โครงการปลูกผักปลอดสารเคมี สุขภาพดี ลดโรค ประจำปี 2568
ชื่อโครงการ | โครงการปลูกผักปลอดสารเคมี สุขภาพดี ลดโรค ประจำปี 2568 |
รหัสโครงการ | 68-L8422-02-01 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | กลุ่มสุขภาพดีวิถีชุมชน |
วันที่อนุมัติ | 27 กันยายน 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กรกฎาคม 2568 - 30 กันยายน 2568 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2568 |
งบประมาณ | 87,910.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางอาซียะห์ สาและ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันพบว่าประชาชนในชุมชนมีพฤติกรรมการบริโภคผักจากจากตลาดทั่วไป มีความเสี่ยงในการปนเปื้อนสารเคมีตกค้าง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น สารกำจัดศัตรูพืชหรือปุ๋ยเคมี ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน มะเร็ง ระบบทางเดินอาหาร และภูมิแพ้สะสมในระยะยาว ขณะเดียวกัน ภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง ทำให้บางครัวเรือนมีข้อจำกัดในการเลือกซื้อผักปลอดภัย จึงเกิดแนวคิดส่งเสริมให้ประชาชน "ปลูกผักปลอดสารเคมีข้างบ้าน" เพื่อให้เข้าถึงอาหารปลอดภัย ลดรายจ่ายด้านอาหาร เพิ่มกิจกรรมทางกาย และสร้างความภาคภูมิใจในตนเองและครอบครัวอีกทั้งส่งเสริมสุขภาพของประชาชนในตำบล และสร้างความมั่นคงด้านอาหารอย่างยั่งยืน โครงการนี้มุ่งหวังให้ประชาชนมีสุขภาพดีจากการบริโภคผักปลอดสาร ป้องกันโรค ลดโรค ลดภาระงบประมาณในการรักษา และสามารถเป็นศูนย์เรียนรู้ต่อยอดในระดับครัวเรือนและชุมชนได้ เพื่อให้ประชาชนสามารถเรียนรู้และนำไปปฏิบัติได้จริงในครัวเรือนของตนเอง การส่งเสริมให้ประชาชนมีการพึ่งพาตนเอง ผลิตอาหารไว้กินเองในครัวเรือน "ปลูกเอง กินเอง" โดย การปลูกผักปลอดสารพิษภายในชุมชน ซึ่งนอกจากจะช่วยลดรายจ่ายจากการซื้ออาหารเข้าบ้านแล้วยังช่วยให้มีการรวมกลุ่มมาพูดคุยกันสร้างสัมพันธ์ที่ดี มีความเอื้ออารีกัน ได้ความสามัคคี จิตใจแจ่มใส และร่างกายแข็งแรง มีการส่งเสริมให้ทำปุ๋ยหมักชีวภาพ การทำเกษตรอินทรีย์และส่งเสริมให้ประชาชน ลด ละ เลิก อบายมุข ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนเรียนรู้ศูนย์เป็นการสืบทอดต่อภูมิปัญญาของท้องถิ่นอาชีพหลักของประชาชนตำบลจวบ ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพเกษตรกร ช่วงฤดูฝน ขาดรายได้ กลุ่มรักสุขภาพตำบลจวบ จึงจัดหาสถานที่ ให้ประชาชนในหมู่บ้าน กลุ่มเกษตรกรและประชาชนทำกิจกรรมการปลูกผัก ทำให้มีผักรับประทานตลอดเพิ่มกิจกรรมเป็นกลุ่มส่งเสริมอาชีพเพื่อให้คนในชุมชนกลับมาช่วยกันทำ และสร้างรายได้เสริม พัฒนาเงินทุนทุนชุมชนจากการดำเนินงานโครงการให้ประชาชนในตำบลเรียนรู้การดูแลตนเอง โดยการปลูกพืชสมุนไพรปลูกผัก รับประทานทำให้ประชาชนในตำบลเริ่มรู้ถึงประโยชน์ของการรับประทานผักปลอดสารพิษมากขึ้นและขยายผลเรื่องการปลูกผักปลอดสารพิษ ประชาชนมีความสามัคคีปรองดองกัน พูดคุยกันมากขึ้น มีการรวมตัวเพื่อช่วยกันคิดหาแนวทางแก้ไขปัญหาของชุมชน คนที่ไม่ต้องออกทำงานต่างถิ่นก็กลับมาช่วยกันทำงาน