โครงการจัดการโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง กรณีความดันโลหิตสูง เบาหวาน ปีงบประมาณ 2561
ชื่อโครงการ | โครงการจัดการโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง กรณีความดันโลหิตสูง เบาหวาน ปีงบประมาณ 2561 |
รหัสโครงการ | 61-L3319-01-06 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทะเลน้อย |
วันที่อนุมัติ | 7 มิถุนายน 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มิถุนายน 2561 - 31 สิงหาคม 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2561 |
งบประมาณ | 41,050.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางปัทมพร ทองเกลี้ยง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.824,100.145place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 มิ.ย. 2561 | 31 ส.ค. 2561 | 41,050.00 | |||
รวมงบประมาณ | 41,050.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 120 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 120 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง : |
||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 120 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละของประชาชนทีมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน | 343.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
สภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้สภาพปัญหาทางสุขภาพเปลี่ยนไปด้วย ปัจจุบันแนวโน้มปัญหาสุขภาพที่เพิ่มสูงขึ้นจากสาเหตุโรคไม่ติดต่อ ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเหล่านี้เป็นปัญหาที่สำคัญระดับประเทศและระดับโลก ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น สถานการณ์โรคเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่า ในปี 2552 ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีจำนวน 108 ล้านคน เพิ่มขึ้นเป็น 422 ล้านคน ในปี 2557 มีผู้เสียชีวิตจากโรคเบาหวาน 1.5 ล้านคน นอกจากนี้ ยังพบว่าประชากรทั่วโลกที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ป่วยด้วยโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.7 เป็นร้อยละ 8.5 หรือเมื่อเปรียบเทียบแล้ว พบว่า ปัจจุบันประชากรวัยผู้ใหญ่ 1 ใน 11 คนป่วยเป็นโรคเบาหวาน ส่วนในประเทศไทย จากรายงานของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พบว่า อัตราการตายด้วยโรคเบาหวานต่อประชากรแสนคน ในภาพรวมของประเทศในปี 2556 – 2558 เท่ากับ 14.93, 17.53 และ 17.83 ตามลำดับ เห็นได้ว่า อัตราการตายด้วยโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นทุกปี และจากการสำรวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกายในประชากรไทย อายุ 15 ปีขึ้นไป ครั้งที่ 3, 4 และ 5 (ปี 2547, 2552 และ 2557) พบว่า ความชุกของโรคเบาหวาน ของครั้งที่ 3 ร้อยละ 7 ใกล้เคียงกับครั้งที่ 4 ร้อยละ 6.9 ส่วนครั้งที่ 5 เพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ 8.8 (คิดเป็น 4.8 ล้านคน) นอกจากนี้ ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติปี 2551 ยังพบว่าประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายผู้ป่วยนอกในการรักพยาบาลโรคเบาหวาน เฉลี่ย 1,172 บาทต่อราย ส่วนผู้ป่วยในค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเฉลี่ย 10,217 บาทต่อราย รวมค่ารักษาพยาบาลทั้งสิ้น 3,984 ล้านบาทต่อปี หากคนไทยป่วยด้วยโรคเบาหวาน รวม 3 ล้านคนต่อปี มารับบริการที่สถานพยาบาล จะต้องเสียค่ารักษาพยาบาลทั้งสิ้นประมาณ 47,596 ล้านบาทต่อปี (htt://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?) จังหวัดพัทลุงมีอัตราการตายของผู้ป่วยเบาหวานร้อยละ 3.95 ต่ำกว่าในระดับประเทศ อำเภอควนขนุนมีอัตราการตาย ร้อยละ 4.39 และ มีแนวโน้มผู้ป่วยโรคเบาหวานสูงขึ้นทุกๆปี จากสถิติตั้งแต่ 2558 – 2560 ความชุกของผู้ป่วยเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ดังนี้ 4,6155,1585,483 ต่อแสนประชากร ตามลำดับ ในพื้นที่รับผิดชอบของ รพ.สต.