โครงการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก
ชื่อโครงการ | โครงการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก |
รหัสโครงการ | L1478-01-05 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลละมอ |
วันที่อนุมัติ | 28 มกราคม 2568 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 3 มกราคม 2568 - 29 สิงหาคม 2568 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 1 กันยายน 2568 |
งบประมาณ | 16,300.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวปิ่นแก้ว แท่นดี |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางวลัยภรณ์ เยาดำ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลละมอ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.597,99.753place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคไข้เลือดออก (Dengue Hemorrhagic Fever - DHF) เกิดจากติดเชื้อไวรัสเดงกี (Denguevirus) ที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค เป็นโรคประจำถิ่นของประเทศไทย โดยมีแนวโน้มของจำนวนผู้ป่วยในระยะยาวสูงขึ้นเรื่อยๆมาตลอด รวมทั้งพบผู้ป่วยได้ทุกเดือนตลอดทั้งปี แม้ในช่วงนอกฤดูกาลระบาดก็ยังคงพบผู้ป่วยไม่น้อยกว่า ๕๐๐ - ๑,๐๐๐ รายต่อเดือน และอาจสูงมากถึง ๒๐,๐๐๐ - ๓๐,๐๐๐ ราย ในช่วงที่มีการระบาดรุนเเรง มีรูปแบบการระบาดไมแน่นอน ภาคใต้จะพบอัตราป่วยตายร้อยละ ๐.๐๘ (สำนักงานโรคติดต่อนำโดยแมลง,๒๕๖๗) การแพร่ระบาดของโรคสามารถเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนจะพบผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากฝนที่ตกลงมาทำให้เกิดการท่วมขังในภาชนะต่างๆ จึงเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เพิ่มจำนวนประชากรของยุงลายพาหะนำโรคได้เป็นอย่างดี การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องเตรียมความพร้อมก่อนถึงช่วงฤดูการระบาดของโรค พร้อมควบคุม รวมถึงการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจัยการระบาดที่สำคัญที่ทำให้มีการขยายพื้นที่ออกไปอย่างกว้างขว้าง ได้แก่ การเพิ่มจำนวนประชากร การเพิ่มของชุมชน โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของประชากร มีการเพิ่มของภาชนะซึ่งส่งผลทำให้เป็นเเหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย ปัยจัยเหล่านี้ทำให้การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสเดงกี่ เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ผู้ป่วยสามารถเป็นโรคไข้เลือดออกได้ถึง ๔ ครั้ง ตลอดชีวิต สามารถเป็นซ้ำได้อีก และมีความรุนเเรงถึงขั้นเสียชีวิต จังหวัดตรังจัดอยู่ในลำดับที่ ๒๑ ของประเทศ ในพื้นที่จังหวัดตรัง พบว่า อำเภอที่มีอัตราป่วยสูงสุด อำเภอย่านตาขาว อัตราป่วย ๓๒๙.๔๙ ต่อแสนประชากร รองลงมาคือ อำเภอเมืองตรัง อัตราป่วย ๒๙๓.๘๐ ต่อแสนประชากร อำเภอนาโยง อัตราป่วย ๒๒๔.๒๕ ต่อแสนประชากร และอำเภอหาดสำราญ อัตราป่วย ๕๓.๔๐ ต่อแสนประชากร อัตราป่วยไข้เลือดออก ๒๓.๗๐,๔๐๓.๐๓,๑๔๓.๒๔ ต่อแสนประชากรตามลำดับ จึงเห็นได้ว่าอัตราสถานการณ์ของตำบลละมอมีรายงานผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก ๓ ปีย้อนหลัง ตั้งเเต่ พ.ศ.๒๕๖๕ - ๒๕๖๗ พบป่วยโรคไข้เลือดออกของตำบลละมอมีการระบาดในลักษณะปีเว้นปี ซึ่งสถานที่ตั้งของชุมชนมีความแออัด และประชาชนในชุมชนไม่มีส่วนร่วมในการจัดการสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับขยะจึงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ประชาชนในชุมชนจึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคไข้เลือดออกได้ง่ายขึ้น ดังนั้นชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขตำบลละมอ ได้ตระหนักถึงความสำคัญ จึงได้จัดทำโครงการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก ปีงยประมาณ ๒๕๖๘ ขึ้น เพื่อให้ชุมชนไม่มีแหล่งเพาะพันธุ์ และไม่มีผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก โดยเน้นให้ประชาชนเห้นความสำคัญและถือเป็นภารกิจที่ต้องช่วยกัน กระตุ้นและชักนำให้ประชาชน องค์กรชุมชน ตลอดจนเครือข่ายสุขภาพให้มีส่วนร่วมอย่างจริงจัง
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ๑.เพื่อลดค่าดัชนีความชุกของลูกน้ำยุงลายในหมู่บ้าน วัด โรงเรียนและศูนย์เด็กเล็ก ๒.เพื่อลดอัตราป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก
|
รวมทั้งสิ้น | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | 0.00 |
๑.ผู้ป่วยไข้เลือดออกในพื้นที่ลดลง ๒.สามารถควบคุมโรคไข้เลือดออกในพื้นที่ไม่ให้เกิด generation ๒ ได้ ๓.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับ และประชาชนในหมู่บ้าน ทุกคนให้ความร่วมมือและมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ๔.ค่าดัชนีลูกน้ำยุงลาย (HI,CI) ไม่เกินเกณฑ์
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2568 15:15 น.