กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการ ชุมชนล้อมรักษ์ เยาวชนร่วมใจ TO BE NUMBER ONE รพ.สต.บ้านควนขัน ประจำปี 2569
รหัสโครงการ
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต.
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านควนขัน
วันที่อนุมัติ 24 ตุลาคม 2568
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 ธันวาคม 2568 - 31 กรกฎาคม 2569
กำหนดวันส่งรายงาน
งบประมาณ 22,000.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสาวลิสา ผลดี
พี่เลี้ยงโครงการ
พื้นที่ดำเนินการ ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา
ละติจูด-ลองจิจูด 7.173,100.263place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานสิ่งเสพติด
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน 100 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน :

กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

ปัจจุบันปัญหายาเสพติดมีผู้ใช้ยาเสพติดเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบและเกิดปัญหาทางสังคมในวงกว้าง จากสถานการณ์ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส) ประจำปี 2566 สำรวจทั่วประเทศ โดยใช้วิธีการสำรวจ แบบ Stratified Three-stage Sampling พบว่า ประชาชนที่มีอายุ 20-24 ปี มีปัญหายาเสพติด คิดเป็นร้อยละ 47.9 มากที่สุด รองลงมา คือ เด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ร้อยละ 4.9 โดยประเภทของยาเสพติดที่แพร่ระบาดมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ยาบ้า ร้อยละ 83.5 ยาแก้ไอ ร้อยละ 30.5 ที่นำมาผสมกับอย่างอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการรักษา เช่น น้ำกระท่อม เบียร์ โค้ก ประเภทไอซ์ ร้อยละ 4.9 สารระเหย ร้อยละ 4.7 เช่น กาว และทามาดอล ร้อยละ 2.0 (ยาแก้ปวดผสมเครื่องดื่ม สีเขียวเหลือง) อีกทั้งยังสร้างความเดือดร้อนจากปัญหายาเสพติด ได้แก่ ปัญหาอาชญากรรม เนื่องจากยาเสพติดทำให้ขาดสติ เกิดการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพย์สิน ทะเลาะวิวาท ประสาทหลอน คลุ้มคลั่ง ปัญหาด้านสาธารณสุข ร่างกายของผู้ที่เสพยาเสพติด ทรุดโทรม อ่อนแอ เสียสุขภาพ มีผลต่อระบบสมองและประสาท ปัญหายาเสพติดในชุมชนของกลุ่มเด็กและเยาวชน มีสาเหตุมาจาก สถานภาพทางครอบครัวที่พ่อแม่หย่าร้าง อิทธิพลของกลุ่มเพื่อนที่ชักจูงจนเกิดความอยากรู้และอยากลอง ปัญหาพฤติกรรมลอกเลียนแบบจากกลุ่มเพื่อน ผู้ปกครอง ความเสี่ยงที่เกิดจากสื่อที่มีการแสดงตัวอย่างจนทำให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่เยาวชน สภาพแวดล้อมในชุมชน ระดับการศึกษาที่ทำให้เยาวชนขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับยาเสพติด จะเห็นได้ว่า ปัญหายาเสพติด มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกำลังเป็นปัญหาที่คุกคามสังคม เศรษฐกิจของประเทศ จึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องได้รับความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อยาเสพติดที่มีประสิทธิภาพในระยะยาวและยังมีอีกโครงการใหญ่ที่นำเด็กและเยาวชน เป็นแกนนำในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด คือ โครงการ TO BE NUMBER ONE คู่มือการดำเนินงาน ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงมีความห่วงใย ต่อประชาชน ชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนที่เป็นกลุ่มขนาดใหญ่ เพราะมีจำนวนถึง 21 ล้านคนและเป็นกลุ่มที่มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อการพัฒนา ประเทศ นอกจากนี้ยังถือเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดยาเสพติดสูง เนื่องจากเป็นวัยที่ ต้องการเรียนรู้ในสิ่งต่างๆ แต่ยังขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่ดี รวมทั้งต้องเผชิญ กับการเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกายและจิตใจ จึงทรงพระกรุณาธิคุณรับเป็นองค์ประธาน โครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งปัจจุบันได้ใช้ชื่อเพื่อให้ง่ายต่อ การรณรงค์ว่าโครงการ TO BE NUMBER ONE “เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด” เพื่อรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภายในประเทศให้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน กระตุ้นและปลุกจิตสำนึกของประชาชน ให้มีความรู้ ความเข้าใจและตระหนักว่า การที่จะเอาชนะปัญหายาเสพติดมิใช่ หน้าที่ของบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่ทุกคนในชาติจะต้องร่วมแรง ร่วมใจกัน เป็นพลังของแผ่นดินที่จะต่อสู้และเอาชนะปัญหายาเสพติดให้ได้โดยเร็ว โดยทรงมีพระประสงค์ มุ่งเน้นการรณรงค์ในกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ วัยรุ่นและเยาวชน โดยกลวิธีสร้างกระแสการแสดงพลังอย่างถูกต้องโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตให้แก ่เยาวชนในชุมชน จัดระบบการบำบัดรักษารองรับ ภายใต้โครงการ “ใครติดยา ยกมือขึ้น” ทั้งนี้เพื่อคืนคนดีสู่สังคมและป้องกันการ กลับมาเสพซ้ำ ตลอดจนการสร้างเครือข่ายสมาชิกและชมรม TO BE NUMBER ONE เพื่อร่วมกันรณรงค์และจัดกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเปรียบเสมือน การเติมสิ่งที่ดีให้กับชีวิต เพื่อให้เกิดค่านิยมของ การเป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด ดังพระราชดำรัสในวโรกาส การแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ“TO BE NUMBER ONE” เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2545 ณ ห้องประชุมกระทรวงสาธารณสุขความว่า“กิจกรรม ในโครงการ TO BE NUMBER ONE จะเบนความสนใจจากการหาความสุขชั่วครั้งชั่วคราวจากยาเสพติด อยากให้โครงการนี้สำเร็จด้วยดี แต่จะทำคนเดียวไม่ได้ จึงขอความร่วมมือจากทุกคน” ดังนั้น โครงการ TO BE NUMBER ONE จึงเริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ ปี 2545 จนถึงปัจจุบัน โดยมีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบหมายทำหน้าที่ เลขานุการโครงการเพื่อเป็นแกนกลางในการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อดำเนินโครงการให้บรรลุวัตถุประสงค์จนถึงปัจจุบัน       ทั้งนี้ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านควนขัน มีเด็กและเยาวชนในเขตรับผิดชอบ ช่วงอายุ 6 – 24 ปีจำนวน 532 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จึงได้จัดทำโครงการ ชุมชนล้อมรักษ์ เยาวชนร่วมใจ TO BE NUMBER ONE เพี่อสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กและเยาวชน ได้รู้เท่าทัน โทษและภัยจากยาเสพติด มุ่งเน้นเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชน สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนปลอดภัยจากยาเสพติด มีกระบวนการนำผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดอย่างเหมาะสม มีการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะส่งผลให้เกิดความเดือดร้อน และบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในทุกภาคส่วน ชมรม TO BE NUMBER ONE ชุมชนบ้านกันมัน เพื่อเฝ้าระวัง และแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ได้อย่างเต็มรูปแบบ

