โครงการวัคซีน เพื่อลูกรัก ปี 2560
| ชื่อโครงการ | โครงการวัคซีน เพื่อลูกรัก ปี 2560 |
| รหัสโครงการ | 60-L4135-1-13 |
| ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
| หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
| ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.บ้านบุดี |
| วันที่อนุมัติ | 22 มีนาคม 2560 |
| ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 เมษายน 2560 - 31 ธันวาคม 2560 |
| กำหนดวันส่งรายงาน | 30 พฤศจิกายน 2560 |
| งบประมาณ | 8,750.00 บาท |
| ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางอาอิชะห์ โต๊ะกูบาฮา |
| พี่เลี้ยงโครงการ | สุชาดา สุวรรณคีรี |
| พื้นที่ดำเนินการ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านบุดี ตำบลบุดี อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา |
| ละติจูด-ลองจิจูด | 6.487,101.305place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
| กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
|---|---|---|
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
| กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : |
||
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
| สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
|---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ที่ผ่านมานั้นสถานการณ์ของโรคติดต่อที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนในประเทศไทยโดยเฉพาะโรคที่สำคัญ เช่น โรคไวรัสตับอักเสบบี วัณโรค และโรคคอตีบนั้น จากการรณรงค์โรคไวรัสตับอักเสบบี 2556 พบผู้มารับบริการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบีโดยกรมควบคุมโรคร่วมกับโรงพยาบาลให้ผลบวกจากการตรวจคัดกรองฯ เท่ากับ 1,273ราย ตั้งแต่ พ.ศ.2554 - 2556 พบผู้ป่วยโดยประมาณ 6,000 รายต่อปี ในขณะที่พบผู้ป่วยวัณโรคใหม่เสมหะพบเชื้อ โดยเฉลี่ยประมาณ 30,000 ราย นอกจากนี้ยังพบว่า สถานการณ์โรคคอตีบในปี 2554 - 2556 ยังพบผู้ป่วย 28, 63 และ 29 รายต่อปี ตามลำดับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโรคเหล่านี้เป็นโรคที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและอาจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตได้ แม้ว่าทางกระทรวงสาธารณสุขจะมีการสนับสนุนวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าวในเด็กแล้วก็ตาม
ดังนั้นเพื่อเสริมสร้างให้เด็กมีสุขภาพที่แข็งแรงมีภูมิคุ้มกันโรคที่ดี กระทรวงสาธารณสุขได้เล็งเห็นความสำคัญของการป้องกันควบคุมโรคด้วยวัคซีน จึงริเริ่มแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคตั้งแต่ปีพ.ศ.2520 จากระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาปรับปรุงและขยายแผนงาน จนกระทั่งปัจจุบันมีวัคซีนที่เด็กควรได้รับจำนวน 8 ชนิด สำหรับป้องกันโรคทั้งหมด 10 โรค ได้แก่ วัคซีนป้องกันวัณโรค ตับอักเสบบี คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ หัด หัดเยอรมัน คางทูม และไข้สมองอักเสบเจอีโดยวัคซีนบางชนิดต้องได้รับมากกว่า 1 ครั้ง จึงจะสามารถป้องกันโรคได้ นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขโดยการสนับสนุนของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้จัดให้มีบริการวัคซีนแก่เด็กแรกเกิดอย่างต่อเนื่องไปจนถึงวัยเรียน ซึ่งเด็กทุกคนควรได้รับวัคซีนอย่างน้อยตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งทางกระทรวงฯ ได้บริการให้ฟรี โดยเด็กทุกคนสามารถรับวัคซีนเหล่านี้ได้จากสถานพยาบาลของรัฐ หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง และควรรับวัคซีนให้ครบทุกช่วงอายุ
ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านบุดีตำบลบุดี อำเภอเมือง จังหวัดยะลาได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในเด็ก ๐ – ๕ปีจึงได้จัดทำโครงการโครงการวัคซีนเพื่อลูกรัก 2560
| วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
|---|---|---|---|
| 1 | เพื่อให้ความรู้ในเรื่องการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคแก่ผู้ปกครองเด็ก ๐ - ๕ ปี
|
||
| 2 | เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้ผู้ปกครองเด็ก ๐ - ๕ ปีพาบุตรหลานมารับวัคซีนตามกำหนด
|
||
| 3 | เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองเด็ก ๐ - ๕ ปีในกิจกรรมงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค
|
| รวมทั้งสิ้น | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | 0.00 |
๑. สำรวจข้อมูลเด็ก ๐ - ๕ปีในเขตรับผิดชอบทั้งหมด ๒. จัดทำ/ปรับปรุงทะเบียนสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในเด็ก ๐ - ๕ปี และสรุปข้อมูลเด็กที่ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ ๓. ประชุมชี้แจงโครงการร่วมกับองค์กรในชุมชน เช่น อสม. ผู้นำศาสนาและผู้นำชุมชน ๔. จัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเด็ก ๐ - ๕ปีณห้องประชุมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านบุดี 5. เจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้ อสม.ติดตามเยี่ยมบ้านเด็กที่ไม่มารับวัคซีนตามเกณฑ์ทุกเดือน 6. เจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกปฏิบัติงานเชิงรุก โดยออกฉีดวัคซีนตามบ้านในรายที่ผู้ปกครองไม่ สามารถพาลูกมาฉีดวัคซีนตามกำหนดได้ 7. ให้ของสมนาคุณแก่ผู้ปกครองเด็กที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์
เด็กอายุ ๐ - ๕ปี ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์อายุร้อยละ 95
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2560 11:06 น.