โครงการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5)
ชื่อโครงการ | โครงการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) |
รหัสโครงการ | 68-L2497-5-02 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 5 สนับสนุนกรณีเกิดโรคระบาดหรือภัยพิบัติ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานสาธารณสุขอื่นของ อปท. เช่น กองสาธารณสุขของเทศบาล |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมองค์การบริหารส่วนตำบลตะปอเยาะ |
วันที่อนุมัติ | 23 ธันวาคม 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 27 กุมภาพันธ์ 2568 - 31 พฤษภาคม 2568 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 มิถุนายน 2568 |
งบประมาณ | 21,300.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางฮนีซะห์ สะมะแอ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลตะปอเยาะ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 10 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 40 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ที่แพร่กระจายครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทย และภูมิภาคข้างเคียง โดยส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ มากกว่า 2 สัปดาห์ แล้ว และคาดว่าสถานการณ์จะยังไม่บรรเทาลง กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมองค์การบริหารส่วนตำบลตะปอเยาะได้พิจารณาแล้วว่าหากไม่รีบดำเนินการจัดการปัญหาดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ทั้งในระยะสั้น และในระยะยาว ดังนี้ ฝุ่น PM 2.5 มีขนาดเล็กและมีปริมาณมากที่สามารถทะลุขนจมูก แทรกซึมสู่ระบบทางเดินหายใจ ทะลุผนังปอดและเข้ากระแสเลือดได้อย่างง่ายดาย ผลกระทบที่รับฝุ่นเข้าไปอาจเกิดขึ้นกับร่ายกาย (ภายใน 1 - 2 วัน) ซึ่งส่วนมากจะเกิดกับระบบทางเดินหายใจ โดยมีอาการ ไอ เจ็บคอ หายใจแล้วมีเสียงฟืดฟาด เลือดกำเดาไหล มีเสมหะ ซึ่งหากเลือดไหลลงคอก็จะทำให้เสมหะมีเลือดเจือปน ฝุ่นเข้าตาทำให้เกิดโรคเยื่อบุตาอักเสบ ทำให้เกิดอาการ เช่น ตาแดง แสบตา คันตา หรือระคายเคือง หากเกิดอาการเหล่านี้สามารถบรรเทาอาการด้วยวิธีประคบเย็นหรือใช้น้ำตาเทียม บางกรณีอาจไม่จำเป็นต้องรับการรักษาโดยแพทย์ เพราะหายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์ นอกเหนือจะทำให้เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ ยังมีผลกระทบต่อผิวหนังของเราอีกด้วย กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง เปิดเผยว่า อนุภาคของฝุ่นละอองที่อยู่ในอากาศมีขนาดเล็กเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน สามารถผ่านเข้าสู่เซลล์ผิวหนังได้ ข้อมูลจากงานวิจัยพบว่า ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สามารถจับตัวกับสารเคมีและโลหะต่าง ๆ และนำพาเข้าสู่ผิวหนัง มีผลทำร้ายเซลล์ผิวหนังโดยตรง และทำให้การทำงานของเซลล์ผิวหนังผิดปกติไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อป้องกันสุขภาพของประชาชนจากอันตรายของฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ร้อยละ 80 ประชาชน ปลอดภัยจากโรคที่เกิดจากหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5 ) |
80.00 | 80.00 |
2 | 2. เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ในการดูแลตัวเอง และสามารถป้องกันตนเองจากจากอันตรายของฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ร้อยละ 80 ประชาชน ให้ความสำคัญ มีความรู้เรื่องการป้องกันหมอกควันและฝุ่นควันขนาดเล็ก (PM2.5) และเห็นประโยชน์ของการป้องกันโรคมากขึ้น |
80.00 | 80.00 |
3 | 3. เพื่อป้องกัน และแก้ไขปัญหาได้ทันต่อสถานการณ์
|
0.00 |
วันที่ | ชื่อกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) | งบกิจกรรม (บาท) | ทำแล้ว | ใช้จ่ายแล้ว (บาท) | |
---|---|---|---|---|---|---|
27 ก.พ. 68 - 30 พ.ค. 68 | 1.จัดการอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจในการป้องกัน และดูแลสุขภาพจากภัยฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) | 0 | 18,300.00 | - | ||
27 ก.พ. 68 - 30 พ.ค. 68 | 2.สนับสนุนหน้ากากอนามัยกรณีเกิดภัยพิบัติไฟไหม้ป่าพรุ | 0 | 3,000.00 | - | ||
รวม | 0 | 21,300.00 | 0 | 0.00 |
- ประชาชนในพื้นที่ ได้รับการป้องกันอันตรายของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5)
- ประชาชนมีความรู้ในการดูแลตัวเอง และสามารถป้องกันตนเองจากจากอันตรายของฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM 2.5)
- สามารถป้องกัน และแก้ไขปัญหาได้ทันต่อสถานการณ์
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2567 00:00 น.