โครงการส่งเสรืมสุขภาพหญิงมีครรภ์และหญิงหลังคลอดปี 2561
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสรืมสุขภาพหญิงมีครรภ์และหญิงหลังคลอดปี 2561 |
รหัสโครงการ | 61-L3353-1-06 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.บ้านโตระ |
วันที่อนุมัติ | 15 กุมภาพันธ์ 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ธันวาคม 2560 - 30 กันยายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 20,125.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางศุภญา ทองขาวเผือก |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลตำนาน อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.572,100.083place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 75 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | 65 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ในอดีตสังคมไทยเป็นครอบครัวขยาย ก็กลายเปลี่ยนเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้นการทำงานนอกบ้านของผู้หญิงเพิ่มมากขึ้น เวลาในการเลี้ยงดูลูกในวัยต่างๆ ตั้งแต่วัยทารก วัยเด็ก วัยเรียนและวัยรุ่นน้อยลง พ่อแม่มีเวลาให้ลูกน้อยลงสถาบันครอบครัวอ่อนแอจนอาจเกิดผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ทารกแรกเกิดมีน้ำหนักน้อย ส่งผลต่อการพัฒนาทางด้านร่างกาย และสติปัญญาของเด็กในระยะยาวแม่ คือ บุคคลที่สำคัญที่สุด เป็นคนที่ดูแลเพื่อให้ลูกเจริญเติบโต แข็งแรง ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เมื่อคลอดออกมาต้องเลี้ยงดูให้ลูก เป็นเด็กที่ฉลาดซึ่งสามารถส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ตั้งแต่อยู่ในครรภ์เด็กที่มีน้ำหนักแรกเกิดน้อย คือ เด็กที่มีน้ำหนักแรกคลอด น้อยกว่า ๒,๕๐๐ กรัม ซึ่งเด็กเหล่านี้ มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย ส่งผลให้มีพัฒนาการที่ล่าช้า และมีปัญหาด้านภาวะโภชนาการดังนั้นการพัฒนาคนให้มีคุณภาพ จึงเริ่มตั้งแต่ การวางแผนก่อนตั้งครรภ์ขณะทารกอยู่ในครรภ์ หญิงตั้งครรภ์ควรมีความรู้ในการดูแลตนเอง และทารกในครรภ์ได้อย่างถูกต้อง เหมะสม สามารถเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยพัฒนาสมอง และร่างกายของทารกในครรภ์ เพื่อส่งเสริมให้ทารก มีน้ำหนักตามเกณฑ์ และมารดามีภาวะสุขภาพปกติตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนหลังคลอด ทารก คลอดออกมาแล้ว ต้องให้ความสำคัญของการเลี้ยงดูแลลูกการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยังเป็นการสร้างความผูกพัน ระหว่างลูกกับแม่ ช่วงสามปีแรกของทารกเป็นโอกาสทองของการเติบโต พัฒนา ปรับตัว เรียนรู้ หากแม่มีความรู้ในการเลี้ยงดูลูกย่อมส่งผลให้ลูกมีการเติบโตและพัฒนาการเหมาะสมตามวัย มีอารมณ์ที่มั่นคง และเป็นผลดีต่อสังคมในอนาคต จึงจัดทำโครงการเพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้ หญิงวัยเจริญพันธุ์มีการเตรียมพร้อมก่อนแต่งงานและก่อนมีบุตรจึงมีความสำคัญต่อการป้องกันความพิการแต่กำเนิด ซึ่งความพิการแต่กำเนิดสามารถป้องกันได้หากมีการเตรียมความพร้อมที่ดี การใช้โฟเลตในหญิงวัยเจริญพันธุ์เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมาก ถึงแม้สาเหตุของความพิการแต่กำเนิดมีหลายปัจจัย และบางปัจจัยอาจเหนือการควบคุม แต่ก็สามารถป้องกันได้ทั้งการตรวจร่างกายก่อนตั้งครรภ์ และรับประทานอาหารที่ดี หากทราบหลังการตั้งครรภ์แล้วไม่สามารถแก้ไขได้ และให้หญิงมีครรภ์มีความรู้ความเข้าใจและปฏิบัติจริงด้วยตนเองในการเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่อย่างน้อย 6 เดือนและเลี้ยงดูลูกจนอายุ 5 ปี โดยประสานเจ้าหน้าที่พยาบาล/สาธารณสุขในการให้ความรู้และเป็นที่ปรึกษาแก่แม่และพ่อในการเลี้ยงลูก สร้างความมั่นใจในการเลี้ยงลูกอย่างมีคุณภาพ
