กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

กิตติกรรมประกาศ

"ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 3-5 ปี ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดพรหมประดิษฐ์ จังหวัดสงขลา" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลพิจิตร อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.พิจิตร ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 3-5 ปี ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดพรหมประดิษฐ์

บทคัดย่อ

โครงการ " ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 3-5 ปี ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดพรหมประดิษฐ์ " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลพิจิตร อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา รหัสโครงการ L5208-8-2560 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 พฤษภาคม 2560 - 30 พฤษภาคม 2560 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 16,205.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล อบต.พิจิตร เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้

โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"

สารบัญ

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

จากข้อมูลการตรวจสุขภาพฟันเด็ก ปี ๒๕๕๙ พบว่าเด็กอายุ ๑๘ เดือน ไม่นำขวดนมมากินที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและไม่นำขนม และนมเปรี้ยวมากินที่ศูนย์ฯ เด็กมี Plaque ๔ ซี่หน้าร้อยละ ๕.๓ฟันผุร้อยละ ๙๓.๓๓ในเด็ก ๓ ปี เด็กที่แปรงฟันตอนเช้าร้อยละ ๙๕.๓๔เด็กที่มีฟันสะอาดร้อยละ ๖๕.๑๑ฟันผุร้อยละ ๕๑.๑๖จะเห็นได้ว่าโรคฟันผุและช่องปากำม่สะอาดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้นสภาพปัญหาโรคฟันผุในเด็กอายุ ๓ ปีขึ้นไปมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทั้งนี้เนื่องจากผู้ปกครองไม่มีความรู้และไม่ตระหนักถึงความสำคัญของฟันน้ำนมเด็กจึงไม่ได้รับการดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีเท่าที่ควรเด็กไม่ได้รับการทำความสะอาดช่องปากก่อนนอน ผู้ปกครองไม่ทราบวิธีและไม่มีทักษะในการทำความสะอาดช่องปากให้เด็ก อีกทั้งเด็กยังมีพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสม อาทิเช่นนอนหลับคาขวดนมกินนมหวานอมข้าวรวมทั้งให้กินขนมระหว่างมื้อมากกว่าวันละ ๒ ครั้งและการขาดการทำความสะอาดช่องปากเด็กอย่างเหมาะสมฟันน้ำนมมีความสำคัญอย่างยิ่งช่วยในการบดเคี้ยวอาหารเพื่อให้เด็กได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตและส่งผลต่อพัฒนการด้านอื่นๆอีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของใบหน้าและขากรรไกรช่วยในการออกเสียงพูดให้ชัดเจน ช่วยในการรักษาที่ว่างไว้ให้ฟันแท้ขึ้นตรงตำแหน่งอีกทั้งการที่เด็กมีฟันผุตั้งแต่อายุน้อยการให้การรักษาย่อมทำได้ยากเนื่องจากเด็กไม่ให้ความร่วมมือและค่าใช้จ่ายในการรักษาย่อมสูงกว่าการป้องกัน จึงนับว่าเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณในการบริการโดยไม่จำเป็นดังนั้นการให้ความรู้และเสริมทักษะแก่ผู้เลี้ยงดู เพื่อให้เริ่มแปรงฟันให้ลูกตั้งแต่ฟันเริ่มขึ้นจึงเป็นเรื่องจำเป็น จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าปัญหาของฟันน้ำนมผุในเด็กเล็กมีความเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพเด็กเล็กของผู้เลี้ยงดูเด็กโดยตรงเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำผุในเด็กเล็กโครงการนี้จึงมุ่งที่จะให้ความรู้แก่ผู้เลี้ยงดูเด็กถึงวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กที่ไม่เหมาะสม คือ การให้เด็กกินนมหวานให้ดูดนมมื้อดึก เมื่ออายุมากกว่า ๖ เดือน ให้เด็กเลิกขวดนมช้ารวมทั้งให้กินขนมระหว่างมื้อมากกว่าวันละ ๒ ครั้ง (กินจุบจิบ)และการขาดการทำความสะอาดช่องปากเด็กอย่างเหมาะสม ซึ่งโครงการนี้ทำควบคู่กับการให้บริการทาฟลูออไรด์วานิชให้กับเด็กในกลุ่ม ๓-๕ ปี

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

1. เพื่อกระตุ้นให้ผู้ปกครองเด็กนักเรียนมีทัศนคติต่อความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากเด็ก
2. เพื่อให้ผู้ปกครองเด็กนักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจการดูแลสุขภาพช่องปากเด็ก ๓-๕ ปี
3. เพื่อลดการเกิดฟันผุในเด็ก ๓-๕ ปีที่เข้าร่วมโครงการ

กิจกรรม/การดำเนินงาน

กลุ่มเป้าหมาย

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

.......๑.ผู้ปกครองเด็กมีทัศนคติต่อความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากเด็ก .......๒.ผู้ปกครองเด็กมีความรู้ ความเข้าใจการดูแลสุขภาพช่องปากเด็ก .......๓.ลดการเกิดฟันผุในเด็ก ๓-๕ ปีเข้าร่วมโครงการ

ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น