โครงการเปลี่ยนพฤติกรรมเปลี่ยนชีวิตพิชิตโรค ปี 2562
ชื่อโครงการ | โครงการเปลี่ยนพฤติกรรมเปลี่ยนชีวิตพิชิตโรค ปี 2562 |
รหัสโครงการ | 62-L1475-01-21 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.นาข้าวเสีย |
วันที่อนุมัติ | 25 มีนาคม 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 14 สิงหาคม 2562 - 15 สิงหาคม 2562 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2562 |
งบประมาณ | 46,450.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายพงษ์ศักดิ์ เชาวน์วุฒิกุล |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางวลัยภรณ์ เยาดำ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลนาข้าวเสีย อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.532,99.71place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจหลอดเลือดสมอง มะเร็ง ฯลฯเป็นภัยเงียบที่ส่งผลกระทบทำให้เกิดภาวะโรคแทรกซ้อน ทำให้เกิดความพิการและตายก่อนวัยอันควร การเกิดโรคมีสาเหตุจากหลายปัจจัยเสี่ยงที่มาจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม ขาดการออกกำลังกาย และนำไปสู่การเจ็บป่วยแทรกซ้อนที่สำคัญ อาทิ โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคไตวายเรื้อรัง (CKD) โรคหัวใจและหลอดเลือด (CVD) แผลเรื้อรัง การถูกตัดขา ตัดนิ้ว เป็นต้น ความเจ็บป่วยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยตลอดจนค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขโดยรวม ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นอย่างมาก องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่านอกจากการบริการทางคลินิกแล้ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพมีความสำคัญและจำเป็นในการแก้ไขปัญหาโรคไม่ติดต่อดังกล่าวซึ่งการบริการสุขภาพภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานที่จำเป็น รวมทั้งการบริการสุขภาพเพื่อป้องกันและควบคุมโรคเป็นสำคัญ โดยเฉพาะโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ถือเป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น กรรมพันธุ์ อายุ และปัจจัยที่สามารถควบคุมได้ เช่น ความอ้วน ความเครียด การออกกำลังกาย พฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสม การดื่มสุรา และการสูบบุหรี่ ซึ่งหากประชาชนไม่สามารถควบคุมปัจจัยดังกล่าว ร่วมกับการมีอายุที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่อายุ 35 ปีขึ้นไปย่อมมีโอกาสเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง และต้องได้รับการรักษาด้วยการรับประทานยาตลอดชีวิต อีกทั้งหากมีพฤติกรรมสุขภาพไม่เหมาะสมมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา ส่งผลให้สูญเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น จากผลการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูงในกลุ่มประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป ในปี 2561 ของหมู่บ้านในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาข้าวเสียคือหมู่ที่ 1,2,3,4,10 จำนวน 232 ราย คิดเป็นร้อยละ 5.94 และกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน จำนวน 117 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.40 จากสถานการณ์ปัญหาดังกล่าว โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาข้าวเสีย ตำบลนาข้าวเสีย อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ได้ตระหนักถึงความสำคัญของภาวะสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมวัยทำงาน ลดเสี่ยงโรคเรื้อรังขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริม กระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายวัยทำงาน ตระหนัก รับรู้ถึงความสำคัญในการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้น เป็นบุคคลที่มีสุขภาพดีและคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1 เพื่อให้ประชาชนกลุ่มสงสัยเป็นผู้ป่วยรายใหม่ ได้รับความรู้เพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเข้มข้น 2.เพื่อให้ประชาชนกลุ่มสงสัยเป็นผู้ป่วยรายใหม่ สามารถวัดความดันโลหิตได้ด้วยตนเอง 3.เพื่อให้ประชาชนกลุ่มสงสัยเป็นผู้ป่วยรายใหม่ ได้รับการติดตามความก้าวหน้า
|
1.00 |
1.คัดกรองประชากรที่โรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานเพื่อค้นหากลุ่มเสี่ยง
2.แจ้งกลุ่มเป้าหมายที่ความสนใจเข้ารับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเข้มข้น 100 คน
3.จัดเตรียมเครื่องวัดความดันโลหิต และไวนิลการตรวจและวัดความดันโลหิตด้วยตนเองครบทั้ง 5หมู่บ้าน
4.จัดเตรียมเครื่องวัดความดันโลหิต เครื่องเจาะน้ำตาลในเลือด และไวนิลการตรวจและวัดความดันโลหิตด้วยตนเองไว้ที่ รพ.สต.นาข้าวเสีย 1 จุด
5.ประสานวิทยากร
6.จัดเตรียมเอกสารสำหรับการอบรม
7.อบรมกลุ่มเป้าหมาย 100 คน
8.ติดตามผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยการตรวจวัดความดันโลหิต และเจาะน้ำตาลปลายนิ้ว (แบบงดอาหาร)
9.สรุปผลการดำเนินงาน
1 เพื่อให้ประชาชนกลุ่มสงสัยเป็นผู้ป่วยรายใหม่ ได้รับความรู้เพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมากกว่าร้อยละ50
2.เพื่อให้ประชาชนกลุ่มสงสัยเป็นผู้ป่วยรายใหม่ สามารถวัดความดันโลหิตได้ด้วยตนเองถูกต้อง และสามารถทราบถึงอาการและระดับความดันโลหิตที่ต้องมาก่อนนัด
3.เพื่อให้ประชาชนกลุ่มสงสัยเป็นผู้ป่วยรายใหม่ ได้รับการติดตามความก้าวหน้า อย่างน้อย1 ครั้ง เพื่อประเมินแนวโน้มการควบคุมโรค
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2562 12:48 น.