ทะเลน้อย ผู้ป่วยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปีเช่นกัน จากปี 2558 – 2560 ผู้ป่วยเบาหวาน 530.14, 538.52, 682.23 ต่อแสนประชากร ความดันโลหิตสูง 424.11, 591.27, 848.22 ต่อแสนประชากร ตามลำดับการที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทำให้ประเทศชาติสูญเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา ดังนั้น การส่งเสริมสุขภาพให้ประชาชนไม่เป็นโรคเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ เพราะจะทำให้ประชาชนมีสุขภาพชีวิตที่ดีและไม่สูญเสียงบประมาณในการดูแลการเจ็บป่วย แนวทางการป้องกันและควบคุมโรคเบาหวานและการป้องกันภาวะแทรกซ้อนเมื่อเกิดเป็นโรคแล้วจึงเป็นทางเลือกที่ดี การป้องกันและควบคุมโรคซึ่งสามารถกระทำได้ทั้งการส่งเสริมสุขภาพ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในระดับบุคคลครอบครัวและชุมชน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อคัดกรองเบาหวาน ความดันโลหิตสูงในประชากรกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไป ประชากรกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไปได้รับการคัดกรองเบาหวานความดันโลหิตสูงไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 |
1780.00 | |
2 | 2. เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามหลัก 3 อ. 2 ส.ในกลุ่มเสี่ยงมาจากการคัดกรอง กลุ่มเสี่ยงจากการคัดกรองได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจามหลัก 3 อ. 2 ส. ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 |
205.00 | |
3 | 3. เพื่อติดตามกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน (ค่าDTX>=100mg/dl) มารับการเจาะ FBS หลังปรับเปลี่ยนพฤติกรรม กลุ่มเสี่ยงเบาหวาน (ค่าDTX>=100mg/dl) ได้รับการเจาะ FBS หลังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 |
72.00 | |
4 | 4. เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเข้มข้นในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิต ที่มีอายุ 35-65 ปี ที่มี ความเสี่ยง CVD risk ผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง ที่มีอายุ 35-65ปี ที่มีความเสี่ยง CVD risk ได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเข้มข้น ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 |
50.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 40.00 | 0 | 0.00 | |
1 ส.ค. 61 | กิจกรรมคัดกรองเบาหวาน ความดันโลหิตสูงในนประชากรกลุ่มอายุ 35 ปี ขึ้นไป | 0 | 19.00 | - | ||
24 ส.ค. 61 | กิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเข้มข้นในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง | 0 | 7.00 | - | ||
27 ส.ค. 61 | กิจกรรมให้ความรู้เชิงปฏิบัติการ 3อ.2ส.ในกลุ่มเสี่ยง | 0 | 14.00 | - |
- สำรวจข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย
- จัดทำแผนงานโครงการ/ขออนุมัติโครงการ/จัดซื้อวัสดุการแพทย์
- ชี้แจงให้ อสม.ทราบขั้นตอนการคัดกรอง และนัดกลุ่มเป้าหมาย
- ออกดำเนินงานคัดกรองตามแผนที่กำหนดไว้
- รวบรวมข้อมูล ลงบันทึกผลการปฏิบัติงานในโปรแกรม JHCIS
- จัดกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามหลัก 3 อ. 2 ส. ในกลุ่มเสี่ยงจากการคัดกรอง
- ติดตามกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน (ค่า DTX>=100 mg/dl) มารับการเจาะFBS หลังปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
- ขึ้นทะเบียนผู้ป่วยรายใหม่ จ่ายยา ตาม CPG หลังติดตามวัดความดันโลหิตซ้ำแล้วยังมีค่าความดันฯตัวบนมากกว่า 140และ/หรือ ตัวล่างมากกว่า 90 มม.ปรอท,และค่าน้ำตาลจากหลอดเลือดดำ (FBS) มากกว่า 125 มก.เปอร์เซ็นต์
- จัดกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเข้มข้นในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง ที่มีอายุ 35-65 ปี ที่มีความเสี่ยง DVD risk
- รวบรวมข้อมูล/บันทึกผลงาน
- สรุปและรายงานผลการดำเนินงาน
- กลุ่มเป้าหมายได้รับการคัดกรองเบาหวาน ความดันโลหิตสูงร้อยละ 90
- ประชากรกลุ่มเสี่ยงที่เข้าร่วมโครงการสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันได้ร้อยละ 60
- อัตราการเกิดเบาหวานรายใหม่ไม่เกินร้อยละ 2.4
- กลุ่มเสี่ยงจากการคัดกรองได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามหลัก 3 อ. 2 ส.
- กลุ่มเสี่ยงเบาหวาน (ค่า DTX>=100 mg/dl) ได้รับการเจาะ FBS ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60
- ผู้เข้าร่วมโครงการมีระดับความเสี่ยง CVD risk ลดลง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2561 14:27 น.