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ได้มีความรู้ ความเข้าใจ รู้เท่าทัน โทษและภัย จากยาเสพติด

กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ มีความรู้ ความเข้าใจ รู้เท่าทันโทษและภัย จากยาเสพติด ร้อยละ 100

100.00
2 เพื่อเกิดแกนนำเด็กและเยาวชน และภาคีเครือข่าย ในพื้นที่ ทั้ง 5 หมู่บ้าน

มีแกนนำเด็กและเยาวชนในพื้นที่ และภาคีเครือข่าย ทั้ง 5 หมู่บ้าน ร้อยละ 100

100.00
stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม

๑. ขั้นเตรียมการ   ๑.๑ เก็บรวบรวมข้อมูล ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ รพ.สต.บ้านควนขัน
  ๑.๒ เขียนโครงการเพื่อพิจารณาอนุมัติของบประมาณสนับสนุนการดำเนินโครงการ   ๑.๓ เตรียมเอกสารและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อใช้ในงานอบรมให้ความรู้ ๒. ขั้นดำเนินการ   ๒.๑ ส่งหนังสือเชิญประชุมคณะกรรมการพัฒนา รพ.สต.บ้านควนขัน รวมทั้ง อสม. รพ.สต. สท.ต. และแกนนำชุมชน ชมรม TO BE NUMBER ONE ชุมชนบ้านกันมัน เพื่อชี้แจงปัญหายาเสพติดในพื้นที่   ๒.๒ ประชุมชี้แจงโครงการ ชุมชนล้อมรักษ์ TO BE NUMBER ONE โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนขัน ประจำปี 2569 โดย เจ้าหน้าที่ รพ.สต.บ้านควนขัน ชมรม TO BE NUMBER ONE ชุมชนบ้านกันมัน ทั้งหาแนว ทางดำเนินการในชุมชน   2.3 ให้ความรู้ เรื่อง ยาเสพติด โทษและภัย รู้เท่าทันยาเสพติด แก่ เด็กและเยาวชน   2.4 กิจกรรมเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้เด็กและเยาวชนกลุ่มเป้าหมาย   2.5 ติดตามและประเมินผลโครงการ
3. สรุปผลโครงการ

stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
  1. เด็กและเยาวชนในพื้นที่ มีภูมิคุ้มกัน ได้รู้เท่าทัน โทษและภัยจากยาเสพติด
  2. ชุมชนในพื้นที่ มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี มีความเข้มแข็งปลอดภัยจากยาเสพติด
  3. ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดอย่างเหมาะสม มีการดูแลอย่างใกล้ชิด
  4. มีแกนนำ และภาคีเครือข่าย เพื่อดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน
  5. เด็กและเยาวชนในพื้นที่ใช้เวลาว่างทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ และมีประโยชน์ต่อตนเองและสังคม
  6. เกิดการดำเนินงานชมรม TO BE NUMBER ONE ในโรงเรียน/ชุมชน
stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2568 14:41 น.