โครงการส่งเสริมความรู้และทักษะด้านสุขภาพเด็กปฐมวัยแบบบูรณาการ
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมความรู้และทักษะด้านสุขภาพเด็กปฐมวัยแบบบูรณาการ |
รหัสโครงการ | 60- L8300 -3-01 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 3 สนับสนุนหน่วยงานที่มีหน้ารับผิดชอบเกี่ยวกับเด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรมผู้ดูแลเด็กตำบลแว้ง |
วันที่อนุมัติ | 15 กุมภาพันธ์ 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 8 มีนาคม 2560 - 9 มีนาคม 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 33,325.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวมูรณี หะมิ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลแว้ง อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 5.936,101.835place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 157 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
เด็กเล็ก เป็นวัยที่มีความซุกซน เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา สติ ปัญญาและความคิดจะมีความเป็นอิสระ แปรเปลี่ยนตามสิ่งแวดล้อมที่พบเห็นใกล้ตัว ชอบลอกเลียนแบบคามความคิดของตน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มีพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย จิตใจอารมณ์ สติปัญญาและลักษณะนิสัย ดังนั้น ครูผู้ดูแลเด็กซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับเด็กเล็ก และมีอิทธิพลต่อการปรับเปลี่ยนหลักการและเหตุผล (ระบุที่มาของการทำโครงการ) เด็กเล็ก เป็นวัยที่มีความซุกซน เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา สติ ปัญญาและความคิดจะมีความเป็นอิสระ แปรเปลี่ยนตามสิ่งแวดล้อมที่พบเห็นใกล้ตัว ชอบลอกเลียนแบบคามความคิดของตน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มีพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย จิตใจอารมณ์ สติปัญญาและลักษณะนิสัย ดังนั้น ครูผู้ดูแลเด็กซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับเด็กเล็ก และมีอิทธิพลต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็กมากที่สุด อีกทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีของเด็ก ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานด้านความคิด สติปัญญา อารมณ์ สังคม ลักษณะนิสัย เสริมสร้างบุคลิกที่ดีให้กับเด็ก ซึ่งเปรียบเสมือนการวางราฐานของประเทศ ในช่วง 5 ปี แรกของเด็กเล็ก เป็นระยะที่สำคัญที่สุด เนื่องจากสมองของเด็กมีการเจริญเติบโตและมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว ซึ่งพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือ ครูผู้ดูแลเด็ก ต้องตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาการแห่งวัย หรือการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งด้านร่างกายอารมณ์ จิตใจ สังคม สติปัญญาและลักษณะนิสัย โดยการส่งเสริมพัฒนาการแห่งวัยให้เหมาะสมตามวุฒิภาวะหรือความพร้อมของเด็กเล็กแต่ละช่วงอายุ โดยอาศัย ความร่วมมือจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือ ครูผู้ดูแลเด็กที่เกี่ยวข้องกับเด็กเล็กโดยการจัดกิจกรรม หรือจัดประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านการเล่นในกระบวนการต่างๆหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช2546 และการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ แก่เด็กเล็ก ผ่าน 6 กิจกรรมหลัก ได้แก่ กิจกรรมเคลื่อนไหว กิจกรรมเสริมประสบการณ์ กิจกรรมกลางแจ้งเกมการศึกษา กิจกรรมเสรี และกิจกรรมสร้างสรรค์ โดยการส่งเสริมการจัดกิจกรรให้มีสุขภาพแข็งแรง ส่งเสริมความรู้ เพิ่มประสบการณ์และทักษะการเรียนรู้แก่เด็กเล็ก ครู ผู้ปกครอง ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่าง ครูผู้ดุแลเด็ก ผู้ปกครองและเด็กเล็ก โดยสามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้อย่างดี รวมทั้ง เพื่อส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยได้ฝึกปฏิบัติจริง มีประสบการณ์ตรง ในรูปแบบการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบ BRAIN-BASE LEARNING(BBL) โดยผ่านการสังเกตและฝึกกิจกรรมอย่างหลากหลาย เพื่อพัฒนาจุดเชื่อมต่อของใยประสาท ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย มีอิสระทางความคิด สามารถพัฒนากล้ามเนื้อเล็ก กล้ามเนื้อใหญ่ รวมถึงการพัฒนาเชื่อมโยงพัฒนาการของอวัยวะหลายส่วน อันจะนำไปสู้การทำให้เกิดจุดเชื่อมต่อของใยประสาทที่สามารถพัฒนาตามพัฒนาการแห่งวัยทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ร่างกาย