โครงการสร้างเสริมทักษะชีวิตเยาวชนปลอดภัยจากยาเสพติดตำบลบ้านควน ประจำปี 2560
ชื่อโครงการ | โครงการสร้างเสริมทักษะชีวิตเยาวชนปลอดภัยจากยาเสพติดตำบลบ้านควน ประจำปี 2560 |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.บ้านควน |
วันที่อนุมัติ | 12 มกราคม 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 12 มกราคม 2560 - 30 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 20,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายณฐกรย่องจีน |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางนภาภรณ์ขวัญแก้ว |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบ้านควน อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.529,99.636place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญประการหนึ่งของประเทศ ซึ่งบ่อนทำลายทรัพยากรและความมั่่นคงของประเทศชาติและสังคมเป็นอย่างมาก ได้มีการดำเนินงานในทุกวิถีทางที่จะป้องกันและปราบปรามมิให้มีการเสพ การซื้อขาย และการผลิตยาเสพติด แต่เนื่องจากปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่มีความยุ่งยากและสลับซับซ้อนต่อการดำเนินการจำเป็นต้องวางแผนสำหรับบดำเนินงานในแต่ละด้านอย่างรอบคอบ และไม่ได้มีแต่ประเทศไทยอย่างเดียวเท่านั้นประเทศอื่นๆ ก็ได้มีความพยายามที่จะยับยั้งการเสพการซื้อขาย และการผลิตยาเสพติดอยู่ตลอดเวลา จากการศึกษาของ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) พ.ศ. 2536 ได้ประมาณการผู้ใช้สารเสพติดใน 5 ประเภท ได้แก่ สารระเหย กัญชา เฮโรอีน และฝิ่น โดยแยกประชากรที่ศึกษาเป็นกลุ่มย่อย ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการใช้ยาเสพติดไว้ 16 กลุ่ม มีผู้ใช้สารเสพติดทุกกลุ่มรวม 1,2677,590 คน หรือร้อยละ 2.17 ของประชากรทั้งหมด ในจำนวนนี้ประมาณการได้ว่า มีกลุ่มวัยเรียน และเยาวชนอายุระหว่าง 15-25 ปี ซึ่งประกอบด้วยนักเรียน นักศึกษา ในสถานศึกษาต่างๆ ใช้ยาเสพติดจำนวน 71,666 คน คิดเป็นร้อยละ 8.13 ของกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด เด็กและเยาวชนเริ่มใช้ยาเสพติดครั้งแรก เมื่ออายุน้อยกว่า 10 ปี และเยาวชนวัยเรียนกลุ่มอายุ 145-19ปี ทั้งในและนอกระบบสถาานศึกษา เป็นกลุ่มที่มีปัญหาเริิ่มใช้สารเสพติดครั้งแรก สูงสุดเมื่อเทียบกับกลุ่มอายุอื่นๆ (ร้อยละ 53.1) และอัตราการใช้สารเสพติดครั้งแรกของกลุ่มนี้จะสูงสุดอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นทุกปี เมื่อเปรียบเทียบระหว่างปี พ.ศ.2536-2538 ซึ่งปัญหาดังกล่าวมีในกรุงเทพมหานครมากที่สุด คิดเป็นอัตราป่วยร้อยละ 60.1 รองลงมาเป็นภาคใต้ และภาคกลาง สำหรับภาคเหนือมีเยาวชนวัยเรียน กลุ่มอายุ 15-19 ปี ที่เริิ่มใช้สารเสพติดครั้งแรก ตำ่สุดเท่ากับร้อยละ 39.95 ปัจจุบันนี้เยาวชนไทยที่มีอายุน้อยมีสถิติการติดยาเสพติดเพิ่มขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นการสูญเสียทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการปกครอง เพราะนอกจากผู้เสพยาเสพติดทั้งหลายนี้ จะได้สามารถประกอบอาชีพทำการงานต่างๆ ไม่ได้แล้วยังก่ออาชญากรรมทำให้เกิดปัญหาต่อสังคมกระทบกระเทือนต่อประชาชนผู้ไม่ได้เสพยาเสพติด อีกด้วยอีกสาเหตุการติดยาเสพติดในปัจจุบันมีหลายสาเหตุ เช่น การหาซื้อยาไปกินเองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์เมื่อกินบ่อยๆ ก็จะทำให้ติดได้ ครอบครัวที่พ่อแม่ไม่มีเวลาดูแลบุตรหลานเพราะต้องไปประกอบอาชีพนอกบ้าน ทำให้บุตรหลานไปคบเพื่อนนอกบ้าน อาจจะมีเพื่อนที่ชักนำไปดสพสิ่งเสพติด หรือถูกหลอกลวงไปในทางที่ผิด หรือแม้แต่พ่อแม่หย่าร้างกัน ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้บุตรหลานไปเสพยาเสพติดได้ การที่จะให้เด็กแลละเยาวชนห่างไกลยาเสพติดนั้น จำเป็นจะต้องแก้ไขปัญหาพื้นฐานที่เป็นสาเหตุของการนำไปสู่การใช้สารเสพติด ได้แก่ ปัญหาครอบครัวและชุมชน พร้อมๆ กับการให้ความรู้เรื่องโทษของยาเสพติดเพื่อให้เด็กและเยาวชนเกิดความตระหนักและกลัว รวมทั้งส่งเสริมให้มีกิจกรรมกลุ่มต่างๆ เพื่อลดเวลาว่้่างและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ปัญหาเด็กติดยยาเสพติดก็จะไม่เกิดขึ้น ชมรม To be number one ตำบลบ้านควน จัดทำโครงการสร้างเสริมทักษะชีวิตเยาวชนปลอดภัยยจากยาเสพติด โดยมุ่งเน้นให้เด็กที่เข้าร่วมโครงการได้รู้ถึงพิษภัย และรู้ถึงวิธีที่จะหลีกหนีให้ห่างไกลจากยาเสพติดทั้งหลาย เพื่อจะได้นำความรู้ที่ได้รับไปเป็นแนวทางในการป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากยาเสพติดต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความรู้เรื่องยาเสพติดให้โทษ
|
||
2 | เพื่อให้เยาวชนอายุ 6-24 ปี ทุกคนเรียนรู้ TO BE NUMBER ONE IDOL เสริมทักษะการปฏิเสธยาเสพติด และเเข้าใจเรื่องโทษและพิษภัยของยาเสพติด ร่วมรณรงค์ป้องกันและต่อต้านยาเสพติดในชุมชน
|
ขั้นเตรียมการ 1. ประชุมชี้แจงคณะกรรมการกองทุนสุขภาพตำบลขอความเห็นชอบแผนงาน 2. จัดทำโครงการเสนอผูัมีส่วนเกี่ยวข้องอนุมัติแผน 3. ประชุมชี้แจงโครงการรายละเอียดแก่ อสม.เพื่อประสานงานเพื่อค้นหากลุ่มเป้าหมายและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ 4. จัดการอบรมเด็กและเยาวชน 5. จัดกิจกรรม สมาชิกชมรม To be number one 6. ติดตามผลการดำเนินงาน 7. สรุปผลการดำเนินงา
- เด็กและเยาวชนเกิดความตระหนักเรื่องยาเสพติดและอบายมุข
- เด็กและเยาวชนเป็นสมาชิกชมรม To be number one และมีกิจกรรมต่อเนื่อง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2560 14:10 น.