โครงการสร้างสุขภาพ เพื่อรู้จักดูแลตนเอง ควบคุมโรคเบาหวานโรคความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือด
ชื่อโครงการ | โครงการสร้างสุขภาพ เพื่อรู้จักดูแลตนเอง ควบคุมโรคเบาหวานโรคความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือด |
รหัสโครงการ | 61-L2491-2-2 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศสมช.หมู่1 |
วันที่อนุมัติ | 30 พฤศจิกายน 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2561 - 30 กันยายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 15,600.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวซิตี สแม |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.404,101.862place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
สถานการณ์และแนวโน้มโรคความดันโลหิตสูงเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญของโลก จากการสำรวจอัตราความชุก DM@HT พบว่าประเทศไทยมี ผู้ป่วย 7,378,812 ราย ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง โดยคิดเป็นอัตราความชุกร้อยละ 21.4นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ป่วยที่ควบคุมระดับความดันโลหิตไม่ได้มีอัตรที่สูงขึ้น รวมทั้งอัตราการกลับเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากภาวะแทรกซ้อนของความดันโลหิตสูง พบว่าอยุ่ในเกณฑ์สูง ความทุกข์ทรมาณจากความเจ็บป่วยส่งผลต่อคุณภาพชีวิตทั้งของผู้ป่วย ครอบครัวและสังคม เป็นปัญหาสุขภาพเรื้อรังที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงและต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การดูแลของแพทย์และบุคลากรสาขาอื่นๆหลายสาขา ผู้ป่วยจำเป็นต้องมีบทบาทอย่างมากในการเรียนรู้และดูแลตนเองเพื่อควบคุมการเจ็บป่วยซ้ำและลดความรุ่นแรงของภาวะโรค การแสดงอาการเนื่องจากความดันโลหิตในกลุ่มเสี่ยง จะค่อยสูงขึ้นและร่างกายค่อยๆปรับตัวให้เข้ากับภาวะความดันโลหิตสูง ส่วนใหญ่มักจะไม่แสดงอาการใดๆ ดังนั้นผู้ป่วยจึงไม่ค่อยทราบ หากได้รับการตวจวัดความดันโลหิต ยกเว้นในรายที่มีอาการสูงมาก อาจมีอาการปวดตึงท้ายทอยหรือปวดศรีษะรุนแรง เนื่องจากคนที่มีภาวะความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่มักไม่ค่อยรู้ตัว ดังนั้นโอกาสจะเกิดโรคแทรกซ้อนจากความดันโลหิตสูงก็มีมากตามไปด้วย โดยทำให้้เกิดโรคแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อหัวใจ ไต ตา และโรคหลอดเลือดสมอง และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตได้ ดังนั้น จึงเปรียบภาวะความดันโลหิตสูงว่าเป็น "ภัยเงียบ"หรือ "ฆาตกรเงียบ"นั้นเอง ด้วยความตระหนักถึงปัญหาและภัยของภาวะความดันโลหิตสูง ทางศูนย์สุขภาพสาธารณสุขมูลฐาน นำโดยอาสาสมัครสาธารณสุข โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าตำบลกะลุวอเหนือ จึงได้จัดทำโครงการสร้างสุขภาพ เพื่อรู้จักดูแลตนเอง ควบคุมโรคเบาหวานโรคความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือด เพื่อให้ประชาขนกลุ่มนี่มีสุุขภาพที่ดี มีความรู้ในการดูแลตนเอง ลดการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและภาวะแทรกซ้อนและการสูญเสียทรัพยากรของชาติต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อเพิ่มความรู้แก่ อสม.และสามารถคัดกรองสุขภาพได้ถูกต้อง อสม.วัดความดันโลหิต เจาะน้ำตาลในเลือด ชั่ง นน./ส่วยสูง แก่ประชาชนในเขตรับผิดชอบ และแปรผลได้ถูกต้อง |
||
2 | มีการประเมินกลุ่มเสี่ยงเพื่อสามารถให้คำแนะนำ การดูแลที่ถูกต้อง กลุ่มเสี่ยงได้รับคำแนะนำ อสม. และ จนท |
||
3 | เพื่อให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงมีความรู้เรื่องโรค การดูแลสุขภาพ การรับประทานอาหารและยา การออกกำลังกาย ทั้งสามารถดูแลตนเองได้ถูกต้อง ผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงมีความรู้ จากการประเมินแบบสอบถาม ก่อน-หลังการอบรม |
||
4 | เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถนำความรู้ที่ได้รับ มาปรับพฤติกรรมในเรื่องการดูแลสุขภาพตนเอง ใช้ยาได้อย่างปลอดภัย ถูกวิธี อสม. ผู้ป่วย กลุ่มเสี่ยง และแกนนำสุขภาพ มีความรู้ในการดูแลตนเอง การใช้ยา ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงของโรคหลอดเลือด |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 15,600.00 | 2 | 15,600.00 | |
28 ก.ย. 61 | อบรมความรู้เพิ่มศักยภาพอสม. คัดกรองกลุ่มเสี่ยง | 0 | 5,500.00 | ✔ | 5,500.00 | |
28 ก.ย. 61 | อบรมกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือด และคัดกรองสุขภาพ | 0 | 10,100.00 | ✔ | 10,100.00 |
ขั้นเตรียมการ
1. จัดประชุมชี้แจงโครงการฯแก่คณะกรรมการ อสม. หมู่ที่ 1
2. จัดทำโครงการเพื่อเสนอประธานคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อขอรับพิจารณาอนุมัติ
3. ประสานงานกับ รพ.สต. อปท. เพื่อเป็นวิทยากรในการดำเนินกิจกรรม
ขั้นการวางแผนและจัดเตรียมงานต่างๆ
1. จัดเตรียมสถานที่และอุปกรณ์ที่จะใช้ในการจัดกิจกรรมฯ
2. จัดทำหนังสือราชการเพื่อติดต่อประสานงานวิทยากร/รพ.สต. สะปอม และ รพ.สต.ตำบลกะลุวอเหนือ เพื่อขอความร่วมมือในกรณีที่มีความจำเป็น
3. จัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับการถ่ายและบันทึกภาพ เช่น กล้องถ่ายรูป กล้องวิดีโอ เพื่อ สำหรับบันทึกภาพประกอบการจัดกิจกรรม
4. จัดเตรียมเอกสารประเมินความพึ่งพอใจของกิจกรรมเพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลในการ ปรับปรุงแก้ไขในกิจกรรมครั้งต่อไป
5. ดำเนินกิจกรรมการอบรม ที่กำหนดไว้ตามวัน และเวลาดังตารางกิจกรรมที่แนบท้ายมาพร้อมโครงการฯ
- อสม. มีความรู้ ความชำนาญ สามารถคัดกรองคุณภาพประชาชนในเขตรับผิดชอบได้ถูกต้อง
- อสม.มีการประเมินกลุ่มเสี่ยงเพื่อสามารถให้คำแนะนำ การดูแลที่ถูกต้อง
- ผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีความรู้เรื่องโรค การดูแลสุขภาพ การับประทานอาหารและยา การออกกำลังกาย ทั้งสามารถดูแลตนเองได้ถูกต้อง
- ผู้ป่วยนำความรู้ที่ได้รับ มาปรับพฤติกรรมในเรื่องการดูแลสุขภาพตนเอง ใช้ยาได้อย่างปลอดภัย ถูกวิธี
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2561 16:42 น.