โครงการประชาร่วมใจต้านภัยยาเสพติด
ชื่อโครงการ | โครงการประชาร่วมใจต้านภัยยาเสพติด |
รหัสโครงการ | 60-50115-2-01 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.กาวะ |
วันที่อนุมัติ | 26 ธันวาคม 2559 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 4 มกราคม 2560 - 31 กรกฎาคม 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 36,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายอิบรอเฮง ดอรอเฮง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | อบต.กาวะ ตำบลกาวะ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.02,101.889place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 110 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 190 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญประการหนึ่งของประเทศ ซึ่งบ่อนทำลายทรัพยากรและความมั่นคงของประเทศชาติและสังคมเป็นอย่างมาก ได้มีการดำเนินงานในทุกวิถีทางที่จะป้องกันและปราบปรามมิให้มีการเสพ การซื้อขาย และการผลิตยาเสพติด แต่เนื่องจากปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหม่ที่มีความยุ่งยากและสลับซับซ้อนตอการดำเนินการ จำเป็นต้องวางแผนสำหรับดำเนินงานในแต่ละด้านอย่างรอบคอบ และไม่ได้มีแต่ประเทศไทยแห่งเดียวเท่านั้น ประเทศอื่นๆก็ได้มีความพยายามที่จะยับยั้งการเสพ การซื้อขาย และการผลิตยาเสพติดอยู่ตลอดเวลา พฤติกรรมการใช้ยาของมนุษย์นั้น มีเหตุผลสองประการด้วยกัน คือ เพื่อช่วยให้ตัวเราอยู่ในสภาพที่ เป็นสภาพปกติ นั่นก็คือ เพื่อรักษาโรคและเพื่อปัดเป่าความเจ็บปวดให้เหือดหายไป หรือมิฉะนั้นก็ใช้ยาเพื่อปลดปล่อยตัวเราจากสภาพปกตินั่นคือเพื่อทำให้เรารู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวาหรือสบายขึ้น
ปัจจุบันนี้ ยาเสพติดได้เข้ามาแพร่หลายในสังคมเราเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเฮโรอีน มอร์ฟีน และอื่นๆ อีกกว่า 100 ชนิด ซึ่งนอกจากผู้ใหญ่จะติดยาเสพติดแล้ว ก็ยังมีเยาวชนไทยอายุน้อยๆ ลงไป ติดยาเสพติดเหล่านี้อีกด้วย ซึ่งนับว่าเป็นการสูญเสียทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการปกครอง เพราะนอกจากผู้เสพยาเสพติดทั้งหลายนี้ จะได้สามารถประกอบอาชีพทำการงานต่างๆไม่ได้แล้ว ยังก่ออาชญากรรม ทำให้เกิดปัญหาต่อสังคมกระทบกระเทือนต่อประชาชนผู้ไม่ได้เสพยาเสพติดอีกด้วย สาเหตุการติดยาเสพติดในปัจจุบันมีหลายสาเหตุอาทิเช่น การหาซื้อยาไปกินเองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ เมื่อกินบ่อยๆก็จะทำให้ติดได้ ครอบครัวที่พ่อแม่ไม่มีเวลาดูแลบุตรหลาน เพราะต้องไปประกอบอาชีพนอกบ้าน ทำให้บุตรหลานไปคบเพื่อนนอกบ้าน อาจจะมีเพื่อนทีชักนำไปเสพสิ่งเสพติด หรือถูกหลอกลวงไปในทางที่ผิด หรือแม้แต่พ่อ แม่หย่าร้างกันอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้บุตรหลานไปเสพยาเสพติดได้
เราจะพูดถึงสาเหตุของการติดยาเสพติดที่มาจากครอบครัวมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่ไม่มีเวลาดูแลลูก พ่อแม่หย่าร้างกัน กรณีเหล่านี้อาจทำให้เด็กเกิดความคับแค้นใจ เพราะคิดว่าตนไม่ได้รับความยุติธรรม ทำให้เด็กหันไปใช้ยาเสพติด ทั้งนี้เนื่องจากเด็ก ต้องการใช้ยาเป็นที่พึ่ง เนื่องจากมีความทุกข์ทางใจ หรืออาจจะมีปมด้อยหรืออาจเป็นเพราะเด็กขาดความรัก ความเอาใจใส่จากพ่อแม่ เมื่อเหงาก็ต้องออกไปหาเพื่อนข้างนอกซึ่งอาจเป็นหนทางนำไปสู่ปัญหาการใช้ยาเสพติดได้ เด็กทุกคนนั้นอยากเป็นคนดี เป็นที่รักของทุกคน เป็นคนที่มีค่า
