โครงการสตรีร่วมใจ ป้องกันภัยมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม ประจำปี 2569
| ชื่อโครงการ | โครงการสตรีร่วมใจ ป้องกันภัยมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม ประจำปี 2569 |
| รหัสโครงการ | |
| ประเภทการสนับสนุน | |
| หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | |
| ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสะเตงนอก อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา |
| วันที่อนุมัติ | 3 พฤศจิกายน 2568 |
| ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 3 พฤศจิกายน 2568 - 31 สิงหาคม 2569 |
| กำหนดวันส่งรายงาน | |
| งบประมาณ | 41,250.00 บาท |
| ผู้รับผิดชอบโครงการ | |
| พี่เลี้ยงโครงการ | |
| พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา |
| ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
| กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
|---|---|---|
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
| กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 150 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
||
| สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
|---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกเป็นโรคมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 1 และ 2 ของโรคมะเร็งทั้งหมดของสตรีไทย พบอัตราการเกิดโรคสูงในช่วงอายุ 30 - 50 ปี โดยทุกๆ 2 นาทีจะมีผู้หญิงเสียชีวิต 1 คน มีอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก 7 คนต่อวัน เป็น 14 คนต่อวัน โดยโรคมะเร็งเต้านม มีสาเหตุโดยตรงจากปัจจัยทางพันธุกรรม ส่วนมะเร็งปากมดลูกพบว่า ประมาณ 70% ของผู้ป่วยโรคนี้มีสาเหตุมาจากการอักเสบเรื้อรังของปากมดลูกจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV virus) การป้องกันโรคมะเร็งเต้านมเบื้องต้นจะสามารถทำได้โดยการตรวจเต้านมด้วยตนเอง หรือได้รับการตรวจจากการตรวจเอ็กซเรย์ Mammogram ปีละ 1 ครั้งในกลุ่มเสี่ยง และการป้องกันมะเร็งปากมดลูกในสตรีกลุ่มเป้าหมายอายุ 30 - 60 ปี ซึ่งมีการตรวจคัดกรอง 3 วิธี คือ 1) วิธี Pap smear เป็นวิธีที่ใช้กันมากที่สุด เพราะใช้เวลา 2 - 5 นาที และรู้ผลภายใน 2 – 4 สัปดาห์ เป็นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยการตรวจทางเซลล์วิทยาปากมดลูกแบบดั้งเดิม ทำการตรวจโดยเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความชำนาญ ซึ่งจะใช้ไม้พายเก็บเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูก แล้วนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการ วิธีนี้อาจได้ความแม่นยำไม่มากนัก และจะแนะนำให้มาตรวจซ้ำทุก 1-2 ปี 2) วิธี visual inspection with acetic acid (VIA) คือ การตรวจด้วยน้ำส้มสายชู เพื่อคัดกรองรอยโรคก่อนมะเร็งปากมดลูกโดยการใช้ สารละลาย Acetic acid เจือจาง 3-5% ชโลมบนปากมดลูกนาน 1 นาที แล้วสังเกตดูการเปลี่ยนแปลงของสีเยื่อบุปากมดลูก 3) วิธี HPV DNA Test คือ การตรวจหาดีเอ็นเอของเชื้อไวรัสเอชพีวีที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก วิธีนี้มีความไวในการตรวจหาเซลล์ผิดปกติสูงมาก โดยมีวิธีการตรวจเหมือนตรวจภายใน เก็บเซลล์ตัวอย่างที่ปากมดลูกช่องคลอดด้านใน ส่งตรวจเหมือนวิธีการตรวจด้วยน้ำยา ซึ่งเป็นการตรวจที่ง่ายโดยสตรีอายุ 30 – 60 ปี สามารถทำการเก็บตัวอย่างได้ด้วยตนเอง และปัจจุบันก็ยังเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้นด้วย เพื่อลดปัญหาเรื่องความเขินอายจากการตรวจด้วยเจ้าหน้าที่ และเป็นปัญหาอย่างมากในกลุ่มสตรีมุสลิม ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ในพื้นที่รับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสะเตงนอก ปัญหาโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจและทางด้านเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก แต่จะสามารถป้องกันและรักษาให้หายขาดได้ถ้าพบผู้ป่วยโรคมะเร็งในระยะเริ่มแรก ดังนั้นหากสามารถกระตุ้นให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้มีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับโรคดังกล่าวพร้อมทั้งตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของการตรวจค้นหาโรคมะเร็งปากมดลูกและโรคมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มแรก ก็จะทำให้อัตราการเกิดโรค อัตราการป่วยและอัตราการตายจากโรคมะเร็งลดลง
พื้นที่รับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสะเตงนอก มีทั้งหมด 5 หมู่บ้าน เป็นประชากรเพศหญิง อายุระหว่าง 30 – 60 ปี ที่มีข้อมูลในฐานข้อมูลสุขภาพ (JHCIS Type 1 และ 3 ปี 2568 ) ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสะเตงนอก จำนวน 2,881 คน ในปี 2568 ได้รับการตรวจมะเร็งปกมดลูก 81 คน คิดเป็นร้อยละ 2.81 ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรหญิง อายุ 30 - 60 ปี ในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสะเตงนอกทั้งหมด หากสตรีเหล่านั้นไม่มีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก รวมถึงได้รับการตรวจอย่างถูกต้อง อาจส่งผลให้เกิดโรคซึ่งเป็นปัญหาทั้งต่อตัวเองและบุคคลรอบข้างได้อีกด้วย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสะเตงนอก ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคให้แก่กลุ่มสตรีดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการสตรีร่วมใจ ป้องกันภัยมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม ประจำปี 2569 ขึ้น โดยการค้นหากลุ่มเสี่ยงเพื่อให้การรักษา และส่งต่อได้อย่างทันท่วงที และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายประชาชนมีสุขภาพดีส่งผลต่อการมีสุขภาพชีวิตที่ดีต่อไป
| วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
|---|---|---|---|
| 1 | เพื่อให้สตรีอายุ 30-60 ปีได้รับการตรวจมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม อัตราการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในสตรีอายุ 30–60 ปี สะสมไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 (618 คน) |
0.00 | |
| 2 | เพื่อให้สตรีกลุ่มเสี่ยงได้รับการตรวจมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมอย่างครอบคลุม อัตราการคัดกรองมะเร็งเต้านมในสตรีอายุ 30–60 ปี ได้รับการตรวจโดยเจ้าหน้าที่ ร้อยละ 100 |
0.00 | |
| 3 | เพื่อให้สตรีกลุ่มที่พบความผิดปกติได้รับการส่งต่อ การตรวจวินิจฉัยและการรักษาอย่างทันท่วงที สตรีในกลุ่มที่พบความผิดปกติได้รับการส่งต่อ ร้อยละ 100 |
0.00 |
| hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
คงเหลือ (บาท) |
||
| วันที่ | กิจกรรม | 0 | 41,250.00 | 0 | 0.00 | 41,250.00 | |
| 1 ม.ค. 69 - 30 เม.ย. 69 | กิจกรรมที่ 1 จัดอบรมให้ความรู้ | 0 | 26,250.00 | - | - | ||
| 1 มี.ค. 69 - 31 ส.ค. 69 | กิจกรรมที่ 2 จัดคลินิกให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม | 0 | 15,000.00 | - | - | ||
| รวมทั้งสิ้น | 0 | 41,250.00 | 0 | 0.00 | 41,250.00 | ||
- สตรีที่มีอายุ 30-60 ปี สามารถตรวจค้นหามะเร็งเต้านม และได้รับการตรวจค้นหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
- สตรีที่มีอายุ 30-60 ปี มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านมปากและมะเร็งมดลูก
- ประชาชนกลุ่มเสี่ยงมีสุขภาพที่ดีและมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2568 00:00 น.