โครงการเฝ้าระวังโรคมะเร็งปากมดลูก
ชื่อโครงการ | โครงการเฝ้าระวังโรคมะเร็งปากมดลูก |
รหัสโครงการ | 61-L2539-01-10 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | |
วันที่อนุมัติ | 20 กุมภาพันธ์ 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มีนาคม 2561 - 30 กันยายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 28 กันยายน 2561 |
งบประมาณ | 24,350.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางยูในดา มาหามะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.116,101.849place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 10 ก.ค. 2561 | 10 ก.ค. 2561 | 24,350.00 | |||
รวมงบประมาณ | 24,350.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 175 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบัน ปัญหาสุขภาพที่ประชาชนไทยต้องเผชิญ คือ โรคไม่ติดต่อซึ่งเป็นโรคที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค แต่เป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมพันธุกรรมสารเคมี ฯลฯจากรายงานของกระทรวงสาธารณสุข พบว่าโรคมะเร็งปากมดลูกเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยโดยพบเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งในสตรีไทยรองจากมะเร็งเต้านม จากศูนย์ข้อมูลข่าวสารจากองค์กรอนามัยโลก ได้รายงานในปี พ.ศ. 2551ประเทศไทยมีประชากรสตรีที่เสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูก26.09 ล้านคน มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป มีจำนวนผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ปีละ 9,999 คน เสียชีวิต 5,216 คน หรือประมาณร้อยละ 53 ถ้าคิดเป็นวันแล้วจะมีสตรีไทยเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกเฉลี่ยวันละ14 คน วิธีการป้องกันที่สำคัญที่สุดของมะเร็งปากมดลูก คือการค้นหาโรคตั้งแต่ยังไม่มีอาการ เพื่อรับการรักษาก่อนจะลุกลามโดยให้ประชาชนสามารถดูแลตนเองได้ ถ้าได้รับความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องการฝึกทักษะในการสังเกต และการตรวจคัดกรองค้นหาความผิดปกติ ทำให้สามารถได้รับการดูแล และรักษาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกซึ่งมีโอกาสหายขาดได้
จากการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2559พบว่าได้รับการตรวจPapsmearในสตรีอายุ 30 –60 ปี มีเพียงร้อยละ 2.50 และในปี 2560 พบว่าได้รับการตรวจ Papsmear เป็น ร้อยละ 7.44
ดังนั้นทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโต๊ะเด็งอำเภอสุไหงปาดีจังหวัดนราธิวาส ได้ตระหนักในความสำคัญในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างมากจึงได้คิดและจัดทำโครงการเฝ้าระวังโรคมะเร็งปากมดลูก งบประมาณ ๒๕๖๑ ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อค้นหาผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรก โดยตรวจคัดกรอง ได้ ร้อยละ 20 6. เพื่อให้สตรีที่เป็นมะเร็งปากมดลูก ในระยะแรกเริ่มมีโอกาสรักษาหายขาด เป็นการลดการสูญเสียงบประมาณค่าใช้จ่ายและเวลาในการรักษา กลุ่มเป้าหมายได้รับการคัดกรองร้อยละ100 |
145.00 | |
2 | 2. เพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกจากสไลด์ Papsmear โดยกำหนดเป้าหมาย 50 คน/เดือน กลุ่มเป้าหมายได้รับการคัดกรองร้อยละ100 |
50.00 | |
3 | 3. เพื่อสนับสนุนให้ อาสาสมัครสาธารณสุขหญิง มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก และสามารถนำไปเผยแพร่ในชุมชนได้ อาสาสมัครสาธารณสุขหญิง มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก ร้อยละ100 |
30.00 | |
4 | 4. เพื่อให้สตรีกลุ่มอายุ 30-60 ปี มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง สตรีกลุ่มอายุ 30-60 ปี มีความรู้ ความเข้าใจร้อยละ100 |
30.00 | |
5 | 5. เพื่อให้สตรีที่ตรวจหาความผิดปกติของเซลล์มะเร็งปากมดลูกได้รับการตรวจวินิจฉัย ยืนยันการเกิดโรคเพื่อให้รับการขึ้นทะเบียนผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูก กลุ่มเป้าหมายได้รับการวินิจฉัยร้อยละ20 |
10.00 | |
6 | 6. เพื่อให้สตรีที่เป็นมะเร็งปากมดลูก ในระยะแรกเริ่มมีโอกาสรักษาหายขาด เป็นการลดการสูญเสียงบประมาณค่าใช้จ่ายและเวลาในการรักษา สตรีที่เป็นมะเร็งปากมดลูก ในระยะแรกเริ่มมีโอกาสรักษาหายขาด ร้อยละ20 |
10.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 24,350.00 | 1 | 24,350.00 | |
13 ก.ค. 61 | อบรมให้ความรู้เรื่องโรคมะเร็งปากมดลูก | 0 | 24,350.00 | ✔ | 24,350.00 |
๑.เพื่อค้นหาผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรก ๒.เพื่อสนับสนุนให้ อสม.มีความรู้ที่ถูกต้องเป็นแบบอย่างในการตรวจมะเร็งปากมดลูก
- อาสาสมัครสาธารณสุขหญิงมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูกที่ถูกต้อง และสามารถเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนในชุมชน
- สตรีอายุ 30-60 ปี มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง และมีความตระหนักถึงอันตรายจากโรคมะเร็งปากมดลูก ให้ความสนใจในการเข้ารับการตรวจคัดกรองค้นหาโรคมะเร็งปากมดลูกและได้รับการตรวจคัดกรอง อย่างมีคุณภาพจากสถานบริการสาธารณสุขทุกเครือข่าย
- ผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรกมีโอกาสได้รับการรักษาหายขาด และลดอัตราตายจากโรคมะเร็งปากมดลูกได้
- ผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูกได้รับการบำบัด รักษาและเข้าสู่ระบบบริการดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องและครบถ้วน ตลอดจนได้รับการติดตามอย่างต่อเนื่อง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2561 16:24 น.