โครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม
ชื่อโครงการ | โครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม |
รหัสโครงการ | 2568-L7161-1-1 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | เรือนจำอำเภอเบตง |
วันที่อนุมัติ | 24 ธันวาคม 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 3 กุมภาพันธ์ 2568 - 4 เมษายน 2568 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 28,440.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายอนุชา นวลไทย ตำแหน่ง ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอเบตง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 5.803,101.009place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
พหุวัฒนธรรม คือความหลากหลายในด้านเชื้อชาติศาสนา เพศสภาพ การยอมรับทางสังคม และชนชั้นทางสังคม ซึ่งส่งผลกระทบพบเจอของความแตกต่างกัน ซึ่งหลายครั้งนั้นนำมาสู่ความไม่ไว้วางใจกัน ต่อวัฒนธรรมนั้นแต่ไม่แตกแยก มิใช่วาทกรรม แต่ได้ผุดขึ้น และงอกงามในวัฒนธรรมสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังเห็นได้จากความมีน้ำจิตน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยไม่เกี่ยวศาสนา ภาพเหล่านี้ข้าพเจ้าได้เห็นมากับตา เมื่อเร็ว ๆ นี้เกิดอุทกภัยที่จังหวัดยะลา เขื่อนบางลางรับน้ำไม่ไหวต้องระบายออก และมวลน้ำเหล่านี้ได้เข้ามาท่วมในตัวเมืองปัตตานี อุทกภัยนี้หากมองในแง่ร้ายจะเห็นเพียงความสูญเสีย แต่ในแง่ของความเอื้ออาทรเราจะเห็นจากเหตุการณ์นี้ได้ทันที ภาพทหารที่คอยช่วยเหลือชาวบ้านถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ และหยิบยื่นข้าวของยังชีพในภาวะวิกฤตน้ำท่วม ภาพนักศึกษาหญิงชาวมุสลิมไปช่วยแจกถุงยังชีพให้กับชาวบ้านชุมชน ไทย – พุทธ ภาพเหล่านี้ประทับตรึงใจข้าพเจ้า ทั้งความรักและความสามัคคีปรองดอง ดังคำกล่าวที่ว่า “มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน” เพราะเรายืนอยู่บนผืนแผ่นดินไทยผืนเดียวกัน ฉะนั้นแล้วสิ่งที่มีคุณค่าและล้ำค่าที่สุดคือความเป็นคนไทย ที่สะท้อนผ่านความดี ความรัก และความสามัคคีปรองดองศาสนบำบัด ปรองดองศาสนบำบัด คือการนำหลักธรรมตามหลักศาสนามาจัดเป็นกิจกรรม ควบคู่ไปกับหลักการทางด้านจิตวิทยา ซึ่งจะเป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถขัดเกลาและส่งเสริมให้กับผู้ต้องขังมีสมาธิ มีสติ และเกิดปัญญา มีคุณธรรม มีความเอื้ออารี เป็นการขัดเกลาพื้นฐานทางจิตใจในกรอบคุณธรรมจริยธรรม และส่งผลให้ผู้ต้องขังมีทัศนคติที่ดีต่อการดำเนินชีวิตทั้งขณะต้องโทษ และเมื่อพ้นโทษไปแล้ว ทั้งนี้ ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้สร้างความเท่าเทียมด้านสุขภาพ ตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยจัดระบบการให้บริการสาธารณสุขที่จำเป็นต่อสุขภาพในการดำรงชีวิตและการรักษาพยาบาลที่มีมาตรฐานให้ประชาชนชาวไทย และระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็น
เสมือนระบบศีลธรรมที่เกื้อกูลดูแลเพื่อนมนุษย์ โดยหลักการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขด้านสุขภาพให้กับคนทุกคน ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มผู้ต้องขังซึ่งมักถูกตีตราจากสังคมว่าเป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ ด้วยโทษความผิดที่รับ โดยสภาวะที่ต้องควบคุมตัวตามหมายศาลภายในเรือนจำ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล
จากข้อมูลสถิติเมื่อเดือนตุลาคม ผู้ต้องขังนับถือศาสนาอิสลาม จำนวน 133 คน คิดเป็นร้อยละ 55.65 ผู้ต้องขังนับถือศาสนาพุทธ จำนวน 100 คน คิดเป็นร้อยละ 41.84 และผู้ต้องขังที่นับถือศาสนาคริสต์ จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 2.51 ผู้ต้องขังรวมทั้งสิ้น 239 คน ดังนั้นเรือนจำอำเภอเบตงจึงจัดโครงการศาสนบำบัดพุทธ “หลักสูตรสัคคสาสมาธิ”ตามแนวทางสมเด็จพระญาณวชิโรดม (หลวงพ่อวิริยังค์ สิริญธโร) และโครงการศาสนบำบัดอิสลาม “หลักสูตรอิสลามเบื้องต้น” เพื่อเป็นการเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพให้กับผู้ต้องขัง ด้านสร้างเสริมสุขภาพจิต เรือนจำจึงทำโครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อเป็นการเข้าถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพให้กับผู้ต้องขัง โดยใช้แนวทางศาสนบำบัด ผู้ต้องขังเข้ารับบริการสร้างเสริมสุขภาพให้กับผู้ต้องขัง โดยใช้แนวทางศาสนบำบัด ร้อยละ 100 |
100.00 | |
2 | เพื่อส่งเสริมให้ผู้ต้องขังมีความรู้ความเข้าใจ และทักษะการดูแลสุขภาพตามหลักศาสนบำบัด ผู้ต้องขังได้เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม ร้อยละ 80 |
80.00 | |
3 | เพื่อส่งเสริมให้ผู้ต้องขังสามารถนำคำสอนของศาสนามาเป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ผู้ต้องขังสามารถปฏิบัติแนวตามคำสั่งสอนของศาสนาได้ ร้อยละ 100 |
100.00 | |
4 | เพื่อให้ผู้ต้องขังได้รับการอบรมแก้ไขพฤตินิสัย เพื่อกลับตนเป็นคนดีสู่สังคม ผู้ต้องขังได้รับการอบรมแก้ไขพฤตินิสัย เพื่อกลับตนเป็นคนดีสู่สังคม ร้อยละ 100 |
100.00 |
ลำดับ | กิจกรรมหลัก | งบประมาณ | ก.พ. 68 | มี.ค. 68 | เม.ย. 68 |
---|---|---|---|---|---|
1 | โครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม(3 ก.พ. 2568-4 เม.ย. 2568) | 0.00 | |||
รวม | 0.00 |
1 โครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
คงเหลือ (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | |
รวมทั้งสิ้น | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | 0.00 |
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2568 10:14 น.