โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ในเด็กปฐมวัย ให้รู้วิธีการเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ในรถยนต์ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลคลองขุด
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ในเด็กปฐมวัย ให้รู้วิธีการเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ในรถยนต์ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลคลองขุด |
รหัสโครงการ | 62-L5300-3-3 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 3 สนับสนุนการจัดกิจกรรมของ ศูนย์เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลคลองขุด |
วันที่อนุมัติ | 12 กุมภาพันธ์ 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 4 มีนาคม 2562 - 29 มีนาคม 2562 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 เมษายน 2562 |
งบประมาณ | 11,160.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางณัฐรินีย์ จิตต์หลัง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.625,100.12place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 140 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : ระบุ |
||
กลุ่มวัยทำงาน | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | เด็กปฐมวัยเสี่ยงต่อการติดในรถยนต์ (ร้อยละ) | 2.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากสภาพการณ์ในปัจจุบัน ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับการลืมเด็กนักเรียนไว้ในรถรับ-ส่งไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัวหรือรถรับ-ส่งของโรงเรียน เกิดเหตุการณ์บ่อยครั้งมากขึ้น จากการลืมเด็กในรถ จนทำให้เด็กขาดอากาศหายใจ นำไปสู่การเสียชีวิต ด้วยสาเหตุดังกล่าวศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลคลองขุดเล็งเห็นว่าควรจัดโครงการให้ความรู้แก่เด็กปฐมวัยในสังกัด เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือตัวเองเมื่อติดอยู่ในรถยนต์ อีกทั้งเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุสลดจนมีความสูญเสียขึ้นอีก ถึงแม้ว่าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลคลองขุดจะไม่มี การให้บริการรับส่งเด็ก แต่เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว จึงต้องป้องกันก่อนจะเกิดเหตุ โดยสอนให้เด็กปฐมวัยได้เรียนรู้ระบบการทำงานของรถยนต์เท่าที่จำเป็นเฉพาะเพื่อเอาตัวรอด ประกอบด้วย แนะนำเกี่ยวกับระบบเซ็นทรัลล็อคของรถยนต์ แนะนำเกี่ยวกับระบบป้องกันการเปิดจากด้านใน การลดกระจกประตูรถ การใช้สัญญาณไฟฉุกเฉิน การใช้แตร และแนะนำให้เด็กมาเปิดประตูจากฝั่งคนขับ จากนั้นก็ต้องทดลองให้เด็กลองปฏิบัติจริง นอกจากนั้นควรสร้างองค์ความรู้ให้แก่ครูผู้ดูแลเด็กในเรื่องดังกล่าวด้วย เพื่อสร้างความใส่ใจ เพราะถึงแม้จะสอนให้เด็กมีความรู้ไว้แก้ไขสถานการณ์คับขัน แต่ผู้ใหญ่ต้องมีสติตลอดเวลา ตรวจตราภายในรถยนต์ให้ละเอียดรอบคอบว่าไม่ลืมเด็กไว้ในรถ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับครูและผู้ปกครอง หากถ้าพลาดพลั้งไปจะเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจหวนคืน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้เด็กปฐมวัยเรียนรู้วิธีการปลดล็อคประตูรถเมื่อติดอยู่ในรถยนต์ เด็กปฐมวัยเรียนรู้วิธีการปลดล็อคประตูรถเมื่อติดอยู่ในรถยนต์ ร้อยละ 100 |
100.00 | |
2 | เพื่อให้เด็กปฐมวัยเรียนรู้การเอาตัวรอดโดยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งเมื่อติดอยู่ในรถ หากไม่ สามารถลงจากรถยนต์ได้ เด็กปฐมวัยเรียนรู้การเอาตัวรอดโดยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งเมื่อติดอยู่ในรถ หากไม่สามารถลงจากรถยนต์ได้ อย่างน้อยร้อยละ 80 |
80.00 | |
3 | เพื่อให้ครูและผู้ปกครองเรียนรู้วิธีการทำงานของแตรรถยนต์ สัญญาณไฟฉุกเฉิน กระจกรถ และระบบ ล็อคประตูของรถแต่ละรุ่น เพื่อจะได้สอนให้เด็กได้เรียนรู้การเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ในรถอย่างสม่ำเสมอ และสร้างความตระหนักให้มีการตรวจตราภายในรถยนต์ให้ละเอียดรอบคอบว่าไม่ลืมเด็กไว้ในรถทุกครั้งก่อนลงจากรถ ครูได้เรียนรู้วิธีการทำงานของแตรรถยนต์ สัญญาณไฟฉุกเฉิน กระจกรถ และระบบล็อคประตูของรถแต่ละรุ่น เพื่อจะได้สอนให้เด็กได้เรียนรู้การเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ในรถอย่างสม่ำเสมอ และมีความตระหนักให้มีการตรวจตราภายในรถยนต์ให้ละเอียดรอบคอบว่าไม่ลืมเด็กไว้ในรถทุกครั้งก่อนลงจากรถ |
80.00 |
กิจกรรม ระบุวัน/ช่วงเวลา
1. เตรียมวัสดุ อุปกรณ์ ในการดำเนินโครงการ กุมภาพันธ์
2. จัดอบรมให้ความรู้ในการป้องกันและการช่วยชีวิตกรณีเกิดเหตุการณ์ กุมภาพันธ์-มีนาคม
2 วัน
3. ซ้อมในเหตุการณ์สมมติเมื่อติดอยู่ในรถยนต์ในลักษณะคนเดียว และหลายคน
4. สรุปและรายงานผล ภายใน 30 วันหลังเสร็จสิ้นโครงการ
ผลผลิต
1. เด็กปฐมวัยเรียนรู้วิธีการปลดล็อคประตูรถเมื่อติดอยู่ในรถยนต์ ร้อยละ 100
2. เด็กปฐมวัยเรียนรู้การเอาตัวรอดโดยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งเมื่อติดอยู่ในรถ หากไม่สามารถลงจากรถยนต์ได้ อย่างน้อยร้อยละ 80
ผลลัพธ์
๑. เด็กปฐมวัยเรียนสามารถปลดล็อคประตูรถเมื่อติดอยู่ในรถยนต์
๒. เด็กปฐมวัยรู้วิธีการเอาตัวรอดโดยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งเมื่อติดอยู่ในรถ หากไม่สามารถ ลงจากรถยนต์ได้
๓. ครูผู้ดูแลเด็กรู้วิธีการทำงานของแตรรถยนต์ สัญญาณไฟฉุกเฉิน กระจกรถ และระบบล็อคประตูของรถแต่ละรุ่น และสามารถสอนให้เด็กเรียนรู้การเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ในรถอยู่อย่างสม่ำเสมอ
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2562 13:49 น.