ทำกินเองไม่ต้องซื้อขอของจากตลาดมากิน ลดรายจ่ายและมาใช้อย่างคุ้มค่าเกิดการออมทรัพย์จากกองทุนการเกษตรเพื่อให้ประชาชนได้ไปใช้ประโยขน์ ภาพของคนในชุมชน ด้านกาย มีสุขภาพกายดีขึ้น ไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วย มีอาหารที่มีประโยชน์ไว้กินความร่าเริงแจ่มใส ไม่ต้องเครียดหรืออารมณ์ขุ่นมัว ด้านสังคม ครอบครัวไม่มีความขัดแย้ง ทะเลาะวิวาท ชุมชนจะมี ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีการปรึกษาหารือกัน ช่วยกันคิด ช่วยกันทำงานเป็นกลุ่มและภูมิปัญญา มีการสืบทอดสิ่งดีๆ ในชุมชนและสร้างเป็นอาชีพเสริมเพื่อเป็นการส่งเสริมการดำเนินงานโครงการอย่างต่อเนื่อง เป็นการช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ พอกินพอใช้และอยู่อย่างพอเพียงและชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการปัญหาด้านสุขภาพของตนเอง ดังนั้นกลุ่มรักสุขภาพตำบลจวบ เห็นความสำคัญจึงจัดทำโครงการปลูกผักปลอดสารเคมี สุขภาพดี ลดโรค ประจำปี 2568 ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้ประชาชนในครัวเรือนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปลูกผักปลอดสารพิษจนเกิดวิถีการปลูกผักไร้สารเคมี ร้อยละ 80 ของประชาชนในครัวเรือนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปลูกผักปลอดสารพิษจนเกิดวิถีการปลูกผักไร้สารเคมี |
0.00 | |
2 | เพื่อให้ประชาชนในครัวเรือนสามารถนำไปใช้บริโภคในครัวเรือน ตลอดจนเกิดประโยชน์ต่อสุขภาพของคนในชุมชน ร้อยละ 80 ของประชาชนในครัวเรือนสามารถนำไปใช้บริโภคในครัวเรือน ตลอดจนเกิดประโยชน์ต่อสุขภาพของคนในชุมชน |
0.00 | |
3 | เพื่อให้มีศูนย์เรียนรู้ให้ประชาชนมาศึกษาการปลูกผักปลอดสารพิษในหมู่บ้าน อย่างน้อย 1 ศูนย์ มีศูนย์เรียนรู้ให้ประชาชนมาศึกษาการปลูกผักปลอดสารพิษในหมู่บ้าน จำนวน 1 ศูนย์ |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 87,910.00 | 0 | 0.00 | |
1 ก.ค. 68 - 30 ก.ย. 68 | กิจกรรมประชาสัมพันธ์ การปลูกผักปลอดสารเคมี | 0 | 1,720.00 | - | ||
1 ก.ค. 68 - 30 ก.ย. 68 | กิจกรรมอบรมให้ความรู้การปลูกผักปลอดสารเคมี | 0 | 29,600.00 | - | ||
1 ก.ค. 68 - 30 ก.ย. 68 | กิจกรรมจัดทำแปลงปลูกผักตัวอย่าง | 0 | 34,455.00 | - | ||
1 ก.ค. 68 - 30 ก.ย. 68 | การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ น้ำหมักชีวภาพในครัวเรือน | 0 | 22,135.00 | - | ||
1 ก.ค. 68 - 30 ก.ย. 68 | กิจกรรมส่งเสริม และให้คำปรึกษาเชิงรุกการปลูกผักริมรั้ว | 0 | 0.00 | - |
1.ประชาชนในครัวเรือนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปลูกผักปลอดสารพิษจนเกิดวิถีการปลูกผักไร้สารเคมี
2.ประชาชนในครัวเรือนสามารถนำไปใช้บริโภคในครัวเรือน ตลอดจนเกิดประโยชน์ต่อสุขภาพของคนในชุมชน
3.มีศูนย์เรียนรู้ให้ประชาชนมาศึกษาการปลูกผักปลอดสารพิษในหมู่บ้าน จำนวน 1 ศูนย์
4.ประชาชนสามารถทำปุ๋ยหมักชีวภาพใช้เองได้
5.ลดค่าใช้จ่ายด้านการซื้อปุ๋ย
6.เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แปลงผักปลอดสาร
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2568 00:00 น.