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ข้อที่ 1. เพื่อให้หญิงวัยเจริญพันธุ์มีการเตรียมพร้อมก่อนแต่งงานและก่อนมีบุตร 1.หญิงวัยเจริญพันธุ์ ได้รับความรู้ เกี่ยวกับโฟเลตและสามารถการป้องกันความพิการเด็กแต่กำเนิดได้ |
0.00 | |
2 | ข้อที่ 2. เพื่อให้หญิงมีครรภ์ มีความตระหนักถึงความสำคัญ และมีความรู้ทางโภชนาการที่ถูกต้อง เพื่อส่งเสริมสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ให้มีสุขภาพดี คลอดทารกที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 2500 กรัม ทารกมีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ 2.หญิงตั้งครรภ์ให้มีสุขภาพดี คลอดทารกที่มีน้ำหนักตัวมากกว่าหญิงวัยเจริญพันธุ์ ได้รับความรู้ เกี่ยวกับโฟเลตและการป้องกันความพิการแต่กำเนิดกรัม ทารกมีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ทุกราย |
0.00 | |
3 | ข้อที่ 3 . เพื่อให้ทารกทุกคนมีการเจริญเติบโต และพัฒนาการดีทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา ทำให้เป็นผู้ที่สามารถ อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข 3.ทารกทุกคนมีการเจริญเติบโต และพัฒนาการดีทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา ทำให้เป็นผู้ที่สามารถ อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 11,283.00 | 1 | 20,875.00 | |
กิจกรรมให้ความรู้แก่หญิงวัยเจริญพันธุ์ และแกนนำ อสม. | 0 | 1,875.00 | ✔ | 20,875.00 | ||
กิจกรรมให้ความรู้แก่ พ่อแม่ | 0 | 8.00 | - | |||
กิจกรรมเยี่ยมมารดาและทารกหลังคลอด | 0 | 9,400.00 | - |
1.จัดทำโครงการขออนุมัติ
2.สำรวจข้อมูลหญิงวัยเจริญพันธุ์มีการเตรียมพร้อมก่อนแต่งงานและก่อนมีบุตร
- ให้ความรู้เกี่ยวกับโฟเลตและการป้องกันความพิการแต่กำเนิด แก่หญิงวัยเจริญพันธุ์และแกนนำ อสม.
- ดำเนินการจ่ายกรดโฟลิกแก่กลุ่มหญิงวัยเจริญพันธุ์ในเขตรับผิดชอบสัปดาห์ละ 1 ครั้ง พร้อมบันทึกลงในแบบฟอร์มการ
จ่ายทุกครั้ง
3.สำรวจจำนวนหญิงมีครรภ์ในเขต หญิงและหรือสามีที่มีลูกอายุ 0-5 ปี ในเขตรับผิดชอบ ม.3, ม.4, ม.6,ม.8, ม.9, ม.13 และ ม.14ตำบลตำนาน พื้นที่รับผิดชอบ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโตระ
- ประชุมให้ความเข้าใจเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แก่หญิงมีครรภ์และหรือสามี/หญิงหลังคลอด ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้
- ประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
- วิธีการให้นมลูก
- สาธิตการให้นมลูกอย่างถูกวิธี
- การเตรียมนมให้ลูกสำหรับแม่ที่ต้องไปทำงานนอกบ้าน
- ความรู้เรื่องการบริโภคอาหารสำหรับแม่
- การออกเยี่ยมบ้านหญิงหลังคลอด โดย จนท.และอสม ที่มีประสบการณ์ เพื่อดูวิธีการปฏิบัติของแม่ในการให้นมลูก สอบถามปัญหา และให้คำแนะนำเพิ่มเติมตามความจำเป็น ทุก 2 สัปดาห์ ช่วงหลังคลอด 1 1/2 เดือนแรก จากนั้นทุก 1-2 เดือน-ตรวจประเมินร่างกาย เช่น วัดความดันโลหิต การชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ประเมินค่าดัชนีมวลกาย -ตรวจประเมินวิธีการให้นมลูก แนะนำการดูแลเต้านม
- ตรวจประเมินภาวะซึมเศร้า - แนะนำการวางแผนครอบครัว 5. รายที่ผิดปกติ ประสานแจ้งเจ้าหน้าที่ รพ.พัทลุง.ทราบ เพื่อนัดหมายการดูแล 6.สรุปผลการดำเนินงานตามโครงการและรายงานผลการดำเนินงานตามโครงการ
1.หญิงวัยเจริญพันธุ์มีการเตรียมพร้อมก่อนแต่งงานและก่อนมีบุตรจึงมีความสำคัญต่อการป้องกันความพิการแต่กำเนิด ซึ่งความพิการแต่กำเนิดสามารถป้องกันได้ 2.หญิงมีครรภ์มีความตระหนักถึงความสำคัญ และมีความรู้ทางโภชนาการที่ถูกต้อง คลอดบุตรที่มีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 2,500 กรัมและหลังคลอดเลี้ยงลูกด้วยนมมาอย่างน้อย 6 เดือน สามารถดูแลบุตรได้ดี 3. ทารกมีพัฒนาการด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญาอย่างสมวัย
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2561 13:12 น.