โครงการ อสม. ร่วมใจเฝ้าระวังและการคัดกรองไวรัสตับอักเสบบีและไวรัสตับอักเสบซี ปี 2568
ชื่อโครงการ | โครงการ อสม. ร่วมใจเฝ้าระวังและการคัดกรองไวรัสตับอักเสบบีและไวรัสตับอักเสบซี ปี 2568 |
รหัสโครงการ | 68 – L8423-2-02 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรม อสม.รพ.สต.บาโงสะโต |
วันที่อนุมัติ | 19 ธันวาคม 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ธันวาคม 2567 - 30 กันยายน 2568 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2568 |
งบประมาณ | 28,370.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางรูซนา เจะฮะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบาโงสะโต อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.277,101.691place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
สถานการณ์ของโรคตับอักเสบทั่วโลก จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก พบผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังประมาณ 257 ล้านคน และผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรังประมาณ 71 ล้านคน สถานการณ์ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ประมาณ 2.2 - 3 ล้านคน และผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ประมาณ 8 แสนคน พบมากในผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป และพบอัตราการเสียชีวิตมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โรคไวรัสตับอักเสบ บี และซี สามารถติดต่อผ่านทางเลือดและสารคัดหลั่ง การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย สำหรับโรคไวรัสตับอักเสบบี สามารถติดต่อจากแม่สู่ลูกได้ ทั้งนี้ โรคไวรัสตับอักเสบบี มีวัคซีนในการป้องกัน หากมีพฤติกรรมเสี่ยงให้รีบไปตรวจคัดกรองโดยเร็ว สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ควรรีบมาฝากครรภ์ และรับการตรวจหาโรคไวรัสตับอักเสบบี เพื่อลดการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันได้มีการใช้วัคซีนเพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันในเด็กแรกเกิดทุกคน เพื่อป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบี แต่สำหรับประชาชนที่เกิดก่อนปี 2535 ควรตรวจหาภูมิคุ้มกันโรคไวรัสตับอักเสบบี หากไม่มีภูมิคุ้มกัน แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบี ให้ครบชุด จำนวน 3 เข็ม ซึ่งจะป้องกันไวรัสตับอักเสบบี และลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้ ส่วนโรคไวรัสตับอักเสบซี ไม่มีวัคซีนในการป้องกัน แต่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการทานยาต้านไวรัสให้ครบ 12 สัปดาห์ ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ควรเข้ารับบริการตรวจคัดกรองและรักษาโดยเร็ว ทั้งนี้ หากประชาชนมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี ให้เข้ารับการคัดกรองและเข้าสู่ระบบริการรักษาโดยเร็ว เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี ภาวะตับแข็ง และโรคมะเร็งตับ เพื่อนำไปสู่การกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบบีและซีให้หมดไปภายในปี 2573
ดังนั้น ชมรม อสม.รพ.สต.บาโงสะโต ร่วมกับ รพ.สต.บาโงสะโต ได้เห็นประโยชน์และความสำคัญในจุดนี้จึงได้ทำโครงการเฝ้าระวังและการคัดกรองไวรัสตับอักเสบบีและไวรัสตับอักเสบซี ปี 2568 ขึ้นเพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้ห่างไกลจาก ทำให้ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ปราศจากการเป็นโรค
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้เครือข่ายสุขภาพภาคประชาชน มีความรู้ ความเข้าใจ ในการป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบและแนะนำให้ประชาชนได้รับการรักษาได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
|
||
2 | เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้รับการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบ บี และไวรัสตับอักเสบ ซี
|
||
3 | เพื่อให้ประชาชนที่ป่วยได้รับการรักษาที่ถูกต้อง
|
รวมทั้งสิ้น | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | 0.00 |
- ประชาชน มีความรู้ ความเข้าใจ และการป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี
- ประชาชน กลุ่มเสี่ยงได้รับการคัดกรองไวรัสตับอักเสบบีและซี
- ประชาชน ที่มีผลตรวจเลือด เป็นบวก (positive) ให้รับการส่งต่อเพื่อให้ได้รับการรักษา
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2568 10:39 น.