การควบคุมป้องกันโรคมะเร็ง
ชื่อโครงการ | การควบคุมป้องกันโรคมะเร็ง |
รหัสโครงการ | 62-L1513-02-032 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หมู่ที่ 8 บ้านอ้ายเต็ง |
วันที่อนุมัติ | 22 พฤษภาคม 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มิถุนายน 2562 - 30 มิถุนายน 2562 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 29 กรกฎาคม 2562 |
งบประมาณ | 5,040.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางวรรณี เอี่ยมอักษร |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลควนเมา อำเภอรัษฏา จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.938,99.596place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 60 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละของประชาชนที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งทุกระบบ | 19.05 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
มะเร็งเป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศต่างๆทั่วโรค ในประเทศที่พัฒนาแล้วอัตราการเป็นมะเร็งสูงกว่าประเทศกำลังพัฒนาองค์การอนามัยโลกได้ประมาณ อัตราการเพิ่มขึ้นของโรคมะเร็งในอนาคตอีก 20 ปีข้างหน้าจะเพิ่มเป็น 2 เท่าของปัจจุบัน
ปัจจุบันในประเทศไทยแต่ละปีจะพบผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ประมาณ 10,000 ราย และเสียชีวิตจากการเป็นมะเร็งปากมดลูก 5,000 ราย อัตราการเสียชีวิตของสตรีไทยเพิ่มขึ้นจาก 7 คน/วัน เป็น 14 คน/วัน สถิติจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะมาพบแพทย์เมื่อระยะของโรคมะเร็งนั้นได้เข้าสู่ในระยะลุกลามแล้ว การรักษาจึงเป็นไปได้ยาก ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูง ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ก่อให้เกิดปัญหาด้านสังคม และครอบครัวตามมาอย่างมากมายแต่จะสามารถป้องกันและรักษาให้หายขาดได้ถ้าพบผู้ป่วยโรคมะเร็งในระยะเริ่มแรก ร้อยละ 30-40 สามารถป้องกันได้ด้วยการลดพฤติกรรมเสี่ยง และหากได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งที่เหมาะสมจะสามารถป้องกันและได้รับการรักษาได้ทันท่วงที และอาจลดการตรวจลงเหลือเพียงตรวจทุก 2-3 ปี เมื่อผลตรวจคัดกรองปกติทุกครั้ง 3 ครั้ง/3 ปีติดต่อกัน ดังนั้น ถ้าสามารถกระตุ้นให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้มีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับโรคดังกล่าว พร้อมทั้งตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของการตรวจค้นหาโรคมะเร็งปากมดลูกและโรคมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มแรกก็จะทำให้อัตราการเกิดโรค อัตราการป่วยและอัตราการตายจากโรคมะเร็งลดลง
จากสาเหตุการตายสูงสุดในพื้นที่ตำบลควนเมา พบว่า สาเหตุการตายสูงสุดในปี พ.ศ.2561 คือ โรคมะเร็งทุกระบบ จำนวน 4 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก ปี พ.ศ.2560 จำนวน 4 ราย และยังพบว่ามีจำนวนการเสียชีวิตเท่ากับ ปี พ.ศ.2559 อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หมู่ที่ 8 บ้านอ้ายเต็ง ตำบลควนเมา อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ จึงได้จัดทำโครงการ “การควบคุมป้องกันโรคมะเร็ง” เพื่อให้แกนนำสุขภาพครอบครัวมีความรู้ในการป้องกันโรคมะเร็ง และมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อป้องกันการเกิดโรค
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้แกนนำสุขภาพครอบครัวมีความรู้ ในการป้องกันโรคมะเร็ง ร้อยละ 80 ของแกนนำสุขภาพครอบครัวมีความรู้ ในการป้องกันโรคมะเร็ง |
80.00 | |
2 | เพื่อให้ประชาชนมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อป้องกันการเกิดโรค ร้อยละ 90 ของประชาชนมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อป้องกันการเกิดโรค |
90.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 5,040.00 | 0 | 0.00 | |
4 มิ.ย. 62 | อบรมให้ความรู้ | 0 | 5,040.00 | - |
- ขั้นเตรียมการ 1.1 ประชุมคณะทำงานเพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินงาน 1.2 จัดทำและเสนออนุมัติโครงการ 1.3 ประสานกับหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง
- ขั้นดำเนินการ 2.1 อบรมให้ความรู้เรื่องโรคมะเร็ง การป้องกันโรค แก่แกนนำสุขภาพครอบครัว จำนวน 60 คน 2.2 คัดกรองโรคมะเร็งในประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป 2.3 กิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรค
- ขั้นสรุปโครงการ 3.1 สรุปผลโครงการ 3.2 จัดทำรายงานสรุปผลโครงการ
- แกนนำสุขภาพครอบครัวมีความรู้ในการป้องกันโรคมะเร็ง
- ประชาชนมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อป้องกันการเกิดโรค
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2562 14:19 น.