อารมณ์สติปัญญา และสังคม ต่อไป ทางชมรมผู้ดูแลเด็กตำบลแว้ง ได้ตระหนักและเห็นความสำคัญในเรื่องดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมความรู้และทักษะด้านสุขภาพเด็กปฐมวัยแบบบูรณาการ ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ข้อที่ 1เด็กปฐมวัยได้พัฒนาการส่งเสริมการจัดประสบการณ์การเรียนรู้จากประสบการณ์จริงโดยผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ในรูปแบบการและเด็กได้รับการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก กล้ามเนื้อมัดใหญ่ รวมทั้งประสารทสัมผัสทั้ง 5 คือการมองเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การได้ชิมและการสัมผัส
|
||
2 | ข้อที่ 2เด็กได้รับการพัฒนาการที่ครบทั้ง 4 ด้าน คือด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ด้านสังคมด้านสติปัญญา รวมทั้งการจัดกิจกรรมเสริมประสบการทั้ง 6 กิจกรรม คือกิจกรมเคลื่อนไหวและจังหวะ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ กิจกรรมเสรี กิจกรรมเกมการศึกษา และกิจกรมสันทนาการ
|
||
3 | ข้อที่ 3ครูผู้ดูแลเด็ก ทั้ง 2 ศูนย์ มีความรู้ ความเข้าใจในการช่วยดูแลรักษาสุขภาพอนามัยของเด็กในศูนย์ดีขึ้น
ครูผู้ดูแลเด็ก ผู้ปกครอง และผู้ประกอบอาหารของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั้ง 2 ศูนย์ มีความรู้เรื่องโภชนาการสำหรับเด็ก และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับอาหารให้เด็กปฐมวัยได้อย่างถูกสุขอนามัยและมีคุณค่าตามโภชนาการ
|
รวมทั้งสิ้น | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | 0.00 |
- ประชุมชี้แจงโครงการและแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ
- ทดสอบความรู้ผู้เข้ารับการอบรมเรื่องโภชนาการเด็ก
- รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม วันที่ 8 มีนาคม 2560แบ่งกลุ่มผู้เข้าร่วมอบรม เป็น 2 กลุ่ม ตามฐานที่ตั้งไว้ ดังนี้
3.1ฐานที่ 1 ฐานให้ความรู้เรื่องโภชนาการและพัฒนาการเด็กปฐมวัยวิทยากรประจำฐานที่ 1 นางนาตือเราะรายะพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ และครูผู้ดูแลเด็กที่รับผิดชอบด้านการประเมินพัฒนาการ
3.2 ฐานที่ 2 ฐานการจัดทำสื่อการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับการส่งเสริมพัฒนาการและสุขภาพอนามัยเด็กปฐมวัยวิทยากรประจำแหล่ง นางอันนาตูลียาหะยีเจ๊ะแนครู ค.ศ.1
- รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม วันที่ 9 มีนาคม 2560แบ่งกลุ่มผู้เข้าร่วมอบรมเป็น 6 กลุ่ม ตามฐานที่ตั้งไว้ ดังนี้
4.1 ฐานหนูเก่งเล่นฟุตบอลกับเพื่อนได้วิทยากรประจำฐาน ครูผู้ดูแลเด็ก 4.2 ฐานหนูสวยจังแต่งตังเองก็เป็นวิทยากรประจำฐาน ครูผู้ดูแลเด็ก 4.3 ฐานมือหนูแข็งแรงจับช้อนตักน้ำได้ด้วยวิทยากรประจำฐาน ครูผู้ดูแลเด็ก 4.4 ฐานสนุกจังหนูกับเพื่อนใครวิ่งเร็วกว่าวิทยากรประจำฐาน ครูผู้ดูแลเด็ก 4.5 ฐานหนูรักแม่ อุ้มหนูหน่อยค่ะวิทยากรประจำฐาน ครูผู้ดูแลเด็ก 4.6 ฐานแม่จ๋าแม่ลากหนูเร็วไววิทยากรประจำฐาน ครูผู้ดูแลเด็ก 4.7 ฐานหนูเก่งแต่งหน้าให้แม่สวยจัง วิทยากรประจำฐาน ครูผู้ดูแลเด็ก - สรุปและประเมินผลความพึงพอใจผู้เข้าร่วมโครงการ
- ติดตามผลสัมฤทธิ์ที่ได้จากการดำเนินโครงการ
- เด็กปฐมวัยได้พัฒนาการส่งเสริมการจัดประสบการณ์การเรียนรู้จากประสบการณ์จริงโดยผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ในรูปแบบการส่งเสริมการเรียนรู้แบบ BRAIN-BASE LEARNING( BBL )
- เด็กได้รับการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก กล้ามเนื้อมัดใหญ่ รวมทั้งประสารทสัมผัสทั้ง 5 คือการมองเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การได้ชิมและการสัมผัส
- เด็กได้รับการพัฒนาการที่ครบทั้ง 4 ด้าน คือด้านร่างกายอารมณ์สังคมสติปัญญา รวมทั้งการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ทั้ง 6กิจกรรม คือกิจกรมเคลื่อนไหวและจังหวะ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ กิจกรรมเสรี กิจกรรมเกมการศึกษา และกิจกรรมสันทนาการ
- ครูผู้ดูแลเด็ก ทั้ง 2 ศูนย์ มีความรู้ ความเข้าใจในการช่วยดูแลรักษาสุขภาพอนามัยของเด็กในศูนย์ดีขึ้น
- ครูผู้ดูแลเด็ก ผู้ปกครอง และผู้ประกอบอาหารของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั้ง 2 ศูนย์ มีความรู้เรื่องโภชนาการสำหรับเด็ก และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับอาหารให้เด็กปฐมวัยได้อย่างถูกสุขอนามัยและมีคุณค่าตามโภชนาการ
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2560 15:08 น.