โครงการสุขภาพดี ชีวิตดี ลด ละ เลิก พฤติกรรมเสี่ยงโรคความดัน/เบาหวาน
| ชื่อโครงการ | โครงการสุขภาพดี ชีวิตดี ลด ละ เลิก พฤติกรรมเสี่ยงโรคความดัน/เบาหวาน |
| รหัสโครงการ | 61-L2971-02-11 |
| ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
| หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
| ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | อาสาสมัครสาธารณสุขตำบลกะรุบี เขตโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านบาโงยือแบ็ง |
| วันที่อนุมัติ | 18 กรกฎาคม 2561 |
| ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 สิงหาคม 2561 - 28 กันยายน 2561 |
| กำหนดวันส่งรายงาน | 28 กันยายน 2561 |
| งบประมาณ | 9,150.00 บาท |
| ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายอับดุลการี วานิ นายมะนาเส สามะ |
| พี่เลี้ยงโครงการ | |
| พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลกะรุบี อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี |
| ละติจูด-ลองจิจูด | 6.57,101.556place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
| กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
|---|---|---|
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
| กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
||
| สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
|---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันสาเหตุการตายอันดับแรกๆของประเทศไทย คือ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเร็ง (พนิดา วสุธาพิทักษ์, 2555, รุ่งทิวา ชอบชื่น, 2556.) หากผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมโรคได้ ก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพที่รุนแรงตามมา ถึงขั้นพิการและเสียชีวิตได้ และต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก ซึ่งโรคเหล่านี้เกิดจากการมีพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตของบุคคลขาดความสมดุล เช่น การรับประทานอาหารไขมันสูง อาหารรสหวานจัดและเค็มจัด ไม่รับประทานผัก ผลไม้ ไม่ออกกำลังกาย การใช้ชีวิตที่สะดวกสบายเกินไป เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีการระบุว่าความเครียดในชีวิต ยังเป็นปัจจัยร่วมที่ทำให้เกิดโรคเรื้อรังได้ คนที่มีภาวะเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังคือ ผู้มีภาวะอ้วน ผู้มีคลอเรสเตอรอลสูง (พนิดา วสุธาพิทักษ์, 2555) ในแต่ละปี ทุกๆ ประเทศได้ใช้จ่ายเงินจำนวนมากมหาศาลเพื่อบำรุงรักษาสุขภาพของประชาชน ปรับปรุงส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันอุบัติภัยอันตรายต่างๆ รวมทั้งป้องกันโรคติดเชื้อที่ก่อให้เกิดการเจ็บป่วย นับเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของแต่ละบุคคล ปัจจุบันกระแสของการสร้างเสริมสุขภาพกำลังเป็นที่กล่าวถึงในประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศเกี่ยวกับสุขภาพได้ให้ความสำคัญในประเด็นดังกล่าวเป็นอย่างมาก เป็นประเด็นการเคลื่อนไหวทางสาธารณสุขที่สำคัญ และถือได้ว่าเป็นจุดหักเหหรือการเปลี่ยนแปลงแนวคิดเกี่ยวกับกับสุขภาพ จากจุดเน้นของการบริการแบบ “ตั้งรับ” หรือ “โรงซ่อมสุขภาพ” ซึ่งเน้นการรักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วยแล้วมาเน้นการบริการ “เชิงรุก” หรือ “การสร้างเสริมสุขภาพ” ซึ่งเป็นการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อป้องกันมิให้เกิดการเจ็บป่วย เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าระบบที่มุ่งการซ่อมสุขภาพเป็นระบบที่มีความสิ้นเปลืองต้นทุน ค่าใช้จ่ายสูง เกิดผลกระทบทั้งคนไข้และสังคม ในส่วนของคนไข้นอกจากจะต้องเสียค่ารักษาพยาบาลแล้วยังต้องสูญเสียรายได้เนื่องจากขาดงานแล้วอาจมีปัญหาสุขภาพจิต ในส่วนของสังคมส่วนรวมต้องแบกรับภาระความเจ็บป่วยเกินความจำเป็น ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูผู้เจ็บป่วย พิการ เสียทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า เสียโอกาสในการนำทรัพยากรไปใช้ในด้านต่างๆ เนื่องจากต้องนำมาใช้ในการลงทุนสร้างระบบบริการเพื่อรองรับความเจ็บป่วย การทำให้สุขภาพดีจะทำให้ระบบเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการรอรักษาและฟื้นฟูเมื่อสุขภาพเสียแล้ว ระบบสุขภาพจึงควรมุ่งเน้นที่การ “สร้างสุขภาพ”
จากการดำเนินงานด้านการสร้างสุขภาพในกลุ่ม ผู้รับบริการ พบว่า ผู้รับบริการส่วนใหญ่มีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ถูกต้อง มีภาวะอ้วนลงพุง ชอบรับประมานอาหารหวาน มัน เค็ม อีกทั้งไม่ได้ ออกกำลังกาย และพบว่ามีการเจ็บป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือด โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ซึ่งบ่งบอกได้ว่า กลุ่มดังกล่าวขาดความรู้ด้านการดุแลสุขภาพที่ถูกต้องเพื่อลดโรค และลดภาวะเสี่ยงต่างๆที่จะตามมา
ดังนั้น อาสาสมัครสาธาณสุขบ้านบาโงยือแบ็ง จึงได้จัดทำโครงการ ขึ้น เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ มีความรู้ที่ถูกต้องในการดูแลสุขภาพของตนเอง อีกทั้งสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพจากการเจ็บป่วยจากโรคหรือภาวะเสี่ยงของโรคที่เกิดจากพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ถูกต้อง และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขต่อไป
| วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
|---|---|---|---|
| 1 | เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมีความรู้และเกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการรับประทานอาหารที่ดี ไม่เป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ที่ถูกต้องหลังการอบรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 80 |
80.00 | |
| 2 | เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดโรคตามหลัก 3 อ 2 ส กลุ่มเป้าหมายสามารถลดการรับประทานอาหารประเภทของหวาน แกงกะทิ บูดู หลังการอบรมร้อยละ 80 |
80.00 | |
| 3 | เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมีสุขภาพดีขึ้น กลุ่มเป้าหมายมีค่า BMI ความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือดลดลงหลังการอบรมร้อยละ 80 มีสุขภาพที่ดี ร้อยละ 80 |
80.00 | |
| 4 | เพื่อลดการเจ็บป่วยที่เกิดจากภาวะแทรกซ้อนจากโรคที่เกิดจากพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ถูกต้อง ลดการเจ็บป่วยที่เกิดจากภาวะแทรกซ้อนจากโรคที่เกิดจากพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ถูกต้อง ร้อยละ 80 |
80.00 |
| hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
คงเหลือ (บาท) |
||
| วันที่ | กิจกรรม | 0 | 9,150.00 | 1 | 9,150.00 | 0.00 | |
| 1 ส.ค. 61 - 28 ก.ย. 61 | จัดอบรมการส่งเสริมการดูแลสุขภาพกลุ่มเสี่ยงโรคความดันเบาหวาน | 0 | 9,150.00 | ✔ | 9,150.00 | 0.00 | |
| รวมทั้งสิ้น | 0 | 9,150.00 | 1 | 9,150.00 | 0.00 | ||
-ประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานลดลง -ประชาชนในชุมชนมีสุขภาพดีขึ้น
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2561 12:05 น.