โครงการเยาวชนประสานใจต้านภัยยาเสพติด โรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ปี 2561
ชื่อโครงการ | โครงการเยาวชนประสานใจต้านภัยยาเสพติด โรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ปี 2561 |
รหัสโครงการ | 61-L4147-2-01 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรม TO BO NUMBER ONE ตำบลบาโงยซิแน |
วันที่อนุมัติ | 10 กรกฎาคม 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มิถุนายน 2561 - 30 กันยายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2561 |
งบประมาณ | 120,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายอับดุลรอซะ ยะยา |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบาโงยซิแน อำเภอยะหา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.527,101.153place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 300 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | กำลังคนและเครือข่ายเพื่อการเฝ้าระวังยาเสพติดในชุมชน(คน) | 300.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีทรงมีพระดำริให้มีโครงการ TO BE NUMBER ONE ในสถานศึกษาทั่วประเทศ และหน่วยงาน องค์กร ชุมชนต่าง ๆ ตามพระปณิธาน "ทุกคนเป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด" โดยมีการดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์ ปรับทุกข์ สร้างสุข แก้ปัญหา และพัฒนา EQ จนเป็นที่สนใจในกลุ่มเยาวชน ทำให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างมาร่วมกิจกรรมอันเปิดโอกาสให้ กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก ซึ่งทำให้เยาวชนที่มีความสามารถในด้านต่าง ๆ ได้พัฒนาความสามารถในด้านที่ตนถนัดด้วยกิจกรรมต่างๆ ทั้งทางด้านกีฬา ดนตรี และการช่วยเหลือสังคม ประกอบกับปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด โรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์อันไม่พึงประสงค์ ในปัจจุบันมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะในเขตชุมชน รวมทั้งพื้นที่ที่มีสถานบริการ และแหล่งมั่วสุม อบายมุขต่างๆ เช่น อินเตอร์เน็ต ร้านเกมส์ เป็นต้น โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 6 - 24 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีลักษณะสำคัญ ๓ ประการ คือ มีพัฒนาการทางร่างกาย ด้านจิตใจ และมีการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือมีสิทธิทางกฎหมายในเรื่องต่างๆ วัยรุ่นเป็นวัยอยากรู้ อยากเห็น และอยากทดลอง ต้องการการยอมรับจากเพื่อน จึงเป็นกลุ่มเสี่ยง ที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในเรื่องความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยาเสพติด การรู้โทษที่ร้ายแรงของสิ่งเสพติด โรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การท้องไม่พร้อม เพื่อจะได้รู้จักการหลีกเลี่ยงจากปัญหาดังกล่าว
จากรายงานสถานการณ์ปัญหายาเสพติด สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส) กล่าวว่า จากข้อมูลสถิติปี พ.ศ. 2559 สำนักงาน ป.ป.ส ได้ประมาณตัวเลขของผู้ที่มีพฤติการณ์เกี่ยวกับยาเสพติดไว้ที่ 1.2 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนประชากรของคนไทยที่มีประมาณ 65 ล้านคน ถือเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.93 พูดได้ว่าในจำนวนประชากรทุกๆ 100 คน จะมีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดถึง 3 คน และ จากข้อมูลการเข้าบำบัดรักษาของประชาชนตำบลบาโงยซิแน พบว่า ปี 2555 มีผู้เข้ารับการบำบัด 29 ราย ปี 2556 มีผู้เข้ารับการบำบัด 30 ราย ปี 2557 มีผู้เข้ารับการบำบัด 1 ราย ปี 2558 มีผู้เข้ารับการบำบัด 15 ราย ปี 2559 มีผู้เข้ารับการบำบัด 2 รายและปี 2560 ไม่มีผู้เข้าบำบัด แต่จำเป็นจะต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้มากขึ้น เพื่อป้องกันมิให้เยาวชนกลุ่มเสพ ไปมั่วสุมกลับไปมีพฤติกรรมซ้ำ สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข และกลุ่มเสี่ยง เลิกยุ่งจากยาเสพติด และจากการทำเวทีประชาคม ประชาชนได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นลำดับต้นๆ โดยเฉพาะการป้องกันในกลุ่มเยาวชน ซึ่งจะเป็นกำลังของชาติในอนาคต
จากการศึกษาภายใต้การสนับสนุนจากองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) เปรียบเทียบข้อมูลปี 2549 กับ 2551 พบสถิติแม่วัยรุ่นไทยอายุต่ำกว่า 20 ปี กลับมีการตั้งท้องสูงถึง150,000 คน กลายเป็นตัวเลขสูงสุดอันดับ 1 ในเอเชีย
