โครงการขับเคลื่อนงานยาเสพติด To be number one ประจำปี 2560
ชื่อโครงการ | โครงการขับเคลื่อนงานยาเสพติด To be number one ประจำปี 2560 |
รหัสโครงการ | 60-L2536-1-07 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.ปูโยะ |
วันที่อนุมัติ | 13 ตุลาคม 2559 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 สิงหาคม 2560 - 30 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 26,800.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปูโยะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางนงเยาว์ เกษกุล |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลปูโยะ อำเภอสุไหง-โกลก จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.109,101.993place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 60 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
"ยาเสพติด"ปัญหาสำคัญระดับชาติที่รัฐบาลถือเป็นนโยบายที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจังทั้งนี้เพราะปัญหายาเสพติดที่มีการแพร่ระบาดในทุกพื้นที่ของ ประเทศไทยได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งด้านการเมืองและความมั่นคงของประเทศ ตั้งแต่ปี2542เป็นต้นมาสภาพปัญหายาเสพติดเปลี่ยนแปลงไปจากที่เป็นอยู่ในอดีตอย่างสิ้นเชิงจากเดิมที"เฮโรอีน" เป็นปัญหาสำคัญที่ตำรวจต้องเร่งปราบปรามให้สิ้นซาก กลายเป็น "ยาบ้า หรือสารเมทแอมเฟตามีน ที่กำลังระบาดตั้งแต่ระดับครอบครัว โรงเรียน ชุมชน สังคม และประเทศ จากข้อมูลการสำรวจพบว่ามีเยาวชนจำนวนกว่า 6 แสนคนหลงเข้าสู่วังวนของ ยาบ้า และจากสถิตินักโทษเด็ดขาด ของกรมราชทัณฑ์ที่ถูกจำคุกอยู่ตาม ทัณฑสถานทั่วประเทศสำรวจ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2543 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 137,344 คน ในจำนวนนี้เป็นนักโทษคดียาเสพติดเกินกว่าครึ่ง คือประมาณ 87,966 คน คิดเป็นร้อยละ 64.05 และในจำนวนนักโทษเด็ดขาด คดียาเสพติดเหล่านี้มีจำนวนมากถึง 27,499 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 31.26 ของนักโทษคดียาเสพติดที่ต้องโทษในคดีเสพหรือครอบครองและทั้งเสพและครอบครอง ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงมีความห่วงใยต่อประชาชนชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน อายุระหว่าง 6-25 ปี จำนวน 21 ล้านคน ซึ่งถือเป็นกลุ่ม เสี่ยงสูง จึงทรงรับเป็นองค์ประธานโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้การรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภายในประเทศดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยความร่วมมือ และรวมพลังจากภาครัฐและเอกชน กระตุ้นและปลุกจิตสำนึกของปวงชนในชาติให้มีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักว่าการที่จะเอาชนะปัญหายาเสพติดมิใช่หน้าที่ของบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่ทุกคนในชาติจะร่วมแรงร่วมใจกันเป็นพลังของแผ่นดินที่จะต่อสู้และเอาชนะปัญหา ยาเสพติดให้ได้โดยเร็ว
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อสร้างกระแสค่านิยม สร้างภูมิคุ้มกันในกลุ่มแกนนำนักเรียนและแกนนำเยาวชน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
|
||
2 | เพื่อให้โรงเรียนและชุมชนบ้านโต๊ะเวาะมีชมรมTo be Number One โรงเรียนบ้านโต๊ะเวาะ มีชมรม To be Number One1 ชมรม |
||
3 | เพื่อให้นักเรียนและเยาวชนในหมู่ที่ 3 บ้านโต๊ะเวาะ เป็นสมาชิกชมรม To be Number Oneร้อยละ 95 ชุมชนบ้านโต๊ะเวาะ มีชมรม To be Number One1 ชมรม |
- ขั้นเตรียมการ
1.1 ประชุมคณะทำงานเพื่อกำหนดรูปแบบและแนวทางการดำเนินงาน
1.2 เขียนโครงการเพื่อขออนุมัติ
- ขั้นดำเนินการ 2.1 พิธีเปิดโครงการ 2.2 จัดอบรมให้ความรู้แกนนำนักเรียนและครู To be Number Oneในรร.บ้านโต๊ะเวาะ 2.3 จัดอบรมแกนนำเยาวชนและคณะกรรมการหมู่บ้าน To be Number Oneในชุมชน 2.4 สรุปผลการดำเนินโครงการ
1.กลุ่มเยาวชนมีการสร้างกระแสค่านิยมและสร้างภูมิคุ้กันทางจิตใจ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด
2.มีชมรมTo be Number Oneในโรงเรียน 1 ชมรม
3. นักเรียนในโรงเรียนเป็นสมาชิกTo be Number Oneร้อยละ 95
4. มีชมรมTo be Number Oneในชุมชน 1 ชมรม
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2559 11:11 น.