กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการชุมชนยุคใหม่ ส่งเสริม ใส่ใจดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพร ปี 2568
รหัสโครงการ 68-l2519-1-9
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต.
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางขุด
วันที่อนุมัติ 27 มีนาคม 2568
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 ตุลาคม 2567 - 30 กันยายน 2568
กำหนดวันส่งรายงาน 30 กันยายน 2568
งบประมาณ 13,600.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นางศิราณี อับดุลรามัน
พี่เลี้ยงโครงการ
พื้นที่ดำเนินการ ตำบลฆอเลาะ อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส
ละติจูด-ลองจิจูด 5.906,101.912place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีความเสี่ยง
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
งวดวันที่งวดโครงการวันที่งวดรายงานงบประมาณ
(บาท)
จากวันที่ถึงวันที่จากวันที่ถึงวันที่
1 1 ม.ค. 2568 30 ก.ย. 2568 13,600.00
รวมงบประมาณ 13,600.00
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มวัยทำงาน 60 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน :

กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

ภูมิปัญญาการแพทย์พื้นบ้าน เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คนไทยตั้งแต่บรรพบุรุษมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ และสามารถต่อสู้กับโรคภัยต่างๆ ได้ การแพทย์พื้นบ้าเป็นหนทางหนึ่ง ที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้กับคนในชุมชนได้แบบปฐมภูมิ มีความสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในสังคมไทย ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น ซึ่งการดูแลสุขภาพมีมาตั้งแต่สมัยโบราณโดยใช้สมุนไพรใกล้ตัวที่หาได้ไม่ยากรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ และในปัจจุบันมีความเจริญก้าวกน้า ทางเทคโนโลยี สร้างเป็นผลิตภัณฑ์ยา ที่ทำจากสมุนไพรรักษาอาการต่างๆ น้ำมันไพลเป็นหนึ่งในยาบัญชียาหลัก มีสรรพคุณช่วยทำให้บรรเทาอาการบวม ฟกช้ำ เคล็ดยอก ปวดเมื่อยตามร่างกาย ใช้ทาถูนวดบริเวณที่มีอาการ น้ำมันไพลยังช่วยแก้อาการตะคริว ปวดสันหลัง ปวดเข่าอีกด้วย ทั้งสมุนไพรชนิดนี้เป็นพืชเศรษฐกิจภานในชุมชน ซึ้งจะทำให้เพิ่มมูลค่าให้กับคนในชุมชน และด้วยประชาชนตำบลฆอเลาะ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำสวนและกรีดยาง ทำให้ปวดเมื่อยตามร่างกายเป็นประจำค่อนข้างมาก ความผิดปกติของระบบกระดูกและกล้ามเนื้อเป็นปัญหาสำคัญปัญหาหนึ่งของผู้ประกอบอาชีพใน ประเทศไทยจากสถิติการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย เนื่องจากการทำงานทั้งหมดของปี พ.ศ.2557 พบว่า ส่วนใหญ่(ร้อยละ 83.2) เกิดจากปัญหาของโรคกระดูกและกล้ามเนื้อที่เกิดขึ้นเนื่องจากการทำงาน หรือสาเหตุจากลักษณะงานที่จำเพาะหรือมีปัจจัยเสี่ยงสูงในสิ่งแวดล้อมการทำงาน และจากข้อมูลผู้ป่วยโรคกระดูกและกล้ามเนื้อ จากการทำงานของระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขในปี พ.ศ.2557 พบผู้ป่วยโรคกระดูกและกล้ามเนื้อ 81,226 คน(135.3/ประชากร แสนคน) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ.2558 ที่พบผู้ป่วย 72486 คน (121.7 ตอประชากรแสนคน) สำหรับในภาคใต้พบว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชมีอัตราผู้ป่วยนอกกลุ่มโรคกระดูกและกล้ามเนื้อสูงเป็นอันดับ 4 โดยมีอตราป่วยเท่ากับ 8444.7 ต่อประชากรแสคน นอกจากนี้พบว่าการป่วยด้วยโรคกระดูกและกล้ามเนื้อของจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ปี 2556-2560 มีแนว โน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดนครศรีธรรมราชมีปัญหาความผิดปกติของระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ โรคและภาวะความผิดปกติของระบบกระดูกและกล้ามเนื้อเป็นโรคที่พบได้มากในกลุ่มคนทำงาน รคตังกล่าวมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น เกิดจากท่าทางซ้ำๆ หรือมีแรงกดดันต่อกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ข้อต่อหรือกระดูกเป็นระยะเวลานาน การออกแรงเกินกำลัง การออกแบบเครื่องมือหหน่วยที่ทำงานที่เหมาะสม รวมทั้งการทำงานด้วยท่าทางที่ผิดปกติ นอกจากนี้พบว่าการทำงาน โดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาความเป็นปกติของระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น การนั่งทำงนหน้าคอมพิวเตอร์ในระยะเวลานาน การเอี้ยวตัวขณะนั่งทำงานความสูงของโต๊ะ เก้าอี้ รวมทั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมกับผู้ปฏิบัติงาน เป็นต้น ปัญหาด้านสายตา การปวด ความล้าบริเวณคอ หลัง มือ ข้อมือ ล้วนเป็นปัญหาสุขภาพที่สามารถพบได้ในผู้ที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานาน จุฑาทิพย์ วิญญูเจริญกุล และกลางดือน โภชนา ได้ทำการประเมินความเสี่ยงทางกายศาสตร์ ของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนความเสี่ยงเท่ากับ 5 คะแนน นั้นคือท่าทางการปฏิบัติงานอยู่ในภาวะเสี่ยงต้องมีการปรับปรุงทันที นอกจากนี้งานวิจัยของ เมธินี ครุสันธิ์ และสุนิสา ชายเกลี้ยง ได้ศึกษาพบว่า ความรูสึกไม่สบายบริเวณ คอ ไหล่และหลังของพนักงานสำนักงานของมหาวิทยาลัยเกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า 4 ชั่วโมงต่อวันและพบว่าในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมาพนักงานมีอาการปวดบริเวณไหล่ขวามากที่สุด คิดเป็น ร้อยละ 51.1 รองลงมาคอไหล่ซ้ายคิดเป็นร้อยละ 41.1 และความรู้สึกไม่สบายสูงสุดบริเวณไหล่ขวาคิดเป็นร้อยละ 21.2 ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย “เจ็บป่วยคราใด คิดถึงยาไทย ก่อนไปหาหมอ”โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางขุด ได้เห็นถึงคามสำคัญในการส่งเสริมการใช้ ยาสมุนไพรในชุมชน เพื่อลดการใช้ยาบางอย่าง เช่น ยาลดการอักเสบกล้ามเนื้อและข้อ ฯลฯ รวมถึงเข้าใจสภาพปัญหาต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชนในทุกๆด้านดังกล่าวมาข้างต้นและเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักการปลูกพืชสมุนไพรใช้ในครัวเรือน ดังนั้น จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพรในชุมชน ปี 2568 และจัดกิจกรรมต่างๆให้สอดคล้องกับสภาพความต้องการของประชาชนในตำบลฆอเลาะ โดยมุ่งหวังให้เกิดการส่วนร่วมของประชาชน และหน่วยงานภาครัฐ ทั้งนี้ได้มุ่งเน้นในด้านการส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพรในชุมชน

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 1. เพื่อส่งเสริมการใช้ความรู้การแพทย์แผนไทยในการส่งเสริม ป้องกัน ดูแลรักษา ฟื้นฟูสุขภาพ
  1. ร้อยละ 80 กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ ความเข้าใจในการใช้สมุนไพรใกล้ตัวอย่างถูกต้องและปลอดภัย
2 2. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการบริการด้านแพทย์แผนไทย การใช้ยาสมุนไพรและลดการใช้ยาที่ไม่จำเป็น
  1. ร้อยละ 80 กลุ่มเป้าหมายสามารถลดการใช้ยาที่ไม่จำเป็นได้
stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม

กิจกรรม 1. จัดอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจในการใช้สมุนไพรในท้องถิ่น   กลุ่มเป้าหมาย ประชาชนทั่วไป จำนวน 60 คน 2. สาธิตวิธีการบริหารร่างกาย

stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
  1. ประชาชนได้รับความรู้ ความเข้าใจการใช้สมุนไพรใกล้ตัวอย่างถูกต้องและปลอดภัย
  2. ประชาชนมีความรู้ มีทักษะในการบริหารร่างกาย
  3. ผู้ร่วมโครงการ สามารถนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้ในการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวัน
stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2568 13:47 น.