ศ.ดร.ศิริพร จิรวัฒน์กุล ได้ศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม โดยสำรวจหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่มารับบริการในโรงพยาบาลชุมชน หรือโรงพยาบาลศูนย์ใน 7 จังหวัด จำนวน 3,114 พบว่า แม่วัยใสส่วนใหญ่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกอายุ 15 ปีมากที่สุด และตั้งครรภ์ที่อายุน้อยที่สุด คือ 12 ปี แม่วัยใสส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมากที่สุด 12.5% ซึ่งการตั้งครรภ์ส่งผลให้แม่วัยใสต้องพักการเรียน/ไม่ได้เรียน 70.3% ส่วนใหญ่ไม่คุมกำเนิดในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก 33.9% ส่วนวิธีการคุมกำเนิดที่ใช้มากที่สุดคือถุงยางอนามัย 27.4% โดยภาคใต้ใช้ถุงยางอนามัยน้อยที่สุด รองลงมาคือ ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน 18.5% และพบว่าส่วนใหญ่ไม่ตั้งใจตั้งครรภ์ถึง 70%
ปัญหาโรคเอดส์ในวัยรุ่นก็เป็นอีกปัญหาที่น่าสนใจและน่าเป็นห่วง ราว 60,000 คน ที่กำลังติดเชื้อเอดส์มาจากพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ โดยขาดการป้องกันและเป็นสาเหตุการตายของวัยรุ่นในลำดับที่ 2 รองจากอุบัติเหตุ การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ก็มีอุบัติการณ์มากในวัยรุ่นเช่นกัน
ดังนั้น ชมรม TO BE NUMBER ONE ตำบลบาโงยซิแน ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบาโงยซิแน, องค์การบริหารส่วนตำบลบาโงยซิแน แกนนำชุมชน และชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านตำบลบาโงยซิแน ได้ตระหนักถึงอันตรายของปัญหายาเสพติด โรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 6-24 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง และเป็นกำลังสำคัญของชุมชนในอนาคต จึงได้ดำเนินการควบคุมและป้องกัน ตามนโยบายและแนวทางของจังหวัดยะลา มาโดยตลอด แต่ในทางปฏิบัติยังคงมีปัญหาอยู่มาก ทั้งด้านความจำกัดในทรัพยากร ลักษณะทางภูมิศาสตร์ วิธีการจัดการ การรับรู้และมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นผลให้การปัญหาดังกล่าว ไม่ได้ประสิทธิผลเป็นที่น่าพอใจ การแก้ไขต้องกระทำร่วมกัน ในภาพรวมพหุภาคี ทั้งภาครัฐ ประชาชน รวมทั้งภาคเอกชนควบคู่กันไป ที่สำคัญที่สุดให้ประชาชนและเยาวชนในชุมชนมีบทบาทอย่างเต็มที่ ในการป้องกันปัญหาของชุมชนเอง โดยยึดแนวดำเนินการตามโครงการTO BE NUMBER ONE มาเติมเต็ม จึงได้จัดทำโครงการเยาวชนประสานใจต้านภัยยาเสพติด โรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ปี 2561 ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี |
---|
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 120,000.00 | 0 | 0.00 | |
1 มิ.ย. 61 - 30 ก.ย. 61 | จัดอบรมเชิงปฏิบัติการแก่เยาวชน และสมาชิก TO BE NUMBER ONE ชุมชนบาโงยซิแน | 0 | 120,000.00 | - |
- จัดอบรมเชิงปฏิบัติการแก่เยาวชน และสมาชิก TO BE NUMBER ONE ชุมชนบาโงยซิแน เพื่อให้สามารถนำความรู้ไปปฏิบัติ และถ่ายทอดให้แก่สมาชิกในโรงเรียน และชุมชน
- จัดทำเนื้อหาหลักสูตร เน้น ความรู้เรื่องยาเสพติด โรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และบทบาทหน้าที่ของสมาชิกชมรม TO BE NUMBER ONE
- ประสานวิทยากร และหากลุ่มเป้าหมายในการอบรม จำนวน 300 คน - จัดเตรียมวัสดุการอบรม และเตรียมสถานที่
- ดำเนินการอบรมตามตารางอบรม จำนวน 2 รุ่นๆละ 2 วัน
- สรุปผลการอบรม
- จัดทำเนื้อหาหลักสูตร เน้น ความรู้เรื่องยาเสพติด โรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และบทบาทหน้าที่ของสมาชิกชมรม TO BE NUMBER ONE
- จัดทำสื่อความรู้ ไวนิล แผ่นพับ โฟมบอร์ด ในเรื่อง การดำเนินกิจกรรมของ ชมรม TO BE NUMBER ONE ยาเสพติด. โรคเอดส์ การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- จัดทำนิทรรศการในศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE บริเวณชมรม เพื่อรณรงค์สร้างกระแส ในการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด โรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- การฝึกทักษะและ เล่นกีฬาฟุตบอลในเยาวชน
- สนับสนุนกิจกรรม ชมรม TO BE NUMBER ONE ในสถานศึกษาในพื้นที่ และร่วมเป็นเครือข่ายในสถานประกอบการ โรงเรียน และชุมชนใกล้เคียง
- รณรงค์ และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ เรื่อง การป้องกันยาเสพติด โรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพื่อเสริมสร้างและสนับสนุนการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพของประชาชน ให้รู้จักการป้องกันตนเองให้ถูกวิธี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
- ตัวแทนเยาวชน TO BE NUMBER ONE ร่วมกิจกรรมประกวดชมรม TO BE NUMBER ONE ในระดับประเทศ ที่ จ.นนทบุรี เพื่อเป็นชมรม TO BE NUMBER ONE ดีเด่นต้นแบบระดับเงิน
- เยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจ และร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการป้องกันปัญหายาเสพติด โรคเอดส์ การตั้งครรภ์ก่อนวัยควร และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในโรงเรียน และชุมชน
- ผู้นำชุมชนมีศักยภาพในการเป็นแกนนำต้านภัยยาเสพติด โรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในชุมชนได้
- ชุมชนมีความเข้มแข็งและปลอดจากยาเสพติด โรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์อย่างยั่งยืน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2561 11:00 น.