โครงการรู้ไต๋ รู้ใจ รู้เค้า รู้เรา ปี 2561
ชื่อโครงการ | โครงการรู้ไต๋ รู้ใจ รู้เค้า รู้เรา ปี 2561 |
รหัสโครงการ | 61-3039-04 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพปุลากง |
วันที่อนุมัติ | 6 มีนาคม 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2560 - 30 กันยายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 29,300.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพปุลากง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลตะโละ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.782,101.353place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 90 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง : |
||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 32 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนเป็นอย่างมาก ประชาชนมีการแข่งขันสร้างความมั่นคงให้แก่ครอบครัว ความนิยมวัฒนธรรมตะวันตกก็มีมากขึ้น จึงทำให้วิถีชีวิต(Life style) มีการเปลี่ยนแปลง เช่น การเร่งรีบกับการทำงาน บริโภคอาหารโดยไม่ได้คำนึงถึงคุณค่าโภชนาการ มีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง ขาดการออกอำลังกาย ความเครียด การสุบบุหรี่ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วย "โรคที่มาจากพฤติกรรม" ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญทางด้านสาธารณสุขเป็นกลุ่มโรคที่มีปัจจัยสาเหตุการนำสู่โรคจากปัจจัยเสี่ยงร่วมและเสียชีวิตก่อนวัยอันสมควร โรคหลอดเลือดสมอง (STROKE) และโรคหลอดเลือดหัวใจ (ACS) เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยและเป็นภัยที่กำลังคุกคามประชากรทั่วโลก ทั้งนี้เพราะเป็นโรคที่สามารถเกิดได้กับประชาชนทุกคนและทุกวัย และยังเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ สำหรับในประเทศไทย โรคหลอดเลือดสมอง (STROKE) และโรคหลอดเลือดหัวใจ (ACS) เป็นสาเหตุของโรคที่ก่อให้เกิดความสูญเสียอันเนื่องมาจากการตายก่อนวัยอันควรสูงเป็นอันดับ 1 ในเพศหญิงและสูงเป็นอันดับ 2 ในเพศชาย และมีอัตราตายด้วยโรคเหล่านี้เพิ่มขึ้นทุกปี และยังพบว่าโรคหลอดเลือดสมองมีอัตราตายมากกว่าโรคเบาหวานและ โรคหัวใจขาดเลือดเป็น 1.5-2 เท่าตัว การเสียชีวืตเฉียบพลันจากโรคหัวใจหรือ Sudden cardiac death (SCD) คือการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นภายใน 1 ชั่วโมงหลังเกิดอาการของโรคหัวใจ เช่น อาการแน่นหน้าอก หอบเหนื่อย ใจสั่น ผู้ป่วยโรคหัวใจจำนวนประมาณ 48-63% หรือประมาณครึ่งหนึ่งจะเสียแบบเฉียบพลัน และพบอุบัติการณ์ในผู้สุงวัยมากกว่า และในรายที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจพบว่า 50% ของผู้ชายและ 63% ของผู้หญิงที่เสียชีวิตเฉียบพลันจากโรคหัวใจไม่เคยมีอาการมาก่อนทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ได้ตระหนักล่วงหน้า จึงเปรียบได้ว่าเป็น "ภัยเงียบ" หรือ "มาตกรเงียบ" นั้นเอง การป้องกันและรักษาโรคหรือภาวะที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง (STROKE) และโรคหลอดเลือดหัวใจ (ACS) ทั้ง 9 อย่าง ซึ่งได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภาวะไขมันในเลือดผิดปกติ การสุบบุหรี่ความเครียดการไม่ออกกำลังกาย การไม่กินผักผลไม้ โรคอ้วนลงพุง (Metabolic Syndrome) จะช่วยลดอุบัติการณ์การเกิดโรคทั้ง 2 อย่างได้ ซึ่งพบว่าประชากรในพื้นตำบลปุลากง มีผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงมีมากกว่าร้อยละ 40 ซึ่งในกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวพบว่า มีพฤติกรรมเสี่ยงหลายอย่าง เช่นการขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคที่ถูกต้อง ขาดการออกกำลังกาย