กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการเยาวชนร่วมใจ ป้องภัยยาเสพติด โรคเอดส์และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ปี 2562
รหัสโครงการ 62-L4147-02-02
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ กลุ่มหรือองค์กรประชาชน
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ ชมรม TO BE NUMBER ONE ตำบลบาโงยซิแน
วันที่อนุมัติ 25 มีนาคม 2562
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 พฤษภาคม 2562 - 30 กันยายน 2562
กำหนดวันส่งรายงาน 30 ตุลาคม 2562
งบประมาณ 120,000.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นายอับดุลรอซะ ยะยา
พี่เลี้ยงโครงการ
พื้นที่ดำเนินการ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
ละติจูด-ลองจิจูด place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานสิ่งเสพติด , แผนงานเด็ก เยาวชน ครอบครัว
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน 2140 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน :

กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีทรงมีพระดำริให้มีโครงการTO BE NUMBER ONEในสถานศึกษาทั่วประเทศ และหน่วยงาน องค์กร ชุมชนต่าง ๆ ตามพระปณิธาน "ทุกคนเป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด" โดยมีการดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์ ปรับทุกข์ สร้างสุข แก้ปัญหา และพัฒนา EQ จนเป็นที่สนใจในกลุ่มเยาวชน ทำให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างมาร่วมกิจกรรมอันเปิดโอกาสให้ กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก ซึ่งทำให้เยาวชนที่มีความสามารถในด้านต่าง ๆ ได้พัฒนาความสามารถในด้านที่ตนถนัดด้วยกิจกรรมต่างๆ ทั้งทางด้านกีฬา ดนตรี และการช่วยเหลือสังคม ประกอบกับปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด โรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์อันไม่พึงประสงค์ ในปัจจุบันมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะในเขตชุมชน รวมทั้งพื้นที่ที่มีสถานบริการ และแหล่งมั่วสุม อบายมุขต่างๆ เช่น อินเตอร์เน็ต ร้านเกมส์ เป็นต้น โดยเฉพาะกลุ่มอายุ6 - 24 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีลักษณะสำคัญ ๓ ประการ คือ มีพัฒนาการทางร่างกาย ด้านจิตใจและมีการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือมีสิทธิทางกฎหมายในเรื่องต่างๆวัยรุ่นเป็นวัยอยากรู้ อยากเห็น และอยากทดลอง ต้องการการยอมรับจากเพื่อน จึงเป็นกลุ่มเสี่ยง ที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในเรื่องความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยาเสพติด การรู้โทษที่ร้ายแรงของสิ่งเสพติด โรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การท้องไม่พร้อม เพื่อจะได้รู้จักการหลีกเลี่ยงจากปัญหาดังกล่าว จากรายงานสถานการณ์ปัญหายาเสพติด สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส) กล่าวว่า จากข้อมูลสถิติปี พ.ศ. 2559 สำนักงาน ป.ป.ส ได้ประมาณตัวเลขของผู้ที่มีพฤติการณ์เกี่ยวกับยาเสพติดไว้ที่ 1.2 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนประชากรของคนไทยที่มีประมาณ 65 ล้านคน ถือเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.93 พูดได้ว่าในจำนวนประชากรทุกๆ 100 คน จะมีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดถึง 3 คน และ จากข้อมูลการเข้าบำบัดรักษาของประชาชนตำบลบาโงยซิแน พบว่า ปี 2555 มีผู้เข้ารับการบำบัด 29 ราย ปี 2556มีผู้เข้ารับการบำบัด 30 ราย ปี 2557มีผู้เข้ารับการบำบัด 1 ราย ปี 2558มีผู้เข้ารับการบำบัด 15 ราย ปี 2559 มีผู้เข้ารับการบำบัด 2 รายและปี 2560 ไม่มีผู้เข้าบำบัด ปี 2561 มีผู้เข้าบำบัด ๖ รายแต่จำเป็นจะต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้มากขึ้น เพื่อป้องกันมิให้เยาวชนกลุ่มเสพ ไปมั่วสุมกลับไปมีพฤติกรรมซ้ำ สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข และกลุ่มเสี่ยง เลิกยุ่งจากยาเสพติด และจากการทำเวทีประชาคม ประชาชนได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นลำดับต้นๆ โดยเฉพาะการป้องกันในกลุ่มเยาวชน ซึ่งจะเป็นกำลังของชาติในอนาคต จากการศึกษาภายใต้การสนับสนุนจากองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) เปรียบเทียบข้อมูลปี 2559 กับ 2551 พบสถิติแม่วัยรุ่นไทยอายุต่ำกว่า 20 ปี กลับมีการตั้งท้องสูงถึง 150,000 คน กลายเป็นตัวเลขสูงสุดอันดับ 1 ในเอเชีย ศ.ดร.ศิริพร จิรวัฒน์กุล ได้ศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม โดยสำรวจหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีที่มารับบริการในโรงพยาบาลชุมชน หรือโรงพยาบาลศูนย์ใน 7 จังหวัด จำนวน 3,114 พบว่า แม่วัยใสส่วนใหญ่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกอายุ 15 ปีมากที่สุดและตั้งครรภ์ที่อายุน้อยที่สุด คือ 12 ปีแม่วัยใสส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมากที่สุด 12.5%ซึ่งการตั้งครรภ์ส่งผลให้แม่วัยใสต้องพักการเรียน/ไม่ได้เรียน 70.3% ส่วนใหญ่ไม่คุมกำเนิดในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก 33.9% ส่วนวิธีการคุมกำเนิดที่ใช้มากที่สุดคือถุงยางอนามัย 27.4%โดยภาคใต้ใช้ถุงยางอนามัยน้อยที่สุด รองลงมาคือ ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน 18.5%และพบว่าส่วนใหญ่ไม่ตั้งใจตั้งครรภ์ถึง 70%
ปัญหาโรคเอดส์ในวัยรุ่นก็เป็นอีกปัญหาที่น่าสนใจและน่าเป็นห่วง ราว 60,000 คนของประเทศ ที่กำลังติดเชื้อเอดส์มาจากพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์โดยขาดการป้องกันและเป็นสาเหตุการตายของวัยรุ่นในลำดับที่ 2 รองจากอุบัติเหตุ การตั้งครรภ์ก่อนวัยควรก็มีอุบัติการณ์มากในวัยรุ่นเช่นกัน
ดังนั้น ชมรม TO BE NUMBER ONEตำบลบาโงยซิแน ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บาโงยซิแน, องค์การบริหารส่วนตำบลบาโงยซิแน แกนนำชุมชน และชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านตำบลบาโงยซิแน ได้ตระหนักถึงอันตรายของปัญหายาเสพติด โรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 6-24 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง และเป็นกำลังสำคัญของชุมชนในอนาคต จึงได้ดำเนินการควบคุมและป้องกัน ตามนโยบายและแนวทางของจังหวัดยะลา มาโดยตลอด แต่ในทางปฏิบัติยังคงมีปัญหาอยู่มาก ทั้งด้านความจำกัดในทรัพยากร ลักษณะทางภูมิศาสตร์ วิธีการจัดการ การรับรู้และมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นผลให้การปัญหาดังกล่าว ไม่ได้ประสิทธิผลเป็นที่น่าพอใจ การแก้ไขต้องกระทำร่วมกัน ในภาพรวมพหุภาคี ทั้งภาครัฐ ประชาชน รวมทั้งภาคเอกชนควบคู่กันไป ที่สำคัญที่สุดให้ประชาชนและเยาวชนในชุมชนมีบทบาทอย่างเต็มที่ ในการป้องกันปัญหาของชุมชนเอง โดยยึดแนวดำเนินการตามโครงการTO BE NUMBER ONE มาเติมเต็มจึงได้จัดทำโครงการเยาวชนร่วมใจ ป้องภัยยาเสพติด โรคเอดส์และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ปี 2562 ขึ้น

