กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการเยาวชนรุ่นใหม่ห่างไกลบุหรี่และยาเสพติด ด้วยกระแส TO BE NUMBER ONE ปี 2563
รหัสโครงการ 63-L4147-02-01
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ กลุ่มหรือองค์กรประชาชน
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ ชมรม TO BE NUMBER ONE ตำบลบาโงยซิแน
วันที่อนุมัติ 28 กุมภาพันธ์ 2563
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 มีนาคม 2563 - 30 กันยายน 2563
กำหนดวันส่งรายงาน 30 ตุลาคม 2563
งบประมาณ 120,000.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นายอะนัส สูแป
พี่เลี้ยงโครงการ
พื้นที่ดำเนินการ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
ละติจูด-ลองจิจูด place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานยาสูบ , แผนงานสุรา , แผนงานสิ่งเสพติด , แผนงานเด็ก เยาวชน ครอบครัว
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน 2100 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน :

กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด
1 ร้อยละของเด็กและเยาวชน(อายุไม่เกิน 25 ปี) ที่สูบบุหรี่
25.00
2 จำนวนผู้สูบบุหรี่รายใหม่ในกลุ่มเด็ก-เยาวชนที่มีอายุไม่เกิน 25 ปี (คน)
100.00
3 ร้อยละของผู้ได้รับควันบุหรี่มือสองที่บ้าน
55.00
4 จำนวนเหตุการณ์ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหายาเสพติดในชุมชน เช่น การเกิดอาชญากรรม การเกิดลักเล็กขโมยน้อย(ครั้ง)
7.00
5 เยาวชนขาดความติดรู้ ความตระหนัก ถึงโทษของยาเสพ
50.00

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีทรงมีพระดำริให้มีโครงการ TO BE NUMBER ONE ในสถานศึกษาทั่วประเทศ และหน่วยงาน องค์กร ชุมชนต่าง ๆ ตามพระปณิธาน "ทุกคนเป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด" โดยมีการดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์ ปรับทุกข์ สร้างสุข แก้ปัญหา และพัฒนา EQ จนเป็นที่สนใจในกลุ่มเยาวชน ทำให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างมาร่วมกิจกรรมอันเปิดโอกาสให้ กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก ซึ่งทำให้เยาวชนที่มีความสามารถในด้านต่าง ๆ ได้พัฒนาความสามารถในด้านที่ตนถนัดด้วยกิจกรรมต่างๆ ทั้งทางด้านกีฬา ดนตรี และการช่วยเหลือสังคม ประกอบกับปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด โรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์อันไม่พึงประสงค์ ในปัจจุบันมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะในเขตชุมชน รวมทั้งพื้นที่ที่มีสถานบริการ และแหล่งมั่วสุม อบายมุขต่างๆ เช่น อินเตอร์เน็ต ร้านเกมส์ เป็นต้น โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 6 - 24 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีลักษณะสำคัญ 3 ประการ คือ มีพัฒนาการทางร่างกาย ด้านจิตใจและมีการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือมีสิทธิทางกฎหมายในเรื่องต่างๆ วัยรุ่นเป็นวัยอยากรู้ อยากเห็น และอยากทดลอง ต้องการการยอมรับจากเพื่อน จึงเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในเรื่องความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยาเสพติด การรู้โทษที่ร้ายแรงของสิ่งเสพติด โรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การท้องไม่พร้อม เพื่อจะได้รู้จักการหลีกเลี่ยงจากปัญหาดังกล่าว

จากรายงานสถานการณ์ปัญหายาเสพติด สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวว่า จากข้อมูลสถิติปี พ.ศ. 2559 สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ประมาณตัวเลขของผู้ที่มีพฤติการณ์เกี่ยวกับยาเสพติดไว้ที่ 1.2 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนประชากรของคนไทยที่มีประมาณ 65 ล้านคน ถือเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.93 พูดได้ว่าในจำนวนประชากรทุกๆ 100 คน จะมีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดถึง 3 คน และ จากข้อมูลการเข้าบำบัดรักษาของประชาชนตำบลบาโงยซิแน พบว่า ปี 2555 มีผู้เข้ารับการบำบัด 29 ราย ปี 2556 มีผู้เข้ารับการบำบัด 30 ราย ปี 2557 มีผู้เข้ารับการบำบัด 1 ราย ปี 2558 มีผู้เข้ารับการบำบัด 15 ราย ปี 2559 มีผู้เข้ารับการบำบัด 2 ราย ปี 2560 ไม่มีผู้เข้าบำบัด ปี 2561 มีผู้เข้าบำบัด 6 ราย และปี 2562 มีผู้เข้าบำบัด 6 ราย แต่ยังมีเยาวชนเป็นจำนวนมาก ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง อยากรู้ อยากลอง โดยการสูบบุหรี่เป็นการเริ่มต้น และข้ามไปหายาเสพติดต่อไป จึงจำเป็นจะต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้มากขึ้น เพื่อป้องกันมิให้เยาวชนกลุ่มเสพ ไปมั่วสุมกลับไปมีพฤติกรรมซ้ำ สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข และกลุ่มเสี่ยง เลิกยุ่งจากยาเสพติด และจากการทำเวทีประชาคม ประชาชนได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นลำดับต้นๆ โดยเฉพาะการป้องกันในกลุ่มเยาวชน ซึ่งจะเป็นกำลังของชาติในอนาคต ในการป้องกันการเริ่มต้นการติดยาเสพติดมักมาจากการสูบบุหรี่ก่อน แล้วพัฒนา ไปใช้ยาเสพติดอื่น เนื่องจาก ประชาชนขาดโอกาสในการศึกษาเป็นจำนวนมากและขาดความรู้ความเข้าใจในโทษของบุหรี่ อย่างลึกซึ้ง

