การออกกำลังกายสร้างสุขภาวะในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน
ชื่อโครงการ | การออกกำลังกายสร้างสุขภาวะในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน |
รหัสโครงการ | 60-L3016-1-01 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปะกาฮะรัง |
วันที่อนุมัติ | 31 มกราคม 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 16 มีนาคม 2560 - 23 กุมภาพันธ์ 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 10,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายอัลดุลเลาะสาเฮาะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางซำซียะห์ อุมาลี |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลปะกาฮะรัง อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.833,101.232place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคความดันโลหิตสูงเป็นภัยเงียบที่คุกคามชีวิตของทุกคน นับเป็นหนึ่งในปัญหาสาธารณสุขสำคัญที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเนื่องจากมีความกดดันทางด้านเศรษฐกิจและการแข่งขันในอาชีพการงานที่สูงมาก ต้องเผชิญกับปัญหาหลากหลายที่เข้ามาในชีวิต สร้างความบั่นทอนร่างกายและจิตใจให้ถดถอยลง ส่งผลให้ ความดันโลหิต ในร่างกายสูงตามไปด้วย ในรายที่มีภาวะความดันโลหิตสูงมาก อาจนำไปสู่การเสียชีวิตแบบเฉียบพลันได้ ดังนั้นความดันโลหิตสูงจึงเปรียบเสมือนเพชฌฆาตเงียบที่คร่าชีวิตคนจำนวนมากไปแบบไม่รู้ตัวในกรณีภาวะความดันโลหิตสูงเรื้อรังจะค่อยๆ ทำให้หลอดเลือดภายในร่างกายเสื่อมไป โดยเฉพาะ ๓ อวัยวะสำคัญ คือ หลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจและกล้ามเนื้อหัวใจ รวมทั้งไต ซึ่งเมื่อมีการตีบหรือแตกของหลอดเลือดในอวัยวะสำคัญเหล่านี้จะทำให้เสียชีวิตได้แบบเฉียบพลัน หรือทำให้เป็นอัมพาตได้ สำหรับประเทศไทย จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขคาดว่า มีผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ประมาณ ๑๐ ล้านคน ในปีหนึ่งๆมีผู้เสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อน ได้แก่ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคไต โรคอัมพาต เป็นอันดับหนึ่งของโรคทั้งหมดร่วมแสนคน และอัตราผู้พิการก็เพิ่มขึ้นพุงกระฉูดขึ้นไปเรื่อยๆทำให้รัฐสูญเสียงบประมาณค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ฟื้นฟูสภาพของผู้ป่วย ดังนั้นการป้องกันตั้งแต่ต้นลมด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง เป็นวิธีที่ดีที่สุดและประหยัด เพียงควบคุมความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมตลอดเวลาโดยใช้หลัก ๓อ.๒ส. โดยเน้นการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงอาหารเค็มจัด อาหารกลุ่มไขมัน ลดอาหารกลุ่มแป้งและน้ำตาล การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมให้พอควรอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด คิดแง่บวกและงดสูบบุหรี่
สถานการณ์โรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานในตำบลปะกาฮะรัง โรคความดันโลหิตสูง มีกลุ่มเสี่ยง ๕๓๗ ราย ผู้ป่วย๒๕๖ราย ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคความดันโลหิตสูง จำนวน ๑๖ ราย และโรคเบาหวาน กลุ่มเสี่ยง ๒๔๖ รายผู้ป่วย ๑๑๓ ราย ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวาน จำนวน ๑๖ รายในอนาคตมีแนวโน้มผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปะกาฮะรัง เห็นความสำคัญของการป้องกันโรคดังกล่าวจึงจัดทำโครงการนี้เพื่อให้ความรู้โรคที่เกี่ยวข้อง และส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ๒.๑.๑ เพื่อจัดอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจ และสร้างทัศนคติที่ดีต่อการออกกำลังกายที่
เหมาะสมแก่กลุ่มเป้าหมาย
๒.๑.๒ สอนการออกกำลังกายด้วยไม้พลองและการแกว่งแขน
|
.๑ วิเคราะห์ปัญหาความรุนแรงของโรคและแนวโน้มความเสี่ยงในอนาคต
๓.๒ เขียนโครงการเพื่อเสนอขอสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนประกันสุขภาพตำบลปะกาฮะรัง
๓ จัดประชุมเจ้าหน้าที่ อสม. เพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์โครงการ
๔ จัดอบรมและจัดกิจกรรมแก่กลุ่มเป้าหมายตามโครงการ
๕ ติดตาม/ประเมินผล พร้อมสรุปโครงการ
๑ ผู้ป่วยมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลตนเองอย่างถูกต้อง มีภาวะเป็นโรคแทรกซ้อน ลดลง ๒ กลุ่มเป้าหมายมาออกกำลังกายที่ รพ.สต.ตามนัด
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2560 13:40 น.