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 ข้อที่ 1 เพื่อให้เยาวชนมีความรู้ในเรื่องยาเสพติด และการป้องกันยาเสพติด โรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์
  1. เยาวชนมีความรู้ในเรื่องยาเสพติด และการป้องกันยาเสพติด โรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ในระดับดี ร้อยละ 80
300.00 0.00
2 ข้อที่ 2 เพื่อสนับสนุนเยาวชน ให้จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ ต้านภัยยาเสพติดโดยการสนับสนุนของสังคม
  1. เยาวชน จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ ต้านภัยยาเสพติด จำนวน 2 กิจกรรม
  2. จัดนิทรรศการในศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE และพื้นที่ภาคีเครือข่าย จำนวน 1 ครั้ง
2.00 2.00
3 ข้อที่ 3 เพื่อให้เยาวชน 10 – 24 ปี ปลอดภัยจากยาเสพติด โรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์
  1. นักเรียนในโรงเรียนปลอดภัยจากยาเสพติด โรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ร้อยละ 100
3.00 3.00
4 ข้อที่ 4 เพื่อสร้างกระแส ค่านิยมและสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจในเยาวชน ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์

๑. เกิดการดำเนินงาน ชมรม TO BE NUMBER ONE ในโรงเรียนประถมศึกษา และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ร้อยละ 100

2.00 0.00
5 ข้อที่ 5 เพื่อให้แกนนำสาธารณสุข อสม. และประชาชนที่สนใจได้รับความรู้ และสามารถนำไปปฏิบัติช่วยเหลือผู้อื่นได้

ร้อยละ 70 ของแกนนำสาธารณสุข อสม. และประชาชนที่สนใจได้รับความรู้ และสามารถนำไปปฏิบัติช่วยเหลือผู้อื่นได้