ในปัจุบัน ตำบลบาโงยซิแน มีประชากรที่สูบบุหรี่จำนวนมาก มีผู้สูบบุหรีที่เป็นเพศชายและเพศหญิง อีกทั่งยังมีกลุ่มเด็กและเยาวชนที่เสพติดการสูบบหรี่ บุหรี่มีโทษมากมายหลายอย่างโดยเฉพาะโทษต่อตัวเองและคนรอบข้างด้านสุขภาพ ซึ้งทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนจากการสูบบุหรี่ตามมา และจากการสำรวจหาข้อมูลมีคนในหมู่บ้านที่มีโรคทางเดินหายใจจากผลที่เกิดจากสูบบุหรี่ บุหรี่เป็นสิ่งอันตรายต่อสูขภาพต่อผู้ที่สูบบุหรี่และคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่โดยตรง หรือทางอ้อมจากการได้รับควันบุหรี่มือสองและภัยอันตรายจากควันบุหรี่มือสาม และสารพิษที่ได้รับจากบุหรี่ อาจทำให้ทำร้ายสูขภาพต่อระบบต่างๆ เช่น ส่งผลต่อระบบประสาท ระบบทางเดินหายใจ และระบบการไหลเวียนเลือด ชมรม TO BE NUMBER ONE ได้ศึกษาค้นหาข้อมูล และได้ให้ความสำศัญต่อภัยอันตรายของบุหรี่ ซึ่งจะนำความรู้ให้สู่หมู่บ้านกับเด็กและเยาวชนได้มีความรู้เรื่องโทษของบุหรี่ ที่ถูกต้อง และหลี่กเลี่ยงการสูบบุหรี่อันจะนำไปสู่สิ่งเสพติดอื่นๆ ต่อไป

ดังนั้น ชมรม TO BE NUMBER ONE ตำบลบาโงยซิแน ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบาโงยซิแน องค์การบริหารส่วนตำบลบาโงยซิแน แกนนำชุมชน และชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านตำบลบาโงยซิแน ได้ตระหนักถึงอันตรายของปัญหายาเสพติด ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการสูบบุหรี่ก่อนโดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 10-24 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง และเป็นกำลังสำคัญของชุมชนในอนาคต จึงได้ดำเนินการควบคุมและป้องกัน ตามนโยบายและแนวทางของจังหวัดยะลา มาโดยตลอด แต่ในทางปฏิบัติยังคงมีปัญหาอยู่มาก ทั้งด้านความจำกัดในทรัพยากร ลักษณะทางภูมิศาสตร์ วิธีการจัดการ การรับรู้และมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นผลให้การปัญหาดังกล่าว ไม่ได้ประสิทธิผลเป็นที่น่าพอใจ การแก้ไขต้องกระทำร่วมกัน ในภาพรวมพหุภาคี ทั้งภาครัฐ ประชาชน รวมทั้งภาคเอกชนควบคู่กันไป ที่สำคัญที่สุดให้ประชาชนและเยาวชนในชุมชนมีบทบาทอย่างเต็มที่ ในการป้องกันปัญหาของชุมชนเอง โดยยึดแนวดำเนินการตามโครงการ TO BE NUMBER ONE มาเติมเต็ม จึงได้จัดทำโครงการเยาวชนรุ่นใหม่ห่างไกลบุหรี่และยาเสพติด ด้วยกระแส TO BE NUMBER ONE ปี 2563 ขึ้น

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อลดอัตราการสูบยาสูบของเด็กและเยาวชน

อัตราการสูบบุหรี่ของเด็กและเยาวชนที่มีอายุไม่เกิน 25 ปี ลดลงเหลือ (ร้อยละ)

25.00 10.00
2 เพื่อลดอัตราการได้รับควันบุหรี่มือสองที่บ้าน

อัตราการได้รับควันบุหรี่มือสองที่บ้านของตนเองลดลงเหลือ (ร้อยละ)

55.00 40.00
3 เพื่อลดจำนวนผู้สูบบุหรี่รายใหม่ในกลุ่มเด็ก-เยาวชนที่มีอายุไม่เกิน 25 ปี

จำนวนผู้สูบบุหรี่รายใหม่ในกลุ่มเด็ก-เยาวชนที่มีอายุไม่เกิน 25 ปี ลดลงเหลือ (คน)

