โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรค ความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน
ชื่อโครงการ | โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรค ความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน |
รหัสโครงการ | 62-L4135-01-02 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบุดี |
วันที่อนุมัติ | 17 ตุลาคม 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤศจิกายน 2561 - 30 กันยายน 2562 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 33,500.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวสมคิด สุวรรณสังข์ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบุดี อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.487,101.305place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 200 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : ระบุ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละของประชาชนทีมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน | 16.00 | ||
2 | ร้อยละประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง | 42.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนในชุมชน ให้มีการเร่งรีบแข่งขันกับเวลาเพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่ครอบครัว จึงทำให้วิถีชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงเช่นการเร่งรีบกับการทำงานบริโภคอาหารโดยไม่ได้คำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการมีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลงขาดการออกกำลังกายเครียดทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงซึ่งเป็นปัญหาสำคัญทางด้านสาธารณสุข เป็นกลุ่มโรคที่มีปัจจัยสาเหตุการนำสู่โรคจากปัจจัยเสี่ยงร่วม และเสียชีวิตก่อนวัยอันควร จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าคนไทยที่มีความดันโลหิตสูงจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ประมาณ ๓.๗ เท่าของผู้ที่มีความดันโลหิตปกติและยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตวาย โรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดส่วนปลาย และภาวะหัวใจล้มเหลวผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ไม่ได้รับการรักษาเกือบครึ่งหนึ่งจะตายด้วยโรคหัวใจ ส่วนโรคเบาหวาน จะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะตาบอดไตวาย การถูกตัดอวัยวะ เป็นต้นปัญหาของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวานที่พบบ่อยที่สุด คือการบริโภคอาหารไม่ถูกต้อง ยังพบการบริโภคอาหารที่มีรสเค็มมัน และหวานสาเหตุ คือ ความเคยชิน โรคนี้สามารถป้องกันได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่นการรับประทานอาหารตามหลักโภชนาการและมีกิจกรรมทางกายที่เหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบุดี พบอัตราป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง ในปี พ.ศ. 2559 – 2561 สูงขึ้นคิดเป็นร้อยละ 42 , 38 และ 11.76 ตามลำดับ และพบอัตราป่วยด้วยโรคเบาหวาน ในปี พ.ศ.2559 - 2561 สูงขึ้นคิดเป็นร้อยละ 16 , 14 และ 3.42 ตามลำดับด้วยความตระหนักถึงปัญหาและภัยของภาวะความดันโลหิตสูงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบุดี จึงได้จัดทำโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดเสี่ยงลดโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานในกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มโรคเรื้อรัง เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี มีความรู้ในการดูแลตนเอง ลดการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวาน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อแก้ปัญหาประชาชนกลุ่มเสี่ยงจากโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน ประชากรกลุ่มเสี่ยงป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง/เบาหวาน ไม่เกินร้อยละ 5 |
5.00 | |
2 | เพื่อส่งเสริมให้ประชากรกลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันการป่วยโรคความดันโลหิตสูง/เบาหวาน/โรคเรื้อรังต่าง ๆ ประชากรกลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่เข้ารับการอบรม ได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันการป่วยโรคความดันโลหิตสูง/เบาหวาน/โรคเรื้อรังต่างๆ ร้อยละ 80 |
80.00 | |
3 | เพื่อให้ประชากรกลุ่มเสี่ยงได้รับการตรวจสุขภาพ ประชากรกลุ่มเสี่ยงได้รับการตรวจสุขภาพติดตามต่อเนื่อง ป้องกันภาวะเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มากกว่าร้อยละ 80 |
90.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 200 | 33,500.00 | 1 | 33,500.00 | |
18 - 22 มี.ค. 62 | จัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้เชิงปฏิบัติการ | 200 | 33,500.00 | ✔ | 33,500.00 |
อบรมให้ความรู้เชิงปฎิบัติการ แก่กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านการรับประทานอาหาร ด้านอารมณ์ และการออกกำลังกาย จำนวน 200 คน แบ่งเป็น 5 รุ่น ภายในกิจกรรมประกอบด้วย 1) กิจกรรมประเมินภาวะ BMI วัดรอบเอว รอบสะโพก ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด (DTX) และวัดความดันโลหิตสูงก่อนและหลังเข้าร่วมโครงการ 2) กิจกรรมอบรมให้ความรู้ 3) กิจกรรมออกกำลังกายในกลุ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อติดตามประเมินผลพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ หลังได้รับการอบรม ทุก 3-6 เดือน
- จำนวนประชาชนที่เสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานลดลงร้อยละ 10
- ประชาชนที่ร่วมอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน
- ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถดูแลสุขภาพตนเองขั้นพื้นฐานได้อย่างเหมาะสม
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2561 00:00 น.