โครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน
ชื่อโครงการ | โครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน |
รหัสโครงการ | 60L33542001 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรม อสม.บ้านไพ |
วันที่อนุมัติ | 22 มีนาคม 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2560 - 30 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 28,250.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายไพโรจน์อินฉ่ำ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลท่าแค อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.545,100.05place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มวัยทำงาน | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ยาเสพติด ปัญหาสำคัญระดับชาติที่รัฐบาลถือเป็นนโยบายที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจัง ทั้งนี้เพราะปัญหายาเสพติดที่มีการแพร่ระบาดในทุกพื้นทีของประเทศไทยได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งด้านการเมืองและความมั่นคงของประเทศ ตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมาสภาพปัญหาสาเสพติดเปลี่ยนแปลงไปจากที่เป็นอยู่ในอดีตอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่ เฮโรอีน เป็นปัญหาสำคัญฐที่ตำรวจต้องเร่งปราบปรามให้สิ้นซาก กลายเป็น ยาบ้า หรือสารเมทแอมเฟตามีน ที่กำลังระบาดตั้งแต่ระดับครอบครัว โรงเรียน ชุมชน สังคม และประเทศ จากข้อมูลการสำรวจพบว่ามีเยาวชนจำนวนกว่า 6 แสนคน หลงเข้าสู่วังวนของ ยาบ้า และจากสถิตินักโทษเด็ดขาด ของกรมราชทัณฑ์ที่ถูกจำคุกอยุ่ตามทัณฑสถานทั่วประเทศสำรวจ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2543 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 137,344 คน ในจำนวนนี้เป็นนักโทษคดียาเสพติดเกินกว่าครึ่ง คือประมาณ 87,966 คน คิดเป็นร้อยละ 64.05 และในจำนวนนักโทษเด็ดขาด คดียาเสพติดเหล่านี้มีจำนวนมากถึง 27,499 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 31.26 ของนักโทษคดียาเสพติดที่ต้องโทษในคดีเสพหรือครอบครองและทั้งเสพและครอบครอง ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงมีความห่วงใยต่อประชาชนชาวไทยเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน อายุระหว่าง 6-25 ปี จำนวน 21 ล้านคน ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง จึงทรงรับเป็นองค์ประธานโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้การรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภายในประเทศดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทะิภาพ โดยความร่วมมือและรวมพลังจากภาครัฐและเอกชน กระตุ้นและปลุกจิตสำนึกของปวงชนในชาติให้มีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักว่าการที่จะเอาชนะปัญหายาเสพติดมิใช่หน้าที่ของบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่ทุกคนในชาติจะร่วมแรงร่วมใจกันเป็นพลังของแผ่นดินที่จะต่อสู้และเอาชนะปัญหายาเสพติดให้ได้โดยเร้ว ชมรมอาสาม
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อรณรงค์ปลูกจิตสำนึกและสร้างกระแสนิยมที่เอื้อต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประชาชนมีจิตสัมนึกในการป้องกันยาเสพติด |
||
2 | เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้แก่เยาวชนในชุมชน ประชาชนมีภูมิคุ้มกันทางจิตใจ |
||
3 | เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและเครือข่ายการป้องกันและช่วยเหลือ
|
||
4 | เพื่อจัดตั้งชมรม ทู บี นัมเบอร์วัน ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน มีชมรมทูบีนัมเบอร์วัน |
1.ประชุมผู้นำชุมชน แกนนำหมู่บ้าน อสม. เพือจัดทำโครงการ 2.จัดทำโครงการเพื่อเสนอของบประมาณจากกองทุนฯ ทต.ท่าแค 3.ประชุมผู้นำชุมชน อสม. ผู้นำท้องถิ่น จนท.สาธารณสุข เพื่อวางแผนการดำเนินงานร่วมกัน 4.ดำเนินกิจกรรมตามโครงการ 4.1ประชาสัมพันธ์โครงการในที่ประชุมประจำหมู่บ้าน 4.2ประชุมชี้แจงโครงการและแนวทางดำเนินโครงการแก่ประชาชนทุกครัวเรือน 4.3รับสมัครสมาชิกชมรมทูบีนัมเบอร์วัน 4.4จัดประชุมสมาชิกชมรมฯ เพื่อคัดเลือกคณะกรรมการชมรมทูบีนัมเบอร์วัน ทุกหมู่บ้าน จำนวน 6หมู่ 4.5จัดอบรมให้ความรู้เรื่องยาเสพติดแก่สมาชิกชมรม 4.6จัดทำป้ายไวนิลรณรงค์ป้องกันยาเสพติด 4.7จัดกิจกรรมให้ความรู้เรื่องยาเสพติดแก่ประชาชนทั่วไปและร่วมรณงค์ป้องกันยาเสพติดในชุมชน
1.ประชาชนมีความรู้และตระหนักในการป้องกันยาเสพติด 2.ภาคีเครือข่ายให้ความร่วมมือในการป้องกันยาเสพติด 3.มีชมรมทูบีนัมเบอร์วันครอบคลุมทุกหมู่บ้าน 4.ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ตำบลท่าแตลดลง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2560 15:50 น.