กินคาร์โบไฮเดรตและไขมันเยอะเกิน สูบบุหรี่จัด ภาวะเครียด อ้วนลงพุง กลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงก็รักษาไม่ต่อเนื่อง บางรายไม่ยินยอมรักษาจนเกิดอาการของ stroke ไปแล้วหลายราย ส่งผลกระทบทั้งทางด้านร่างกาย(พิการ) จิตใจและสังคมในผู้ป่วยบางรายเกิดความพิการกลายเป็นภาระให้กับคนในครอบครัว ทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจอีกด้วย จึงเป็นปัญหาที่ทุกคนควรตระหนักและร่วมกันดูแลป้องกัน ดังนั้น ทีมสุขภาพและชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขตำบลปุลากง ตระหนักถึงภาวะสุขภาพของประชาชนในกลุ่มดังกล่าว และมองว่า "การป้องกัน ย่อมดีกว่าการแก้"เราจะทำอย่างไรให้ประชาชนในพื้นที่รุ้ระดับความเสี่ยงของตัวเอง จึงได้จัดทำโครงการ "รู้ไต๋ รู้ใจ รู้เค้า รู้เรา ปี 2561" ขึ้น เพื่อรณรงค์แก่ประชาชน ครอบครัว ชุมชนให้มีความรู้ตระหนักและร่วมกันป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง (STROKE) และโรคหลอดเลือดหัวใจ(ACS) โดยเน้นการให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรค การสังเกตสัญญาณเตือนของโรค แนวทางการรับบริการเมื่อพบอาการของโรคและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อนำไปใช้ในการดูแล ป้องกัน ลดปัจจัยเสี่ยง ลดการเกิดโรค ลดความพิการและลดการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมอง(STROKE) และโรคหลอดเลือดหัวใจ (ACS)ต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 2.1เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของโรคหลอดเลือดสมอง(STROKE) และโรคหลอดเลือดหัวใจ(ACS)
|
0.00 | |
2 | 2.2 เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถป้องกันและดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัว จากโรคหลอดเลือดสมอง (STROKE) และโรคหลอดเลือดหัวใจ(ACS)
|
0.00 | |
3 | 2.3 เพื่อให้ส่งเสริมให้มีระบบการส่งต่อการรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซื้อน ความพิการ และการเสียชีวิตจากโรค
|
0.00 |
รวมทั้งสิ้น | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | 0.00 |
3.1 จัดประชุมทีมสุขภาพ และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เพื่อร่วมกันค้นหาปัญหาเกี่ยวกับงานส่งเสริมป้องกันโรคเรื้องรัง (์NCD) ในปีงบประมาณที่ผ่านมา 3.2 จัดทำโครงการเสนอขออนุมัติ 3.3 ประชาสัมพันธ์โครงการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ตามมัสยิด และในชุมชน 3.4 ดำเนินการตามกิจกรรมโครงการดังนี้ 3.4.1 กิจกรรมอบรมให้ความรู้เรื่องโรคหลอดเลือดสมอง (STROKE) และโรคหลอดเลือดหัวใจ (ACS)แก่กลุ่มผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรัง (เบาหวานและความดันโลหิตสูง) และกลุ่มผู้ดูแลกลุ่มป่วยโรคเรื้อรัง 3.4.2 กิจกรรมติดตามตรวจวัดระดับความดันโลหิตที่บ้านในกลุ่มสงสัยป่วยใหม่(HMBP:Home monitoring Blood pressure) 3.5 ประเมินผลโครงการและสรุปรายงานผลการดำเนินงานให้โรงพยาาลส่งเสริมสุขภาพและกองทุนตำบลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ
ประชาชนทั้งกลุ่ม กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค และกลุ่มป่วยด้วยโรคเบาหวาน/ความดันโลหิตสูง มีความรู้ ความเข้าใจ มีส่วนร่วมในการส่งเสริม ป้องกันและดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัวที่เหมาะสม มีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง รวมถึงสามารถลดอัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้องรังของประชาชนกลุ่มเสี่ยงในขตรับผิดชอบ และป้องกันภาวะซ้อน/ความพิการของโรคในกลุ่มผู้ป่วย ไม่ให้ล่กลาม หรือรุนเรงมากกว่าเดิม
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2561 14:34 น.