โครงการ 3 อ. 2 ส. ปลอดโรค
ชื่อโครงการ | โครงการ 3 อ. 2 ส. ปลอดโรค |
รหัสโครงการ | 62-L5205-1-01 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านแม่เปียะ |
วันที่อนุมัติ | 19 มีนาคม 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มีนาคม 2562 - 31 กรกฎาคม 2562 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 สิงหาคม 2562 |
งบประมาณ | 17,720.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายธีระศักดิ์ กั้งเหล้ง |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางสาวดวงดาว อุปสิทธิ์ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลคลองหรัง อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.924,100.591place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 60 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละของประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน | 80.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ด้วยสภาพสังคมและเศรษฐกิจปัจจุบัน รวมถึงปัจจัยต่างๆ ทั้งภายนอกและภายใน ได้เข้ามามีอิทธิพลต่อสภาพร่างกายและจิตใจของบุคคลเป็นอย่างมาก มีทั้งด้านบวกและด้านลบ ซึ่งบางครั้งปัจจัยเหล่านั้นก็เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว เช่น ความเครียด แต่หากเป็นพฤติกรรม เป็นสิ่งที่เรากระทำให้เกิดขึ้นกับตัวเอง เราสามารถรับรู้และเรียนรู้เพื่อกำหนดการกระทำนั้นได้ เช่น การออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร เป็นต้น จะต่างจากปัจจัยภายนอกบางปัจจัยที่เราไม่สามารถเป็นตัวหลักในการกำหนดสิ่งเหล่านั้นได้ เช่น รายได้ สภาพปัญหาครอบครัว เป็นภาวะที่เกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นๆ
โรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญปัญหาหนึ่งของประเทศ ในสภาพสังคมปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งเศรษฐกิจและสังคม ทำให้วิถีการดำเนินชีวิตของคนไทยเปลี่ยนแปลงไป ปัจจัยหนึ่งที่เห็นได้ชัด คือพฤติกรรมการบริโภคของประชาชนเปลี่ยนไป ความเร่งรีบ ทำให้โอกาสในการเลือกรับประทานที่มีประโยชน์น้อยลง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง เห็นได้จากผู้ป่วย ความดันโลหิตสูงมีเพิ่มขึ้นทุกปีและจะทำให้มีโอกาสที่จะป่วยด้วยโรคอื่นๆตามมา เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจเบาหวาน มะเร็ง เป็นต้น จากข้อมูลสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พบว่า อัตราการป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน ต่อประชากร 100,000 คนในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2556 – 2560) เพิ่มขึ้นจาก 12,342.14 (จำนวน 3,936,171 คน) เป็น 14,926.47 (จำนวน 5,597,671 คน) และจากข้อมูลศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขอัตราการป่วยรายใหม่ของโรคความดันโลหิตสูง ต่อประชากร 100,000 คน ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2558 – 2560) เพิ่มขึ้นจาก 916.89 (จำนวน 540,013 คน) เป็น 1,353.01 (จำนวน 813,485 คน) และนอกจากนี้รายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ปีพ.ศ. 2552 และ 2557 พบว่า ความชุกของโรคความดันโลหิตสูงในประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 21.4 (ชายร้อยละ 21.5 และหญิงร้อยละ 21.3) เป็นร้อยละ 24.7 (ผู้ชายร้อยละ 25.6 และผู้หญิงร้อยละ 23.9)
ตำบลคลองหรังมีบริบทที่เป็นแบบกึ่งเมืองกึ่งชนบท มีร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารจำนวนมาก ทำให้ประชาชนหันมาบริโภคอาหารจานด่วนกันมากขึ้น ไม่ได้ตระหนักถึงอันตราย ที่จะเกิดขึ้น และภาวะโรคของคนในชุมชนได้ หมู่ที่ ๓ บ้านคลองหรัง ประชากร 35 ปีขึ้นไปจำนวน 408 คน มีเสี่ยงป่วยความดันโลหิตสูง 45 ราย เบาหวาน 15 ราย จากพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม ทำให้ประชาชน เป็นโรคความดันโลหิตสูงโรคเบาหวาน และโรคเรื้อรังอื่นๆ เช่น โรคหอบหืด โรคไตวายเรื้อรัง และโรคเก๊าท์ เป็นต้น ดังนั้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านแม่เปียะ จึงได้จัดทำโครงการ “3 อ. 2 ส.ปลอดโรค” ขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคดังกล่าว อีกทั้งเป็นหนทางที่ปลอดภัยและประหยัดงบประมาณกว่าการรักษา โดยการเลือกรับประทานอาหาร งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ หากสามารถปฏิบัติได้สม่ำเสมอน่าจะช่วยให้ประชาชนมีสุขภาพดี ส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นตามไปด้วย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงมีความรู้เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานมากขึ้น ร้อยละ 80 กลุ่มเสี่ยงร้อยละ 80 มีความรู้เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานมากขึ้น จากการทำแบบทดสอบก่อนและหลังการให้ความรู้ |
48.00 | |
2 | เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายที่ถูกต้องเหมาะสมในการป้องกันโรค กลุ่มเสี่ยงร้อยละ 80 มีพฤติกรรมการรับประทานอาหารและออกกำลังกายที่ถูกต้องเหมาะสมในการป้องกันโรค |
80.00 | 48.00 |
3 | เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงเกิดความตระหนักถึงอันตรายของโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน กลุ่มเสี่ยงร้อยละ 80 เกิดความตระหนักถึงอันตรายของโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน |
48.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
คงเหลือ (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 10,538.00 | 7 | 4,385.00 | 6,153.00 | |
1 เม.ย. 62 | ประชุมชี้แจงคณะทำงาน | 0 | 375.00 | ✔ | 0.00 | 375.00 | |
8 เม.ย. 62 | ลงทะเบียน/ตรวจสุขภาพเบื้องต้น | 0 | 1.00 | ✔ | 4,385.00 | -4,384.00 | |
15 เม.ย. 62 | ปิงปอง 7 สี | 0 | 1,050.00 | ✔ | 0.00 | 1,050.00 | |
22 เม.ย. 62 | วิทยากรให้ความรู้เรื่องโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน โภชนาการที่เหมาะสมและส่งเสริมสุขภาพจิต | 0 | 2.00 | ✔ | 0.00 | 2.00 | |
22 เม.ย. 62 | อาหารกลางวัน | 0 | 3,750.00 | ✔ | 0.00 | 3,750.00 | |
6 พ.ค. 62 | โภชนาการในบ้านฉัน | 0 | 560.00 | ✔ | 0.00 | 560.00 | |
13 พ.ค. 62 | พืชลดโรค | 0 | 4,800.00 | ✔ | 0.00 | 4,800.00 | |
รวมทั้งสิ้น | 0 | 10,538.00 | 7 | 4,385.00 | 6,153.00 |
- กลุ่มเสี่ยงมีความรู้เพิ่มมากขึ้นหลังการอบรม
- กลุ่มเสี่ยงมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายที่ถูกต้องเหมาะสมในการป้องกันโรค
- กลุ่มเสี่ยงสามารถปรุงอาหารได้เหมาะสม
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2562 10:24 น.