โครงการส่งเสริมศักยภาพและพัฒนาการทางร่างกายสำหรับเด็กปฐมวัย
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมศักยภาพและพัฒนาการทางร่างกายสำหรับเด็กปฐมวัย |
รหัสโครงการ | 2561-L7257-2-02 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 3 สนับสนุนการจัดกิจกรรมของ ศูนย์เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | กองศึกษา เทศบาลเมืองคอหงส์ |
วันที่อนุมัติ | 15 มกราคม 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กุมภาพันธ์ 2561 - 30 พฤศจิกายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 ธันวาคม 2561 |
งบประมาณ | 120,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางทสมา มงคลรัตน์ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.006,100.503place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 300 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
หลักสูตรหรือแนวการจัดประสบการณ์ ปรัชญาการจัดการศึกษาระดับปฐมวัยนั้น มุ่งพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 5 ปี บนพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดู และการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่สนองต่อธรรมชาติและพัฒนาการของเด็กแต่ละคนตามศักยภาพภายใต้บริบทสังคมและวัฒนธรรมที่เด็กอาศัยอยู่ เพื่อสร้างรากฐานคุณภาพชีวิตให้เด็กพัฒนาไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เกิดคุณค่าต่อตนเองและสังคม โดยคำนึงถึงแนวคิดเกี่ยวกับพัฒนาการของมนุษย์ การเรียนรู้ การเล่นของเด็ก วัฒนธรรมและสังคม ซึ่งต้องสร้างหลักสูตรที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากวัยและประสบการณ์ของเด็กบนพื้นฐานของประสบการณ์เดิมและประสบการณ์ใหม่ที่เด็กจะได้รับซึ่งต้องมีความหมายกับตัวเด็ก โดยให้โอกาสทั้งเด็กปกติ เด็กด้อยโอกาส และเด็กพิเศษ ให้ได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ หลักสูตรการจัดการศึกษาระดับปฐมวัยนั้นจึงมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เด็กมีพัฒนาการที่ครอบคลุมทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และสติปัญญา ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกายที่เจริญเติบโตตามวัย และมีสุขนิสัยที่ดี กล้ามเนื้อมัดใหญ่และกล้ามเนื้อมัดเล็กแข็งแรงใช้ได้อย่างคล่องแคล่วและประสานสัมพันธ์กัน มีสุขภาพจิตดีและมีความสุข มีคุณธรรม จริยธรรมและมีจิตใจ ที่ดีงาม ชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี การเคลื่อนไหว รักการออกกำลังกาย มีความสามารถในการคิดและการแก้ปัญหาเหมาะสมกับวัย เป็นต้น (กรมวิชาการ.2546. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 และพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.2545.) หากแต่ในความเป็นจริงจากการสำรวจพัฒนาการเด็กอายุ 1-5 ปี ของศูนย์อนามัยที่ 3 กรมอนามัยในปี 2557 พบว่า เด็กมีพัฒนาการรวมทุกด้านปกติเพียงร้อยละ 72.5 เป็นเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้ากว่าวัย ร้อยละ 27.5 หรือประมาณ 1 ล้านคนทั่วประเทศ (เด็ก 0-5 ปี ในปี 2553 มีจำนวน 4,548, 245 คน ; สำนักงานสถิติแห่งชาติ , 2557) ซึ่งใกล้เคียงกับการสำรวจพัฒนาการในครั้งก่อนๆ ของกรมอนามัย (สำนักส่งเสริมสุขภาพ , 2552) สอดคล้องกับผลการวิจัยของคณะวิจัยศูนย์อนามัยที่ 1-12 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ที่พบว่า พัฒนาการเด็กปฐมวัยไทย มีพัฒนาการสงสัยล่าช้าร้อยละ 27.2 โดยล่าช้าด้านภาษามากที่สุดร้อยละ 19.7 รองลงมาด้านกล้ามเนื้อมัดเล็ก ด้านสังคมและการช่วยเหลือตัวเอง และด้านกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ร้อยละ 8.9 , 7.5 และ 6.7 ตามลำดับ โดยจากการศึกษาปัจจัย ที่มีผลต่อพัฒนาการเด็ก ที่ศูนย์อนามัยที่ 3 ได้ศึกษาในปีพ.ศ.2557 พบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ได้แก่การศึกษาของแม่หรือผู้เลี้ยงดูเด็ก รายได้ การได้รับนมแม่ และการได้รับการกระตุ้นที่เหมาะสมทั้งในด้านร่างกาย สติปัญญา และอารมณ์
