โครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันบุหรี่ไฟฟ้า
ชื่อโครงการ | โครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันบุหรี่ไฟฟ้า |
รหัสโครงการ | 2568-L7161-2-28 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงเรียนเทศบาล 4 (บ้านกาแป๊ะฮูลู) |
วันที่อนุมัติ | 23 เมษายน 2568 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มิถุนายน 2568 - 31 สิงหาคม 2568 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2568 |
งบประมาณ | 38,255.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 4 (บ้านกาแป๊ะฮูลู) |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 5.803,101.009place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 150 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบัน “บุหรี่ไฟฟ้า” ถือว่าได้รับความนิยมขึ้นกว่าในอดีตมาก ซึ่งแรกเริ่ม บุหรี่ไฟฟ้าได้รับการโฆษณา สรรพคุณว่าเป็นตัวช่วยที่ทำให้เลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้น และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่มาจนวันนี้ “บุหรี่ไฟฟ้า” ได้ กลายเป็นเหมือนกับทางเลือกสำหรับ “วัยรุ่น” มากขึ้นในฐานะ “แฟชั่นใหม่” ภายใต้แนวความคิดที่ว่า “เท่ห์ สูบได้ และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ”
สำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 เผยคนไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้า 78,742 คน ในจำนวนนี้อายุ 15-24 ปี 24,050 คน และผลสำรวจของกระทรวงสาธารณสุขพบเยาวชนไทยมีการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น โดยในกลุ่มเด็กนักเรียนไทยเพิ่ม จากร้อยละ 3.3 ปี 2558 เป็น ร้อยละ 8.1 ในปี 2564 สัดส่วนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการขายและส่งเสริม การขายบุหรี่ไฟฟ้า พบว่า มีการขายและส่งเสริมการขายบุหรี่ไฟฟ้าในสื่อสังคมออนไลน์สูงถึง 300 ราย ใน 6 แพลตฟอร์ม พบการขายมากที่สุดผ่านทาง “เว็บไซต์” อยู่ที่ร้อยละ 23 รองลงมาคือผ่านทางแอปพลิเคชัน “Line” อยู่ ที่ร้อยละ 21 และ “Youtube” อยู่ที่ร้อยละ 20 ส่วนช่องทาง “Facebook” พบอยู่ที่ร้อยละ 15 “Twitter” พบอยู่ที ร้อยละ 12 และผ่านทาง “Instagram” พบอยู่ที่ร้อยละ 9 จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า “บุหรี่ไฟฟ้า” มีความแพร่หลาย อย่างมากในกลุ่มเยาวชนไทย และยังสามารถหาซื้อได้ง่ายผ่านทางช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เราจึงพบเห็นแนวโน้มการ ใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่มากขึ้นในปัจจุบัน
จากการสังเกตและติดตามประเมินภายในโรงเรียนพบว่า เด็กอายุ11-15 ปี บางกลุ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป อย่างผิดปกติ เช่น ติดเกมส์ มาโรงเรียนพูดถึงแต่เกมส์ที่เล่นด้วยกันในค่ำคืนที่ผ่านมาไม่สนใจเรียน ก้าวร้าวและ หลับในห้องเรียน บางคนมีการขอ(ขู่)เอาเงินจากเพื่อนๆและรุ่นน้องในโรงเรียนและ/หรือที่เล่นเกมส์ด้วยกัน และมีการโพสต์ในเฟสบุ๊คกลุ่ม(ปิด) ชักชวนให้ซื้อบุหรี่ไฟฟ้า โดยเป็นตัวแทนขายตรง พร้อมกับชักชวนเพื่อนๆและรุ่นน้องให้ ลองสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นต้นเด็กที่มีฐานะค่อนข้างดี กลุ่มนี้จะมีทั้งเพื่อนในโรงเรียนเดียวกันและต่างโรงเรียน มีนัดที่จะ ไปพบกันทั้งในสนามกีฬา และสถานที่ใกล้ร้านจำหน่าย โดยผู้ปกครอง หรือ ครู ส่วนใหญ่ ยังไม่รู้ ตลอดจนไม่รู้ถึง สาเหตุพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของบุตรหลานของตน เช่น ขอเงินมากกว่าปกติโดยอ้างเหตุซื้ออุปกรณ์การเรียนฯลฯ ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของ ครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้าถือว่ามาแรงในปัจจุบัน ซึ่งที่พบมีมากในกลุ่ม ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา และที่น่าเป็นห่วงก็พบในระดับชั้น ป.5 - ม.3 และที่เพิ่งตรวจพบคือชั้น ม.1
ทางโรงเรียนเทศบาล ๔ (บ้านกาแป๊ะฮูลู) ได้เห็นความสำคัญของภัยร้ายจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า ที่มีต่อกลุ่ม เยาวชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนักเรียน ที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่น วัยอยากรู้อยากลอง โรงเรียนเทศบาล ๔ (บ้านกาแป๊ะฮูลู) จึงได้จัดโครงการ “เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันบุหรี่ไฟฟ้า” เพื่อให้นักเรียนได้รับความรู้ ฟฟ้า และเกิดความตระหนักถึงพิษภัย อันตรายจากการสูบของบุหรี่ใ รู้เท่าทันเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า และเกิดความตระหนักถึงพิ การช่วยเพื่อนมิให้ตกเป็นเหยื่อของการสูบบุหรี่ไฟฟ้า
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้นักเรียนที่เข้าร่วมการอบรมได้รับความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าและตระหนักถึงโทษของการสูบบุหรี่ไฟฟ้า
|
||
2 | เพื่อให้นักเรียนสามารถจัดตั้งกลุ่มแกนนำและศูนย์ข้อมูลป้องกันการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียนและแกนนำสามารถนำความรู้ไปถ่ายทอดให้นักเรียนในโรงเรียนได้
|
||
3 | เพื่อเป็นการสร้างกระแสในการรณรงค์ป้องกัน เรื่องบุหรี่ไฟฟ้า
|
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
คงเหลือ (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 300 | 38,255.00 | 0 | 0.00 | 38,255.00 | |
15 พ.ค. 68 | เดินรณรงค์ เรื่อง พิษภัยยาเสพติดและบุหรี่ไฟฟ้า | 150 | 9,230.00 | - | - | ||
1 มิ.ย. 68 - 31 ส.ค. 68 | กิจกรรมอบรมให้ความรู้ เรื่องสถานการณ์ของบุหรี่ไฟฟ้า พิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า ปัญหายาเสพติดในเยาวชนและการรณรงค์ เฝ้าระวัง ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่4 - มัธยมศึกษาปีที่ 6 | 150 | 29,025.00 | - | - | ||
รวมทั้งสิ้น | 300 | 38,255.00 | 0 | 0.00 | 38,255.00 |
- นักเรียนที่เข้าร่วมการอบรม ได้รับความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงโทษ รู้วิธีป้องกันและหลีกเลี่ยงตนจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า
- นักเรียนที่เข้าร่วมการอบรมได้เรียนรู้และเป็นแกนนำในการถ่ายทอดความรู้ขยายผลไปยังนักเรียนในโรงเรียนได้
- นักเรียนสามารถจัดตั้งกลุ่มเครือข่ายเฝ้าระวังและป้องกันการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2568 08:56 น.