โครงการสร้างสุขภาพ เพื่อรู้จักดูแลตนเอง ให้กินถูกโรค ออกกำลังถูกใจ ลดการกินยา ห่างไกลโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
ชื่อโครงการ | โครงการสร้างสุขภาพ เพื่อรู้จักดูแลตนเอง ให้กินถูกโรค ออกกำลังถูกใจ ลดการกินยา ห่างไกลโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง |
รหัสโครงการ | 60-L5311-1-02 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลน้ำผุด |
วันที่อนุมัติ | 7 เมษายน 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤษภาคม 2560 - 30 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 33,400.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสุนันทา จุงศิริ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลน้ำผุด อำเภอละงู จังหวัดสตูล |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.973,99.85place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 135 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบันโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขต้องสูญเสียงบประมาณในการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และปัญหาภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานอย่างต่อเนื่อง จากการศึกษาข้อมูลสถิติในปี 2550 พบว่า ผู้ป่วยเบาหวานทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น 4ใน 5 เป็นชาวเอเชีย และจากรายงานของสำนักงานนโยบายและสาธารณสุข(ปี2542-2552) พบว่าสาเหตุการตายด้วยโรคเบาหวานมีอัตราเฉลี่ยร้อยละ 12 จากการศึกษาประเมินผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่มารับบริการที่คลินิกเบาหวานความดันของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพช่วงปี2557 2558 และ 2559 พบว่าผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูงขาดความรู้ในการดูแลตนเอง ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้คงที่ ไม่เคยได้รับการตรวจเท้าไม่รู้ว่าทำไมต้องตรวจเลือดไม่รู้วิธีการดูแลสุขภาพตนเองขาดความตระหนักในเรื่องการดูแลสุขภาพด้วยตนเองมีพฤติกรรมการดูแลตนเองไม่เหมาะสมทั้งเรื่องการรับประทานอาหาร การกินยาการออกกำลังกาย การดูแลระดับน้ำตาลในเลือดการดูแลเท้าในผู้ป่วยเบาหวาน ว่ามีความสำคัญอย่างไรนั้นแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนและเกิดผลกระทบจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเพิ่มมากขึ้นทุกปี จากการทดสอบความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพทั้งด้านการรับประทานอาหารและยา ในผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูงพบว่าผู้ป่วยยังขาดความรู้จึงส่งผลให้ผู้ป่วยไม่สามารถดูแลสุขภาพด้วยตนเองได้ดีดังนั้นโครงการนี้จึงมีความสำคัญในการเตรียมผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ทั้งเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ให้สามารถนำความรู้ที่ได้รับการอบรมจากสหวิชาชีพ ทั้งแพทย์ พยาบาล เภสัชกร นักสุขศึกษาและโภชนากรโดยเน้นให้ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ให้สามารถดูแลสุขภาพได้อย่างถูกวิธีแบบพึ่งพาตนเอง ไม่ต้องพึ่งยามากเกินความจำเป็น ให้เป็นแบบยั่งยืนและนำไปพัฒนางานให้เกิดรูปแบบการดูแลผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังแบบครบวงจร ส่งเสริมให้ทีมงานสหวิชาชีพมีความสามารถในการดูแลผู้ป่วยได้อย่างเป็นระบบและเป็นต้นแบบที่มีประสิทธิภาพทั้งช่วยส่งเสริมการพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลน้ำผุด
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ๑.ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้รับความรู้ในเรื่องการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง ทั้งความรู้เรื่องโรคการตรวจสุขภาพด้วยตนเอง การรับประทานอาหาร การรับประทานยา การออกกำลังกาย การตรวจเท้าและการดูแลเท้า ๑. ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง มีความรู้ในเรื่องการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง ทั้งความรู้เรื่องโรคการตรวจสุขภาพด้วยตนเองการรับประทานอาหาร การรับประทานยา การออกกำลังกาย การตรวจเท้าและการดูแลเท้ามากกว่าร้อยละ80 |
||
2 | ๑.ผู้ป่วยสามารถนำความรู้หลังการเข้ากลุ่มอบรมให้ความรู้มาดูแลสุขภาพด้วยตนเอง โดยได้คะแนนหลังประเมินความรู้ที่ได้รับ ๑.ผู้ป่วยสามารถนำความรู้หลังการเข้ากลุ่มอบรมให้ความรู้มาดูแลสุขภาพด้วยตนเอง โดยได้คะแนนหลังประเมินความรู้ที่ได้รับมากกว่าร้อยละ 80 |
๑. เสนอแผนงานโครงการเพื่อให้คณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพ อบต.น้ำผุดพิจารณา
๒.ทบทวนความรู้ และหาแนวทางพัฒนาระบบการให้ความรู้ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเบาหวาน ความดัน
โลหิตสูงร่วมกับทีมงานสหวิชาชีพ
๓. ประชุม จัดทำเนื้อหาวิชาการและตารางการให้ความรู้ตามขอบเขต และวิธีการที่เหมาะสมเพื่อนำมาใช้
ประกอบบรรยายและสาธิต สอนให้ความรู้ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
๔. ประเมินความรู้ของผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเบาหวาน ความดันโลหิตสูงก่อนเข้ากลุ่มรับการอบรมเรื่องการ
ดูแลสุขภาพด้วยตนเอง เพื่อปรับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของตนเอง
๕.กำหนดวันเข้ากลุ่มให้ความรู้เรื่องต่างๆร่วมกับทีมงานสหวิชาชีพ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
๖.ให้ความรู้โดยการสาธิตและบรรยายพร้อมทดลองปฏิบัติโดยการใช้อุปกรณ์เครื่องมือในการสอนให้
ความรู้และการตรวจสุขภาพในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเบาหวาน ความดันโลหิตสูง สามารถดูแลสุขภาพแบบพึ่งพาตนเองได้
๗.หลังสิ้นสุดการให้ความรู้ มีการติดตามผลโดยนัดผู้ป่วยมาทบทวนความรู้ในครั้งต่อไปเพื่อประเมินผล
ความรู้หลังได้รับจากการเข้ากลุ่มอบรมการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง
๘. มีการทบทวนความรู้ โดยการทำแบบประเมินความรู้อย่างน้อย2 ครั้งต่อปี โดยการสอบถามความ
เข้าใจ และทำแบบประเมินทบทวนความรู้
๑. ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเบาหวาน ความดันโลหิตสูงมีความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง ทั้งความรู้เรื่องโรคการตรวจสุขภาพด้วยตนเอง การรับประทานอาหาร การรับประทานยา การออกกำลังกาย การตรวจเท้าและการดูแลเท้าได้ถูกต้องปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น
๒. ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเบาหวาน ความดันโลหิตสูง สามารถนำความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง ทั้งความรู้เรื่องโรคการตรวจสุขภาพด้วยตนเอง การรับประทานอาหาร การรับประทานยา การออกกำลังกาย การตรวจเท้าและการดูแลเท้า มาใช้ดูแลสุขภาพด้วยตนเองได้ถูกต้องเหมาะสม
๓. เป็นแนวทางในการการพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในหน่วยงานต่างๆ
๔. เป็นแนวทางในการพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพในผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ให้ได้มาตรฐานตามตัวชี้วัด
๕. ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ตระหนักเรื่องการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง หลังได้รับความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพด้วยตนเองแบบครบวงจร
๖. ผู้ป่วยสามารถปรับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ และสามารถใช้ยาได้ถูกต้องปลอดภัย
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2560 16:03 น.