โครงการส่งเสริมป้องกันทันตสุขภาพในทุกกลุ่มวัย เขตพื้นที่รับผิดชอบ รพ.สต.ดุซงญอ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569
| ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมป้องกันทันตสุขภาพในทุกกลุ่มวัย เขตพื้นที่รับผิดชอบ รพ.สต.ดุซงญอ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 |
| รหัสโครงการ | 69-L2476-001-011 |
| ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
| หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
| ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดุซงญอ |
| วันที่อนุมัติ | 13 พฤศจิกายน 2568 |
| ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ธันวาคม 2568 - 30 กันยายน 2569 |
| กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2569 |
| งบประมาณ | 60,700.00 บาท |
| ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางฟักรีย๊ะ ตาพา |
| พี่เลี้ยงโครงการ | |
| พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลดุซงญอ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส |
| ละติจูด-ลองจิจูด | 6.171361,101.701781place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
| กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
|---|---|---|
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
| กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 220 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : |
||
| กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 30 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
| กลุ่มผู้สูงอายุ | 160 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ : |
||
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
| กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | 85 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด : |
||
| กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | 36 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ : |
||
| สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
|---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
สุขภาพช่องปากถือเป็นประตูสู่สุขภาพ (gate way of health) ที่สำคัญ แต่คนส่วนใหญ่จะให้ ความสำคัญเป็นลำดับหลัง ฟัปัญหาสุขภาพช่องปากเป็นปัญหาที่สะสมตลอดช่วงชีวิต สถานการณ์การมีฟันถาวรใช้งานพบว่า กลุ่มผู้สูงอายุตอนต้น ๖๐ – ๗๔ ปี มีฟันถาวร เฉลี่ย เพียง ๑๙.๖ ซี่ต่อคน (ร้อยละ ๖๐.๙) มีฟันถาวร ใช้งานได้อย่างน้อย ๒๐ ซี่ และร้อยละ ๔๓.๗ มีฟันหลังสบกันอย่างน้อย ๔ คู่สบ ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุตอนปลาย อายุ ๘๐-๘๕ ปี มีฟันถาวรเฉลี่ย ๑๑.๗ ซี่ต่อคน (ร้อยละ ๒๗.๗ มีฟันถาวรใช้งานได้อย่าง น้อย ๒๐ ซี่ และร้อยละ ๑๕.๗ มีฟันหลังสบกันอย่างน้อย๔ คู่สบ สบ นอกจากนี้ ยังพบว่า มีผู้สูงอายุที่มีปัญหาในช่องปากอื่นที่ยังไม่ได้รับการดูแลรักษา โดยร้อยละ ๗๔.๓ มีสภาวะ เหงือกอักเสบร้อยละ ๔๘.๗ เป็นโรคปริทันต์อักเสบ ในจำนวนนี้เป็นโรคปริทันต์อักเสบระดับรุนแรงถึงร้อยละ ๑๘.๗ และพบ ปัญหาฟันผุบริเวณตัวฟันที่ยังไม่ได้รักษาร้อยละ ๖๐.๐ เฉลี่ย ๒.๑ ซี่ต่อคน ร้อยละ ๓๕.๕ มีรากฟันผุที่สัมพันธ์กับเหงือกร่น เฉลี่ย ๐.๙ ซี่ต่อคน ร้อยละ ๓.๗ มีภาวะปากแห้งน้ำลายน้อย ซึ่งปัญหาเหล่านี้หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและ ทันเวลา พบว่าสถานการณ์สุขภาพช่องปากของคนไทยในวัยทำงานวัยทำงาน มีฟันผุสูงถึงร้อยละ ๙๑.๘ และ ร้อยละ ๔๓.๓ ไม่เคยได้รับการรักษาสภาวะดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างที่สำคัญระหว่างการรับรู้ถึงปัญหาและการเข้าถึงการรักษา ซึ่งอาจมีปัจจัยจากข้อจำกัดด้านเวลา ค่าใช้จ่าย หรือทัศนคติที่มักรอให้เกิดอาการเจ็บปวดก่อนจึงจะไปพบทันตแพทย์ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญของคนวัยทำงานที่มีภาระหน้าที่รัดตัวสภาวะสุขภาพช่องปากเด็กวัยเรียน สภาวะสุขภาพช่องปากเด็กวัยเรียนจากผลการดำเนินงาน พบว่า เด็กอายุ ๑๒ ปีปราศจากฟันผุ (Caries free) ร้อยละ ๗๒.๙ (เป้าหมายร้อยละ ๗๑) แต่ความครอบคลุมของการตรวจสุขภาพ ช่องปาก พบว่า เด็กอายุ ๑๒ ปี ได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากและวางแผนการรักษา เพียงร้อยละ ๙.