มีความหมายต่อพ่อแม่ ต่อสังคมของตัวเอง ไม่มีใครอยากเป็นคนเลวหรืออยากจะไปติดยาเสพติด แต่การกระทำในบางครั้งของเด็กคิดว่า ตนทำถูกแล้ว ทำดีแล้ว แต่บางครั้งก็อาจจะตรงกันข้ามกับความคิดของผู้ใหญ่ ก็อาจทำให้เกิดการไม่เข้าใจกัน ด้วยความเป็นเด็ก การตัดสินใจ การใช้เหตุผล บางครั้งอาจจะไม่รอบคอบ ไม่เด็ดขาดเท่าที่ควร ทำให้เป็นหนทางที่จะนำไปสู่สิ่งเสพติดได้ง่าย การที่จะให้เด็กและเยาวชนห่างไกลจากยาเสพติดนั้น จำเป็นจะต้องแก้ไขปัญหาพื้นฐานที่เป็นสาเหตุของการนำไปสู่การใช้ยาเสพติด ได้แก่ ปัญหาครอบครัวและชุมชน พร้อมๆกับการการแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อลดปริมาณยาเสพติดในสังคมลง เมื่อเด็กได้รับความรัก ความอบอุ่นจากการดูแลเอาใจใส่จากพ่อแม่อย่างพอเพียงแล้ว ปัญหาเด็กติดยาเสพติดก็จะไม่เกิดขึ้น
จากปัญหาครอบครัว ดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกาวะ จึงมีแนวคิดที่จะ ทำโครงการ "ประชาร่วมใจต้านภัยยาเสพติด ปี 2560" กลุ่มเป้าหมายกลุ่มประชาชนผู้สูบบุหรี่ นักเรียนชาย ชั้น ป.4 - ป.6 ผู้ปกครองนักเรียน จำนวนทั้งสิ้น 300 คน เพราะเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มในการติดยาเสพติดเพิ่มขึ้นมากในขณะนี้ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกาวะ ได้เล็งเห็นถึงว่า ในอนาคตหากเด็กเหล่านี้ต้องออกไปเผชิญชีวิตภายนอก โดยที่ไม่มีความรู้เรื่องพิษภัย และวิธีที่จะหลีกหนีให้พ้นจากยาเสพติด
มีโอกาสที่เด็กจะติดยาเสพติดได้ การจัดทำโครงการนี้มุ่งเน้นให้เด็กที่เข้าร่วมโครงการได้รู้ถึงพิษภัย และรู้ถึงวิธีให้ห่างไกลจากยาเสพติดทั้งหลาย เพื่อได้นำความรู้ที่ได้รับไปเป็นแนวทางในการป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจาก ยาเสพติดต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อให้เยาวชน นักเรียนได้รับรู้และรับทราบถึงปัญหาและพิษภัยของยาเสพติด
๒.เพื่อต่อต้านและป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดในสถานศึกษาและชุมชน
๓.เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ทักษะทางความคิดสร้างภูมิคุ้มกันทางด้านร่างกายจิตใจให้กับเยาวชน
ไม่ตกเป็นทาสของอบายมุข กลุ่มประชาชนผู้สูบบุหรี่ นักเรียนชาย ป.4-ป.6 และผู้ปกครองนักเรียน ได้รับการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ จำนวน 300 คน |
- ประชุมชี้แจงโครงการ
- ประชาสัมพันธ์ ในโรงเรียน 5 แห่ง มัสยิด 6 แห่ง เป็นเขตปลอดบุหรี่
- อบรมเชิงปฏิบัติการกลุ่มประชาชนผู้สูบบุหรี่ นักเรียนชาย ชั้น ป.4 - ป.6 ผู้ปกครองนักเรียน
- ผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะเป็นผู้มีส่วนร่วมรณรงค์ให้เยาวชนและประชาชนในพื้นที่รับรู้และทราบถึงปัญหาพิษภัยของยาเสพติด ๒.ผู้เข้าร่วมรับการฝึกอบรมสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิต ทักษะทางความคิดสร้างภูมิคุ้มกันทางด้านร่างกายจิตใจ ไม่ตกเป็นทาสของอบายมุข และปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีด้วยวิถีแห่งหลักธรรม
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2560 11:55 น.