0.00
stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม กลุ่มเป้าหมาย
(คน)
งบกิจกรรม
(บาท)
ทำแล้ว
 
ใช้จ่ายแล้ว
(บาท)
วันที่ กิจกรรม 300 120,000.00 0 0.00
1 พ.ค. 62 - 30 ก.ย. 62 1. จัดสร้างภูมิคุ้มกันแก่เยาวชน โดยการอบรมเชิงปฏิบัติการแก่เยาวชน และสมาชิก TO BE NUMBER ONE ชุมชนบาโงยซิแน 300 104,000.00 -
1 พ.ค. 62 - 30 ก.ย. 62 รณรงค์สร้างกระแส เพื่อให้ชุมชนเกิดความตระหนักในพิษภัยยาเสพติด โรคเอดส์และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ 0 16,000.00 -
  1. จัดอบรมเชิงปฏิบัติการแก่เยาวชน และสมาชิก TO BE NUMBER ONE ชุมชนบาโงยซิแน เพื่อให้สามารถนำความรู้ไปปฏิบัติ และถ่ายทอดให้แก่สมาชิกในโรงเรียน และชุมชน
     จัดทำเนื้อหาหลักสูตร เน้น ความรู้เรื่องยาเสพติด โรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และบทบาทหน้าที่ของสมาชิกชมรม TO BE NUMBER ONE
     ประสานวิทยากร และหากลุ่มเป้าหมายในการอบรม จำนวน 300 คน
     จัดเตรียมวัสดุการอบรม และเตรียมสถานที่
    ดำเนินการอบรมตามตารางอบรมจำนวน 2 รุ่นๆละ 2 วัน
     สรุปผลการอบรม
    ค่าใช้จ่าย
    -ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่่ม 25 บาท x 300 คน x 4 มื้อ เป็นเงิน 30,000 บาท
    -ค่าอาหารกลางวัน 70 บาท x 300 คน x 2 มื้อ เป็นเงิน 42,000 บาท
    -ค่าสมนาคุณวิทยากร ชั่วโมง 600 บาท x 20 ชม. เป็นเงิน 12,000 บาท
    -ค่าวัสดุในการอบรมและจัดกิจกรรมเป็นเงิน 20,000 บาท
    รวม 104,000 บาท
  2. จัดทำสื่อความรู้ ไวนิล แผ่นพับ โฟมบอร์ด ในเรื่อง การดำเนินกิจกรรมของ ชมรม TO BE NUMBER ONE ยาเสพติด. โรคเอดส์ การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  3. จัดทำนิทรรศการในศูนย์เพื่อนใจTO BE NUMBER ONEบริเวณชมรม งาน TO BE NUMBER ONEและในภาคีเครือข่าย เพื่อรณรงค์สร้างกระแส ในการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด โรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  4. การส่งเสริมให้เยาวชนออกกำลังกาย เพื่อลดความเสี่ยงในการไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยการเล่นกีฬาฟุตบอลในเยาวชนชายเล่นวอลเล่ยบอลในเยาวชนหญิง และการออกกำลังกายแอรโรบิค
  5. สนับสนุนกิจกรรม ชมรม TO BE NUMBER ONE ในสถานศึกษาในพื้นที่ และร่วมเป็นเครือข่ายในสถานประกอบการ โรงเรียน และชุมชนใกล้เคียง
  6. รณรงค์ และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ เรื่อง การป้องกันยาเสพติด โรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพื่อเสริมสร้างและสนับสนุนการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพของประชาชน ให้รู้จักการป้องกันตนเองให้ถูกวิธี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
  7. ตัวแทนเยาวชน TO BE NUMBER ONE ร่วมกิจกรรมประกวดชมรม TO BE NUMBER ONE ในระดับประเทศ ที่ จ.นนทบุรี เพื่อเป็นชมรม TO BE NUMBER ONE ดีเด่นต้นแบบระดับเงิน
    ค่าใช้จ่าย

- ค่าจัดทำ สื่อความรู้ไวนิลพร้อมขาตั้ง 2 ชุดๆละ 1,500 บาท เป็นเงิน 3,000 บาท
- ค่าวัสดุในการจัดนิทรรศการ เป็นเงิน 13,000 บาท
รวม 16,000 บาท
รวมงบประมาณทั้งสิ้น 120,000 บาท

stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
  1. เยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจ และร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการป้องกันปัญหายาเสพติด โรคเอดส์ การตั้งครรภ์ก่อนวัยควร และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในโรงเรียน และชุมชน
  2. ผู้นำชุมชนมีศักยภาพในการเป็นแกนนำต้านภัยยาเสพติดโรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในชุมชนได้
  3. ชุมชนมีความเข้มแข็งและปลอดจากยาเสพติด โรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์อย่างยั่งยืน
stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2562 13:20 น.