมูลรายงานสรุปผลการสุ่มตรวจวิเคราะห์สารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในผักและผลไม้ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ รพ.สต.บ้านควนบ่อทอง ประจำปีงบประมาณ 2567 จำนวน 7 ตัวอย่าง พบตัวอย่างที่ผ่านมาตรฐานร้อยละ 85.71 และตกมาตรฐานร้อยละ 14.29 ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ผู้บริโภคมีความเสี่ยงในการได้รับสารเคมีตกค้างจากการรับประทานผักและผลไม้
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านควนบ่อทอง จึงได้จัดทำโครงการเกษตรกรปลอดโรค ผู้บริโภคปลอดภัย รู้เท่าทันการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกร ผู้บริโภคสามารถเลือกบริโภคอาหารที่ปลอดภัยลดความเสี่ยงของการมีสารเคมีตกค้าง รวมทั้งพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและผลกระทบทางสุขภาพ ร้อยละ 90 ของกลุ่มเป้าหมายที่เข้ารับการอบรมมีความรู้เพิ่มขึ้น |
||
2 | เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับการคัดกรองเจาะเลือดหาเอนไซม์โคลีนเอสเทอเรส ร้อยละ 100 ของกลุ่มเป้าหมายได้รับการคัดกรองเจาะเลือดหาเอนไซม์โคลีนเอสเทอเรส |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 370 | 39,950.00 | 0 | 0.00 | |
13 พ.ค. 67 - 30 ส.ค. 67 | กิจกรรมอบรมให้ความรู้กลุ่มเกษตรกร | 50 | 11,050.00 | - | ||
13 พ.ค. 67 - 30 ส.ค. 67 | กิจกรรมอบรมให้ความรู้กลุ่มผู้บริโภค | 50 | 11,050.00 | - | ||
13 พ.ค. 67 - 30 ส.ค. 67 | กิจกรรมอบรมให้ความรู้กลุ่ม อสม. | 85 | 15,950.00 | - | ||
13 พ.ค. 67 | กิจกรรมเจาะเลือดตรวจหาเอนไซม์โคลีนเอสเทอเรส | 185 | 1,900.00 | - |
- ขั้นเตรียมการ
1.1 จัดทำและเสนออนุมัติโครงการ
1.2 ประสานกับหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง
2. ขั้นดำเนินการ
2.1 อบรมให้ความรู้กลุ่มเกษตรกร เรื่อง นโยบายและกฎหมายที่เกษตรกรและผู้บริโภคควรทราบ การใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างปลอดภัย ผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และการป้องกันอันตรายจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช
2.2 อบรมให้ความรู้กลุ่มผู้บริโภค เรื่อง นโยบายและกฎหมายที่เกษตรกรและผู้บริโภคควรทราบ การใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างปลอดภัย ผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และการเลือกบริโภคอาหารที่ปลอดภัย ลดความเสี่ยงของการมีสารเคมีตกค้าง
2.3 อบรมให้ความรู้กลุ่ม อสม. เรื่อง นโยบายและกฎหมายที่เกษตรกรและผู้บริโภคควรทราบ การใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างปลอดภัย ผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช การเลือกบริโภคอาหารที่ปลอดภัย ลดความเสี่ยงของการมีสารเคมีตกค้าง และการประเมินความเสี่ยงจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช โดยใช้แบบคัดกรอง (นบก.1-56)
2.4 ประเมินความเสี่ยงจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช โดยใช้แบบคัดกรอง (นบก.1-56) พร้อมเจาะเลือดตรวจหาเอนไซม์โคลีนเอสเทอเรสกลุ่มเป้าหมายในวันที่เข้ารับการอบรม และนัดเจาะเลือดซ้ำในรายที่ผลเลือดผิดปกติ หลังจากปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 1 เดือน
3. ขั้นสรุปโครงการ 3.1 ประเมินผลโครงการ 3.2 จัดทำรายงานสรุปผลโครงการ
- กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและผลกระทบทางสุขภาพเพิ่มขึ้น สามารถป้องกันอันตรายจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชได้
2. กลุ่มเป้าหมายได้รับการตรวจคัดกรองเจาะเลือดหาเอนไซม์โคลีนเอสเทอเรส ได้รับคำแนะนำในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือส่งต่อรักษาในรายที่ผิดปกติ
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2567 10:49 น.