๑ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย ที่กำหนดไว้คือ ร้อยละ ๓๐ในส่วนของร้อยละเด็กอายุ ๑๒ ปี ฟันดี ไม่มีผุ (Cavity free) พบว่า เด็กอายุ ๑๒ ปีมีฟันดีไม่มีผุ (Cavity free) ร้อยละ ๘๒.๕ (เป้าหมายร้อยละ ๘๒ สำหรับการเข้าถึงบริการ ส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในช่องปากในเด็กวัยเรียน พบว่า เด็กอายุ ๖-๑๒ ปีได้รับการตรวจสุขภาพช่องปาก ร้อยละ ๙.๙ และได้รับการเคลือบหลุม ร่องฟันกรามแท้เพียง ร้อยละ ๑ ซึ่งยังต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ร้อยละ ๕๐ในส่วนของการเคลือบ/ทาฟลูออไรด์เฉพาะที่ พบว่า เด็กอายุ ๔-๑๒ ปีได้รับการเคลือบ/ทาฟลูออไรด์ เฉพาะที่ ร้อยละ ๗.๕ โดยเป้าหมายที่กำหนดคือ ร้อยละ ๕๐ ๑ ใน ๑๐ ไม่มีฟันเคี้ยวอาหาร และพบว่ากว่าครึ่งยังไม่ได้รับการรักษาเนื่องจากอุปสรรคในการเดินทางและผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบทำให้เกิดปัญหาเป็นโรคเหงือกอักเสบรุนแรงสูงถึงร้อยละ๙๑และมีโอกาสสูญเสียฟันทั้งปากเพิ่มขึ้น การสำรวจสภาวะทันตสุขภาพในเขตโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ในปี ๒๕๖๘ พบว่าเด็กอายุ๐-๕ ปี ฟันผุสูงถึงร้อยละ ๖๒ .๓๕เด็กอายุ๖-๑๒ ปี พบว่ามีปัญหาฟันถาวรผุร้อยละ ๗๘ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กองทันสาธารณสุขกำหนด คือมีฟันถาวรผุไม่เกินร้อยละ ๒๐ กลุ่มวัยทำงานและกลุ่มผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่พบปัญหาการสูญเสียฟันชัดเจน ในกลุ่มอายุ ๑๓-๕๙ ปีมีฟันถาวรผุร้อยละ ๗๕ การสูญเสียฟันในผู้สูงอายุมีค่าเฉลี่ยมากกว่า ๑๐ ซี่/คน อาจกล่าวได้ว่าผู้สูงอายุเกือบทุกคนมีปัญหาการ บดเคี้ยวอาหาร การไม่มีฟันทั้งปาก เป็นดัชนีที่บ่งบอกถึงผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุอีกด้วย ซึ่งพบถึงร้อยละ ๑๐.๕ และจากข้อมูล ปี ๒๕๖๐ อัตราผู้ป่วย ๑๐ อันดับแรก ของประชาชนในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดุซงญอ ประชาชนในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบองอ พบว่าอัตราการป่วยจากโรคฟันผุเป็นโรคที่พบมากเป็นอันดับ ๓ ร้อยละ๘๒๕๑.๗๘ อัตราต่อแสน
| วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
|---|---|---|---|
| 1 | 1. เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยมีความรู้เรื่องการดูแลทันตสุขภาพ สามารถดูแลตนเองและถ่ายทอดความรู้สู่การปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ร้อยละ 80 ประชาชนทุกกลุ่มวัยมีความรู้เรื่องการดูแลทันตสุขภาพ สามารถดูแลตนเองและถ่ายทอดความรู้สู่การปฎิบัติได้อย่างถูกต้อง |
0.00 | |
| 2 | 2. เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มวัย สามารถเข้าถึงบริการและได้รับบริการทันตสุขภาพบำบัดตามความจำเป็น ลดปัญหาฟันผุและเหงือกอักเสบ ร้อยละ 90 ของประชาชนทุกกลุ่มวัย สามาสรถเข้าถึงบริการและได้รับบริการทันตกรรมบำบัดตามความจำเป็น ลดปัญหาฟันผุและเหงือกอักเสบ |
0.00 |
| hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
คงเหลือ (บาท) |
||
| วันที่ | กิจกรรม | 0 | 60,700.00 | 0 | 0.00 | 60,700.00 | |
| 1 ธ.ค. 68 - 30 ก.ย. 69 | กิจกรรมอบรมให้ความรู้เรื่องทันตสุขภาพให้แก่นักเรียนอาสา | 0 | 3,250.00 | - | - | ||
| 1 ธ.ค. 68 - 30 ก.ย. 69 | กิจกรรมฝึกปฏิบัติการแปรงฟันที่ถูกวิธี | 0 | 57,450.00 | - | - | ||
| รวมทั้งสิ้น | 0 | 60,700.00 | 0 | 0.00 | 60,700.00 | ||
1.กลุ่มหญิงตั้งครรภ์มีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น ฟันผุและเหงือกอักเสบลดลง
2.กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน ฟันผุลดลงและผู้ปกครองสามารถแปรงฟันให้เด็กได้อย่างถูกต้อง
3.กลุ่มนักเรียนอาสาประถมศึกษาโรงเรียนในเขตรับผิดชอบ มีความรู้ดูแลทันตสุขภาพของตนเองและเป็นแกนนำในการดูแดทันตสุขภาพในโรงเรียนได้
4. กลุ่มผู้สูงอายุสามารถแปรงฟันได้อย่างถูกวิธีและดูแลฟันปลอมได้ถูกต้อง
5.กลุ่มคนพิการ/ทุพลภาพ ได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากและ ผู้ดูแลมีความรู้ความสามารถในการดูแลได้อย่างถูกต้อง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2568 00:00 น.