โครงการทำน้ำหมักจากขยะอินทรีย์แบบไร้สุญญากาศคนนาเกตุร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมจากครัวเรือนอย่างยั่งยืน
ชื่อโครงการ | โครงการทำน้ำหมักจากขยะอินทรีย์แบบไร้สุญญากาศคนนาเกตุร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมจากครัวเรือนอย่างยั่งยืน |
รหัสโครงการ | 68-L8418-02-07 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงเรียนสูงวัยทักษิณานาเกตุ |
วันที่อนุมัติ | 9 กันยายน 2568 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 10 กันยายน 2568 - 30 กันยายน 2568 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2568 |
งบประมาณ | 112,250.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายแวว ดวงแก้ว |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลนาเกตุ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.744,101.155place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 112,250.00 | |||||
รวมงบประมาณ | 112,250.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 60 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปริมาณขยะที่เกิดขึ้นทั้งประเทศเป็นขยะมูลฝอยที่ถูกนำไปกำจัดยังสถานที่ที่ถูกต้องประมาณ 7.88 ล้านถูกต้อง ขณะเดียวกันในพื้นที่อีก 3,355 แห่งไม่มีการให้บริการเก็บขนขยะ ประชาชนจะดำเนินการกำจัดขยะในครัวเรือนเอง โดยการเทกอง เผาในที่โล่ง และลักลอบทิ้งในพื้นที่สาธารณะ ซึ่งมีจำนวนขยะคิดเป็นร้อยละ 25 ของปริมาณขยะที่เกิดขึ้นทั้งประเทศ นอกจากนี้ยังพบว่าปริมาณขยะมูลฝอยในชุมชนที่ถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้มีปริมาณลดลง ทั้งนี้เนื่องจากประชาชนมีการดำเนินการคัดแยกขยะมูลฝอยลดลง และเมื่อพิจารณาอัตราการผลิตขยะต่อคนต่อวัน ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมาพบว่า มีอัตราเพิ่มขึ้น โดยในปี 2563 มีอัตราการผลิตขยะต่อคนเท่ากับ 0.3 กก./คน/วัน แต่ในปี 2567 มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 1.13 กิโลกรัม/คน/วัน แสดงให้เห็นถึงการขาดความตระหนัก ความเข้าใจ และความรับผิดชอบของสมาชิกศูนย์ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุตำบลนาเกตุในชุมชนตั้งแต่ระดับครัวเรือนซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด ปัจจุบันชุมชนตำบลนาเกตุ มีปริมาณขยะจำนวนมาก ซึ่งมาจากการดำรงชีวิตของคนในชุมชน จึงเป็นภาระหนักขององค์การบริหารส่วนตำบล นาเกตุ ในการบริหารจัดการกำจัดขยะเหล่านั้น ปริมาณขยะที่เกิดขึ้นมากมายทุกวัน ส่งผลให้มีขยะตกค้างเป็นจำนวนมากในแต่ละวันส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสภาพความเป็นอยู่ในชุมชน ได้แก่ หมู่บ้านในพื้นที่ตำบลนาเกตุมีขยะสกปรกไม่น่ามอง เสียทัศนียภาพ ส่งกลิ่นเหม็นรบกวน เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์ และพาหนะนำโรคต่าง ๆ เช่นหนู แมลงสาบ แมลงวัน ทั้งยังเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคโดยตรง เช่น อหิวาตกโรค อุจระร่วง บิด โรคผิวหนัง บาดทะยัก โรคทางเดินหายใจ เกิดการปนเปื้อนของสารพิษ เช่นตะกั่ว ปรอท ลงสู่พื้นดิน และแหล่งน้ำ แหล่งน้ำเสีย ท่อระบายน้ำอุดตัน อันเป็นสาเหตุของปัญหาน้ำท่วม เป็นแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศ เช่นฝุ่นละออง เขม่า ควัน จากการเผาขยะ และเกิดก๊าซมีเทนจากการฝังกลบขยะ และขยะบางชนิดไม่ย่อยสลาย และกำจัดได้ยาก เช่น โฟม พลาสติก ทำให้ตกค้างสู่สิ่งแวดล้อม โรงเรียนสูงวัยทักษินานาเกตุ ได้จัดทำโครงการเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาขยะล้นชุมชน และไม่มีที่ทิ้งขยะ โดยสร้างนวัตกรรมการจัดการขยะในชุมชน นำขยะและวัสดุเหลือใช้มาประดิษฐ์สิ่งของเครื่องใช้ใหม่ ๆ ในครัวเรือน การจัดให้ความรู้และฝึกปฏิบัติโดยประชาชนในชุมชนตำบลนาเกตุ รวมตัวในนามเครือข่ายสุขภาพชุมชนตำบลนาเกตุบริหารจัดการขยะโดยกระบวนการมีมีส่วนร่วมของประชาชนในตำบลนาเกตุ บริหารจัดการขยะอินทรีย์ที่มีปริมาณมากที่สุดในพื้นที่แต่ละครัวเรือนมาทำเป็นปุ๋ยหมักทำน้ำหมักจากขยะอินทรีย์ นำปุ๋ยหมักนำน้ำหมักจากขยะอินทรีย์ไปทำสวนปลูกผักในชุมชน เป็นการร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมในชุมชนตำบลนาเกตุ และทำให้เกิดการสร้างรายได้ควบคู่กับการสร้างจิตสำนึกต่อการรักษ์บ้านเกิดของคนในชุมชนตำบลนาเกตุ นอกจากจะเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการขยะมูลฝอยรักษาสิ่งแวดล้อมในครัวเรือนและชุมชนของตนเอง ทำให้เกิดชุมชนต้นแบบส่งเสริมรักษาสิ่งแวดล้อมและการจัดการขยะโดยชุมชนตำบลนาเกตุ และเป็นการลดปริมาณขยะที่นำไปกำจัดโดยการเผาและฝังกลบได้ ทำให้ช่วยลดสภาวะเรือนกระจก ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุตำบลนาเกตุ จึงเห็นความสำคัญและได้นำเสนอทำน้ำหมักจากขยะอินทรีย์แบบไร้สุญญากาศคนนาเกตุร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมจากครัวเรือนอย่างยั่งยืน โดยจัดอบรมให้ความรู้ ฝึกปฏิบัติและนำวัสดุเหลือใช้หรือไม่ใช้แล้ว นำกลับมาใช้ใหม่เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีคุณค่า และเป็นต้นแบบของการจัดการขยะรักษาสิ่งแวดล้อมโดยกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนอย่างแท้จริง ทำให้ชุมชนตำบลนาเกตุ มีปริมาณขยะลดลง ชุมชนตำบลนาเกตุ มีทัศนียภาพที่สวยงามน่ามอง รักษาสิ่งแวดล้อมลดปริมาณขยะอินทรีย์ในครัวเรือน ลดกลิ่นเหม็นรบกวนจากขยะ และทำให้ไม่เป็นที่เพาะพันธุ์สัตว์ พาหนะนำโรคต่าง ๆ ชุมชนน่าอยู่ น่ามอง สิ่งแวดล้อมดีขึ้น คุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและประชาชนดียิ่งขึ้นโดยคนในชุมชนเป็นผู้สร้างขึ้นอย่างยั่งยืน ผู้สูงอายุได้ปลูกผักปลอดสารพิษ เสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกาย ผักเป็นอาหารที่คนไทยนิยมนำมาใช้รับประทานกันมากเนื่องจากมีคุณค่าทางอาหารทั้งวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายสูง ปัจจุบันผู้สูงอายุและประชาชนมักนิยมบริโภคผักที่ใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดแมวงฉีดพ่นในปริมาณที่มากและเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดอันตรายจากสารพิษที่ตกค้างประชาชนในพื้นที่เจ็บป่วยจากการบริโภคผักมีสารพิษเป็นจำนวนมาก ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุตำบลนาเกตุ จึงได้จัดทำโครงการทำน้ำหมักจากขยะอินทรีย์แบบไร้สุญญากาศคนนาเกตุร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมจากครัวเรือนอย่างยั่งยืนเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในตำบลนาเกตุ ได้นำขยะอินทรีย์ในครัวเรือนมาทำปุ๋ยหมัก ทำน้ำปุ๋ยหมัก ทำถังขยะอินทรีย์ไร้อากาศ นำน้ำหมัก ปุ๋ยหมักไปปลูกผักปลอดสารพิษ ลดการบริโภคผักที่มีสารเคมีเจือปน โดยส่งเสริมให้ผู้สูงอายุและประชาชนปลูกผักปลอดสารพิษรับประทานเองในทุกครัวเรือน พร้อมทั้งให้ความรู้การปลูกผักปลอดสารพิษ การทำเกษตรอินทรีย์ในหมู่บ้านรักษาสิ่งแวดล้อมของชุมชน และส่งเสริมการจัดการขยะอินทรีย์ในครัวเรือน การจัดการสิ่งแวดล้อมในครัวเรือนให้ผู้สูงอายุและประชาชนปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษและประกวดครัวเรือนบริหารจัดการขยะเปลี่ยนขยะอินทรีย์ทำปุ๋ยหมักทำน้ำหมักจากขยะอินทรีย์นำไปปลูกผักสวนครัว มีถังหมักขยะอินทรีย์แบบไร้สุญญากาศใช้เป็นกลุ่มและร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อมในชุมชนตำบลนาเกตุ ต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมจากขยะอินทรีย์ในครัวเรือนที่มีจำนวนมากที่สุดของประเภทขยะทั้งหมดมาเปลี่ยนสภาพเป็นปุ๋ยหมัก น้ำหมักจากขยะอินทรีย์ นำไปปลูกผักปลอดสารพิษ บริโภคเหลือจำหน่ายปลอดภัยจากสารเคมี มีสุขภาพดี และมีการจัดการขยะและสิ่งปฏิกูลมูลฝอยได้อย่างเหมาะสมกับชุมชน และเข้าประกวดเป็นครัวเรือนต้นแบบในการบริหารจัดการขยะอินทรีย์และทำสวนผักปลอดสารพิษต่อไป 1.ประชาชนมีความรู้จากการเปลี่ยนขยะอินทรีย์เป็นปุ๋ยหมัก เป็นน้ำหมักอย่างถูกต้อง |
รวมทั้งสิ้น | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | 0.00 |
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2568 10:58 น.