โครงการเฝ้าระวังสารเคมีตกค้างในประชาชนกลุ่มเสี่ยง
ชื่อโครงการ | โครงการเฝ้าระวังสารเคมีตกค้างในประชาชนกลุ่มเสี่ยง |
รหัสโครงการ | 61-L3359-1-03 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านควนถบ |
วันที่อนุมัติ | 31 มกราคม 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ธันวาคม 2560 - 30 กันยายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 9,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางนิรติศรัยหนูเจริญ |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางกชกานต์คงชู |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลพญาขัน อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.652,100.107place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 150 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ในสังคมปัจจุบันสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างยิ่งในด้านการรักษาและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรกรรมองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agiculture Oganization )สำรวจพบว่าอัตราการเพิ่มของอาหาร (ผลผลิตทางเกษตรกรรม) จะเป็นปฏิภาคกับอัตราการเพิ่มการใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชที่สำคัญก็คือแมลงศัตรูพืชซึ่งมีประมาณ10,000ชนิดที่เป็นศัตรูพืชอย่างร้ายแรงและได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเกษตรกรแม้แต่สหรัฐอเมริกาซึ่งมีการป้องกันและกำจัดศัตรูพืชที่ดีที่สุดแล้วพืชผลทางการเกษตรยังถูกทำลายด้วยศัตรูพืชถึง 1/3 ของพื้นที่ปลูกผักทั้งปีถ้าไม่ใช้วิธีป้องกันและกำจัดเลยพืชผลจะเสียหายมากกว่านี้อย่างน้อยสองเท่า สำหรับประเทศไทยค่าเสียหายที่เกิดจากศัตรูพืชอย่างต่ำไม่น้อยกว่า ปีละ 100,000 ล้านบาททั้งนี้เพราะการป้องกันและกำจัดศัตรูพืชในประเทศไทยยังทำได้ไม่ทั่วถึงและเป็นไปตามหลักวิชาการนักด้วยเหตุนี้การใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชจึงเป็นสิ่งจำเป็นโดยเฉพาะในประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศเกษตรกรรมมีสินค้าเกษตรกรรมส่งออก ใน ปี ๒๕๖๐โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านควนถบ ได้ตรวจคัดกรองสารเคมีตกค้างในเกษตรกร จำนวน ๑๕๐ ราย พบว่าผลการตรวจระดับปกติมี10 รายคิดเป็นร้อยละ 6.67ระดับปลอดภัย15รายคิดเป็นร้อยละ 10ระดับความเสี่ยง45รายคิดเป็นร้อยละ30และระดับไม่ปลอดภัย80 รายคิดเป็นร้อยละ 53.33 จากกลุ่มเป้าหมายพบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่มีความเสี่ยงอยู่ในเกณฑ์ที่เป็นปัญหาสาธารณสุขที่ควรได้รับการแก้ไขดังข้อมูลที่กล่าวมาแล้วสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชนั้นมีอันตรายต่อผู้ใช้ผู้เกี่ยวข้องและผู้บริโภคเป็นอย่างมากและยังมีผลกระทบต่อสภาพสังคมสิ่งแวดล้อมระยะยาวอีกด้วยดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านควนถบจึงได้จัดทำโครงการเฝ้าระวังสารเคมีตกค้างในประชาชนกลุ่มเสี่ยง ประจำปี 2561 ขึ้นเพื่อให้ประชาชนในเขตรับผิดชอบมีความรู้ความเข้าใจพร้อมทั้งได้รับการตรวจหาสารเคมีตกค้างและตระหนักถึงการใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชอย่างถูกต้อง
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้เกษตรกรมีความรู้ และเข้าใจเรื่องการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างถูกต้อง
|
0.00 | |
2 | เกษตรกรในเขตรับผิดชอบได้รับการตรวจคัดกรองสารเคมีตกค้างในเลือด
|
0.00 | |
3 | เกษตรกรมีความตระหนักในการป้องกันอันตรายจากสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชมากขึ้น
|
0.00 |
- เขียนโครงการฯ เพื่อขออนุมัติจากกองทุนระบบประกันสุขภาพเทศบาลตำบลพญาขัน
- จัดทำแผนปฏิบัติงานโครงการเพื่อขออนุมัติออกปฏิบัติการตามแผน
- อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับสารเคมีที่ใช้ป้องกันและกำจัดศัตรูพืชและบริการตรวจคัดกรองสารเคมีตกค้างในเกษตรกรตามแผนที่กำหนดครั้งที่ 1แบ่งเป็น 2รุ่นๆละ 75 คน รวมทั้งสิ้น 150 คน รุ่นที่ 1 เวลา 08.30-12.00น. และรุ่นที่ 2 เวลา13.30-16.30 น. ซึ่งผู้ที่มีผลคัดกรองเสี่ยง และไม่ปลอดภัยตรวจซ้ำครั้งที่ 2ไม่น้อยกว่า 3 เดือน
- สรุปผลการตรวจคัดกรอง
- ประเมินผลโครงการ
ประชาชนมีความตระหนักในการใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชเพิ่มมากขึ้นและประชาชนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และลดจำนวนผู้ป่วยที่เกิดจากสารเคมีป้องกัน และกำจัดศัตรูพืช
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2561 14:19 น.