กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

ชื่อโครงการ โครงการบ๊ายบายขวดนม ลูกอมและขนมกรุบกรอบ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเมืองยอน ในปีงบประมาน ๒๕๖๑

ที่อยู่ ตำบลลุโบะยิไร อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี จังหวัด ปัตตานี

รหัสโครงการ 61-L3006-03-09 เลขที่ข้อตกลง

ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 11 กันยายน 2561 ถึง 11 กันยายน 2561

กิตติกรรมประกาศ

"โครงการบ๊ายบายขวดนม ลูกอมและขนมกรุบกรอบ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเมืองยอน ในปีงบประมาน ๒๕๖๑ จังหวัดปัตตานี" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลลุโบะยิไร อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ลุโบะยิไร ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการบ๊ายบายขวดนม ลูกอมและขนมกรุบกรอบ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเมืองยอน ในปีงบประมาน ๒๕๖๑

บทคัดย่อ

โครงการ " โครงการบ๊ายบายขวดนม ลูกอมและขนมกรุบกรอบ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเมืองยอน ในปีงบประมาน ๒๕๖๑ " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลลุโบะยิไร อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี รหัสโครงการ 61-L3006-03-09 ระยะเวลาการดำเนินงาน 11 กันยายน 2561 - 11 กันยายน 2561 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 8,750.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ลุโบะยิไร เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกในชุมชนจำนวน 0 คน หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้

โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"

สารบัญ

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

ปัจจุบันเด็กๆนิยมรับประทานขนมคบเคี้ยวเป็นจำนวนมาก ในท้องตลาดมีขนมจำหน่ายมากมายหลาหลายชนิด , ลูกอมต่างๆ และเด็กๆติดขวดนม เป็นสาเหตุของโรคฟันผุ เป็นโรคที่มีอัตราสูงในกลุ่มอายุและก่อให้เกิดผลเสียต่อการเคี้ยวอาหาร และสุขภาพโดยรวม โรคฟันผุเป็นสิ่งที่สามารถป้องกันได้ด้วยพฤติกรรมทันตสุขภาพที่เหมาะสม ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเริ่มต้นในช่วงปฐมวัย ด้วยการบ่มเพาะพฤติกรรมการทำความสะอาด และการบริโภคอาหารที่ส่งเสริมสุขภาพและไม่เสี่ยงต่อฟันผุ ซึ่งเป็นวิธีการป้องกันฟันผุได้ด้วยตนเอง โครงการดูแลสุขภาพในช่องปากให้แก่เด็ก สุขภาพช่องปากเด็กมีความสัมพันธ์โดยตรงต่อสุขภาพทั่วไปของเด็ก แต่ปัจจุบันพบเด็กเล็กอายุ 3-5 ปี เป็นโรคฟันผุเกือบทุกคน บางคนฟันผุเกือบทั้งปาก ทำให้เด็กๆต้องทนทุกข์ทรมานจากการปวดฟันหรือเจ็บป่วยเรื้อรังจากโรคฟันผุ อันจะส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเด็กในระยะยาว ซึ่งหากครูพี่เลี้ยงและผู้ดูแลเด็กที่บ้านร่วมมือกันช่วยดูแลเด็กอย่างเหมาะสมจะมีส่วนช่วยให้เด็กเป็นโรคฟันผุลดลง , เด็กมีสุขภาพกายดี , เด็กมีสุขภาพจิตดี เพราะการที่เด็กมีฟันดี จะสามารถยิ้มได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องเกรงจะถูกเพื่อนล้อว่าฟันดำหรือฟันหลอ ครูพี่เลี้ยงมีส่วนช่วยอบรมสั่งสอน ฝึกทักษะการแปรงฟันให้เด็ก รวมทั้งการเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็ก ในเรื่องของการทำความสะอาดฟันและการเลือกกินขนมที่มีประโยชน์จะช่วยสร้างสุขนิสัยและการพัฒนาเป็นพฤติกรรมทันตสุขภาพที่ถูกต้องให้แก่เด็กซึ่งจะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคฟันผุ และมีส่วนทำให้เด็กมีสุขภาพกายดี และจิตใจแจ่มใสเปรียบเสมือนการสร้างให้เด็กมีต้นทุนที่ดีต่อการพัฒนาในด้านอื่นๆ ให้ได้ผลที่ดียิ่งขึ้น

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

1. ๑.๑ เพื่อให้ผู้ปกครองรู้โทษของการรับประทานอาหารขยะ ๑.๒ เพื่อให้เด็กรับประทานขนมที่มีประโยชน์ และปลอดภัยต่อร่างกาย ๑.๓ เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีสุขภาพกายที่ดี และอนามัยที่สมบูรณ์ ๑.๔ เพื่อส่งเสริมให้เด็กรักษาการแปรงฟัน และดุแลสุขภาพในช่องปาก ๑.๕ เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีสุขภาพจิตดี ๑.๖ เพื่อให้ผู้ปกครองตระหนักถึงความสำคัญในการบริโภคของลูกน้อย

กิจกรรม/การดำเนินงาน

กลุ่มเป้าหมาย

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

7.๑ เด็กมีสุขภาพกายและสุขภาพฟันที่ดี และอนามัยที่สมบูรณ์
    7.๒ เด็กไม่รับประทานลูกอม และขนมกรุบกรอบ     7.๓ เด็กรักการแปรงฟัน และดูแลสุขภาพในช่องปาก     7.๔ เด็กมีสุขภาพจิตดี

ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น