100.00 80.00
4 เพื่อให้เยาวชนมีความรู้ในเรื่องยาเสพติด และการป้องกันยาเสพติด โรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์

เยาวชนมีความรู้ในเรื่องยาเสพติด และการป้องกันยาเสพติด โรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ในระดับดี ร้อยละ 80

50.00 80.00
5 เพื่อสนับสนุนเยาวชน ให้จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ ต้านภัยบุหรี่ และยาเสพติดโดยการสนับสนุนของสังคมและสร้างแกนนำเยาวชนในการปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้อื่นได้
  1. เยาวชน จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ ต้านภัยยาเสพติด จำนวน 2 กิจกรรม
  2. จัดนิทรรศการในศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE จำนวน 1 ครั้ง
  3. เกิดแกนนำเยาวชนในการรณรงค์เรื่องบุหรี่และยาเสพติด
2.00 2.00
stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม กลุ่มเป้าหมาย
(คน)
งบกิจกรรม
(บาท)
ทำแล้ว
 
ใช้จ่ายแล้ว
(บาท)
วันที่ กิจกรรม 40 120,000.00 0 0.00
1 มี.ค. 63 - 30 ก.ย. 63 อบรมเชิงปฏิบัติการกลุ่มแกนนำ และกลุ่มเสี่ยง 0 74,000.00 -
1 มี.ค. 63 - 30 ก.ย. 63 รณรงค์สร้างกระแส และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ 0 40,000.00 -
30 ต.ค. 63 สรุปผลการดำเนินงานและถอดบทเรียน 40 6,000.00 -
  1. อบรมเชิงปฏิบัติการแก่แกนนำ และกลุ่มเสี่ยง
    ค่าใช้จ่าย
    -ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม 25 บาท* 200 คน* 4 มื้อ เป็นเงิน 20,000 บาท
    -ค่าอาหารกลางวัน 70 บาท* 200คน* 2 มื้อ เป็นเงิน 28,000 บาท
    -ค่าสมนาคุณวิทยากร ชั่วโมง 600บาท* 10 ชม. เป็นเงิน 6,000 บาท
    -ค่าวัสดุในการอบรมและจัดกิจกรรม (ค่าเอกสาร สมุด ปากกา กระเป๋าผ้า เป็นต้น) เป็นเงิน 20,000 บาท
    รวม 74,000 บาท
  2. รณรงค์สร้างกระแส และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้
    1. จัดทำสื่อความรู้แผ่นพับ ในเรื่อง บุหรี่ และโทษภัยยาเสพติด
    2. จัดทำนิทรรศการในศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE บริเวณชมรมงาน TO BE NUMBER ONE และเรณรงค์สร้างกระแส ในการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด โรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
    3. สนับสนุนกิจกรรม ชมรม TO BENUMBER ONE ในสถานศึกษาในพื้นที่ และร่วมเป็นเครือข่ายในสถานประกอบการโรงเรียน และชุมชนใกล้เคียง
    4. ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ทางรถประชาสัมพันธ์ และเสียงตามสาย ในการป้องกันยาเสพติด บุหรี่ โรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพื่อเสริมสร้างและสนับสนุนการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพของประชาชน ให้รู้จักการป้องกันตนเองให้ถูกวิธี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
      ค่าใช้จ่าย

- ค่าจัดทำแผ่นพับความรู้ จำนวน 1,500 แผ่นๆละ 10 บาทเป็นเงิน 15,000 บาท
- ค่าวัสดุในการจัดนิทรรศการ และรณรงค์สร้างกระแส (ค่าไวนิล โฟมบอร์ด ค่าอุปกรณ์ตกแต่ง และอื่นๆ เป็นต้น) เป็นเงิน 20,000 บาท
- ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม จำนวน 200 คนๆละ 25 บาท เป็นเงิน 5,000 บาท
รวม 40,000 บาท
3. สรุปผลการดำเนินงานและถอดบทเรียน
จัดประชุมเพื่อสรุปผลการดำเนินงานและถอดบทเรียน
ค่าใช้จ่าย - ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม 25 บาท* 40 คน* 2 มื้อ เป็นเงิน 2,000 บาท
- ค่าอาหารกลางวัน 70 บาท* 40 คน* 1 มื้อ เป็นเงิน 2,800 บาท
- ค่าวัสดุในการประชุม (สมุด ปากกา แฟ้ม เอกสาร เป็นต้น) 1,200บาท
รวม 6,000 บาท
รวมเป็นเงิน 120,000 บาท

stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
  1. เยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจ และร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการป้องกันปัญหายาเสพติด บุหรี่ โรคเอดส์ ในโรงเรียน และชุมชน
  2. ผู้นำชุมชนมีศักยภาพในการเป็นแกนนำต้านภัยยาเสพติดโรคเอดส์ในชุมชนได้
  3. ชุมชนมีความเข้มแข็งและปลอดจากยาเสพติดบุหรี่มือสอง โรคเอดส์ อย่างยั่งยืน
stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2562 22:31 น.