โครงการขลิบเพื่อสุขภาพปลอดภัยห่างไกลโรค
ชื่อโครงการ | โครงการขลิบเพื่อสุขภาพปลอดภัยห่างไกลโรค |
รหัสโครงการ | 60-l2490-2-5 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานสาธารณสุขอื่นของ อปท. เช่น กองสาธารณสุขของเทศบาล |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ผอ.กองสวัสดิการสังคม |
วันที่อนุมัติ | 29 ธันวาคม 2559 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 เมษายน 2560 - 30 เมษายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 ธันวาคม 2560 |
งบประมาณ | 70,600.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางนรารัตน์ สือแม |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลกะลุวอ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.342,101.874place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 8 ก.พ. 2560 | 8 ก.พ. 2560 | 70,600.00 | |||
รวมงบประมาณ | 70,600.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 80 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : ระบุ |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
การขลิบ(Circumcision)คือ การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย เป็นการผ่าตัดเล็กที่ทำกันบ่อยมาก จนเกือบถือว่าเป็นเรื่องปกติวิสัย ทั้งนี้การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายในบางกลุ่มชนเป็นสิ่งปกติวิสัย เช่น ชาวยิว ที่จะขลิบหนังหุ้มปลายตั้งแต่แรกคลอด และชาวมุสลิมที่ขลิบในวัยเด็ก แต่ในประชาชนทั่วไปมีความเชื่อกันว่าการขลิบหนังหุ้มปลายจะทำให้สามารถดูแลทำความสะอาดได้ดีขึ้น ป้องกันการติดโรคบางชนิด และป้องกันมะเร็ง เป็นต้น ในบทความตามวิชาการแพทย์ที่ได้มีการศึกษาวิจัยในปัจจุบันที่ได้ศึกษาพัฒนาการของหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย เป็นอวัยวะที่มีอยู่ตามปกติ ปกคลุมส่วนปลายของอวัยวะเพศอยู่ เชื่อกันว่าทำหน้าที่ในการปกป้องส่วนปลายของอวัยวะเพศ และมีหน้าที่ในการรับรู้ความรู้สึกโดยเฉพาะเมื่อมีการกระตุ้นทางเพศ เพราะมีใยประสาทที่มีความไวเป็นจำนวนมากในบริเวณนี้ หลังคลอดหนังหุ้มปลายจะปิดปกคลุมปลายของอวัยวะเพศจนมิด และจะค่อย ๆ เผยออกจนสามารถมองเห็นรูเปิดของท่อปัสสาวะได้ แต่อย่างไรก็ดีเด็กอายุ 3 ปีจะมีอยู่ประมาณร้อยละ 10 ที่หนังหุ้มปลายไม่เปิด แต่ยังสามารถถ่ายปัสสาวะได้ เมื่อติดตามมาจนกระทั่งอายุ 6 ปี จะมีประมาณร้อยละ 8 ที่หนังหุ้มปลายไม่เปิดและเหลือเพียงร้อยละ 1 ที่หนังหุ้มปลายไม่เปิดจนถึงอายุ 16 ปี ถึงอย่างไรก็ดีเมื่อหนังหุ้มปลายเปิดใหม่ ๆ จะยังไม่สามารถเปิดได้หมดเพราะยังมีเยื่อบางๆติดยึดอยู่กับปลายอวัยวะเพศ สิ่งที่พบเห็นได้บ่อยๆ ว่าเมื่อเด็กชายถ่ายปัสสาวะจะเห็นหนังหุ้มปลายโป่งพองออกเหมือนลูกโป่ง สิ่งนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ปกติ บางครั้งอาจจะเห็นก้อนขาวๆ อยู่ใต้หนังหุ้มปลายก็เกิดจากการลอกตัวของเยื่อบุผิวกับไขมันมาจับตัวเป็นก้อนก็ถือได้ว่าไม่ใช่สิ่งผิดปกติที่น่าตกใจแต่ประการใด