ดังนั้น ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในฐานะสถานศึกษาซึ่งมีหน้าที่ดูแลเด็กระดับปฐมวัยหรือก่อนวัยเรียนสามารถส่งเสริมให้เด็กมีลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักปรัชญาการจัดการศึกษาปฐมวัย และช่วยแก้ไขปัญหาพัฒนาการล่าช้าในเด็กปฐมวัยที่เกิดขึ้นได้ โดยการจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้แบบบูรณาการ ซึ่งการส่งเสริมกิจกรรมด้านกีฬาถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กเกิดลักษณะอันพึงประสงค์ได้ ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ตามหลักสูตร แนวการจัดประสบการณ์ และปรัชญาการจัดการศึกษาปฐมวัยดังกล่าวข้างต้น นอกเหนือจากกิจกรรมเสริมประสบการณ์หลักที่ผู้ดูแลเด็กจัดให้แก่เด็กในแต่ละวัน เพราะการเล่นกีฬานอกจากส่งผลให้เด็กมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ส่งเสริมและแก้ปัญหาพัฒนาการด้านการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นกับเด็กปฐมวัยแล้ว ยังช่วยให้เด็กเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดีจากการออกกำลังกายกลางแจ้งซึ่งเด็กควรใช้ช่วงเวลานี้มากกว่าการเรียนรู้ในชั้นเรียน นอกจากนี้ยังส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา โดยสอนให้เด็กรู้จักบทบาทของตนเองในการเล่น ฝึกการคิดแก้ปัญหา การตัดสินใจ เกิดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ การคาดคะเน รวมถึงพัฒนาการทางสังคมผ่านการเรียนรู้กระบวนการกลุ่ม การรักษากฎ กติกามารยาท เป็นต้น อีกทั้งเป็นการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ผ่านการเรียนรู้เรื่องการแพ้ – ชนะ และการให้อภัย
ด้วยประโยชน์ของกีฬาดังกล่าวงานการศึกษาปฐมวัยฝ่ายบริหารการศึกษากองการศึกษา เทศบาลเมืองคอหงส์จึงขอเสนอโครงการส่งเสริมศักยภาพและพัฒนาการทางร่างกายสำหรับเด็กปฐมวัยเพื่อส่งเสริมให้เด็กผู้เข้ารับบริการในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดเทศบาลเมืองคอหงส์ได้รับการส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ โดยอาศัยทักษะด้านกีฬาเป็นพื้นฐานจากผู้มีความรู้ความชำนาญด้านกีฬา ทั้งในเด็กปฐมวัยที่มีพัฒนาการตามวัย และเด็กพิเศษที่มีพัฒนาการล่าช้าไม่สมวัย อันเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่เด็กสำหรับการเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้นต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยผู้เข้ารับบริการในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดเทศบาลเมืองคอหงส์มีพัฒนาการสมวัยทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา
|
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 120,000.00 | 1 | 105,000.00 | |
1 ก.พ. 61 - 30 ก.ย. 61 | จัดหาวิทยากรด้านกีฬา | 0 | 120,000.00 | ✔ | 105,000.00 |
- จัดหาวิทยากรจำนวน 1 คน
- จัดตารางเรียนกีฬา
- ประเมินผล
เด็กปฐมวัยผู้เข้ารับบริการในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดเทศบาลเมืองคอหงส์ได้รับการส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย รวมถึงพัฒนาการด้านอื่นๆ อาทิ พัฒนาการด้านสังคม และสติปัญญา เป็นต้น
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2561 10:32 น.