การขลิบหนังหุ้มปลายสามารถป้องกันและลดการแพร่โรคได้ เช่น หูด หงอนไก่ เป็นต้น เพราะหนังหุ้มปลายที่ยาวอาจจะซ่อนรอยโรคเหล่านี้ไว้ นอกจากการขลิบสามารถป้องกันโรคมะเร็งอวัยวะเพศซึ่งจะเห็นได้ว่าชาวมุสลิมมีอัตราการเกิดมะเร็งอวัยวะเพศต่ำมาก (ศาสตราจารย์นายแพทย์วชิรคชการหน่วยศัลยศาสตร์ระบบปัสสาวะภาควิชาศัลยศาสตร์คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดล 2556) เมื่อไม่นานมานี้ แพทย์ชาวสเปน ได้วิจัยพบว่า ผู้ชายที่ขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ นอกจากจะส่งผลดีในการรักษาความสะอาดให้กับตนเองแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกให้กับคู่นอนได้โดย ผลการวิจัยนี้มีการนำไปตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ นิว อิงแลนด์ งานวิจัยดังกล่าว พบว่า 1. การขลิบช่วยลดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในเด็กเล็กได้ การศึกษา (meta-analysis ) ปี 1993 มีงานวิจัย 9 เรื่องสรุปว่าช่วยลดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และเด็กที่ไม่ขลิบติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้มากกว่าเด็กที่ขลิบ 12 เท่า 2. การขลิบลดการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มีงานวิจัย 8 เรื่องรายงานว่า พบว่าการเกิดโรคติดต่อที่มีแผลที่อวัยวะเพศในคนที่ไม่ได้ขลิบมากกว่าคนที่ขลิบถึง 2-7 เท่า (โดยเฉพาะ syphilis และ chancroid) ลดลงของการอักเสบที่ปลายหนังหุ้มอวัยวะเพศชาย 4. การขลิบลดการเกิดโรค HIV (Human immunodeficiency virus)ได้จากการศึกษา (Meta-analysis)ของ Weiss และคณะ พบว่ามีวิจัย 27 เรื่องที่สรุปว่าการขลิบลดการเกิดติดเชื้อเชื้อ HIV 5. การขลิบลดการเกิดโรคติดเชื้อ HPV (Human papillomavirus) ในผู้ชาย และลดมะเร็งปากมดลูกในหญิงที่เป็นคู่นอนได้ การขลิบหนังหุ้มปลายองคชาติ หรือ Circumcision คือการตัดหนังบริเวณด้านหน้าขององคชาติออก จุดประสงค์คือเพื่อให้สามารถรูดออกทำความสะอาดบริเวณด้านในขององคชาติได้ ซึ่งผิวหนังบริเวณนี้จะมีต่อมซึ่งจะสร้างสารที่เรียกว่าขี้เปียก หรือ Smegmaมีลักษณะเป็นขุยขาวๆ คล้ายขี้ไคลขึ้นมาและการที่ไม่สามารถเปิดออกล้างได้ จะทำให้สารดังกล่าวคั่ง ก่อให้เกิดกลิ่น การติดเชื้อเรื้อรัง รวมทั้งอาจก่อให้เกิดโรคร้ายอย่างมะเร็งที่องคชาติได้ และจากการเก็บข้อมูลพบว่าผู้ป่วยมะเร็งองคชาติเกือบทั้งหมด ไม่สามารถรูดหนังออกเพื่อทำความสะอาดได้ ผู้ชายที่เป็นมะเร็งที่องคชาติปัจจุบันพบได้บ้างแต่ไม่มากนัก ส่วนใหญ่อายุมากกว่า 60 ปี ดูแลสุขอนามัยไม่ค่อยดี และที่สำคัญมักจะหนังหุ้มปลายไม่เปิดดังนั้น ข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดขลิบหนัง หุ้มปลายจึงมีประโยชน์ต่อสุขอนามัยของผู้ชายโดยตรง ส่วนผู้หญิงก็ได้อานิสงส์ได้ความมั่นใจในชายคู่ของเธอคนนั้นมากขึ้นไปด้วย เนื่องจากมีผลการศึกษาออกมาว่าการขลิบลดความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกให้เธอได้ มาดูรายละเอียดของผลการศึกษาของคณะแพทย์สเปนกันบ้างครับ พวกเขาบอกว่าสามีจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคร้ายดังกล่าวให้กับภรรยาได้ ด้วยการขลิบหนังหุ้มปายอวัยวะเพศ ในขณะที่ผู้ชายเองก็จะปลอดจากโรคติดเชื้อที่อวัยวะเพศ โดยการขลิบปลายอวัยวะเพศนั้น ทำให้ผู้ชายมีโอกาสติดเชื้อไวรัสHPV (Human Papilloma Virus) น้อยลง ซึ่งเชื้อไวรัสดังกล่าว คือ เชื้อไวรัสโรคหงอนไก่ นั่นเอง ซึ่งพบว่าการติดเชื้อหงอนไก่นั้น มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งปากมดลูกอย่างชัดเจน โดยเชื่อว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกถึง 99% ในการ ศึกษาข้อมูลนั้น คณะแพทย์สเปนเปิดเผยว่าพวกเขาวิเคราะห์ผลการศึกษา 7 รายการใน 5 ประเทศ 3 ทวีป ซึ่งพบว่าผู้ชายที่ไม่ได้ขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศมีเชื้อไวรัสเอชพีวี เกือบ 20 % แต่คนที่ขลิบปลายอวัยวะเพศมีไม่ถึง 6 % ที่เป็นเช่นนี้ส่วนหนึ่งก็คือเรื่องของการทำความสะอาดที่ง่ายกว่าในรายที่ทำ การผ่าตัดเปิดหนังหุ้มปลาย สำหรับผู้หญิงนั้นโอกาสที่จะเกิดมะเร็งปากมดลูกจะลดลง 58% หากคู่นอนขลิบปลายอวัยวะเพศแล้ว แม้ว่าผู้ชายคนดังกล่าวมีประวัติว่าผ่านคู่นอนมาหลายคนก็ตาม กรณีนี้จึงมีการคำนวณกันว่าถ้าหากมีผู้ชายขลิบอวัยวะเพศในโลกประมาณ 25% ก็จะช่วยลดการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ 23-40% ขณะเดียวกันก็จะลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งที่อวัยวะเพศชายได้ ลดการติดเชื้อไวรัสเอชพีวีและอื่นๆ ลงได้อีกด้วยดังนั้น จะเห็นได้ว่าแม้มะเร็งองคชาติจะพบได้น้อยคือประมาณ 1 ใน 100000 แต่ก็เป็นโรคที่ไม่ควรเสี่ยงเพราะถ้าเป็นแล้วต้องตัดทิ้งอย่างเดียว
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้การทำความสะอาดอวัยวะเพศทำได้ง่ายขึ้น การเกิดโรคทางเพศลดลง |
||
2 | เพื่อป้องโรคมะเร็งองคชาติ ลดการเกิดโรคมะเร็งองคชาติ |
||
3 | เพื่อระงับและป้องกันโรคติดต่อที่อาจเกิดขึ้นจากเพศสัมพันธุ์ จำนวนการเกิดโรคทางเพศสัมพันธ์ลดลง |
||
4 | เพื่อลดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในเด็กเล็ก เด็กมีสุขภาพร่างกายเเข็งเเรง |
๑.ประชุมร่วมกับผู้บริหารเพื่อวางแผนการจัดทำโครงการ ๒.เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติจากกองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลกะลุวอ ๓.ประชุมแต่งตั้งคณะทำงานและผู้เกี่ยวข้อง ๔.ประชาสัมพันธ์และดำเนินการเปิดรับสมัคร ๕.ดำเนินการตามโครงการ 5.1อบรมให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชน ผู้ปกครองและผู้เข้าร่วมโครงการ 5.2 ขลิบเพื่อสุขภาพ ปลอดภัย ห่างไกลโรคให้แก่เด็กผู้เข้าร่วมโครงการ
๑.กลุ่มเป้าหมายสามารถทำความสะอาดอวัยวะเพศง่ายขึ้น ๒.ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถป้องโรคมะเร็งองคชาติ ๓.สามารถระงับและป้องกันโรคติดต่อที่อาจเกิดขึ้นจากเพศสัมพันธุ์ได้ ๔.สามารถลดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในเด็กเล็กได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2560 10:32 น.