กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ป่วยโรคเรื้อรังเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนและการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ปี 2563
รหัสโครงการ 63-L1520-01-05
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต.
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ รพ.สต.บ้านในปง
วันที่อนุมัติ 31 ตุลาคม 2019
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 ธันวาคม 2019 - 20 กันยายน 2020
กำหนดวันส่งรายงาน
งบประมาณ 29,042.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นายธวัช ใสเกื้อ
พี่เลี้ยงโครงการ
พื้นที่ดำเนินการ ตำบลอ่าวตง อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง
ละติจูด-ลองจิจูด 7.862,99.365place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานโรคเรื้อรัง
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
งวดวันที่งวดโครงการวันที่งวดรายงานงบประมาณ
(บาท)
จากวันที่ถึงวันที่จากวันที่ถึงวันที่
1 2 ธ.ค. 2019 30 ก.ย. 2020 29,042.00
รวมงบประมาณ 29,042.00
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 150 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง :

stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคเรื้อรัง ที่เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของโลก ถึงแม้ว่าจะมีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการ แต่ความชุกและอุบัติการณ์ กลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งในชุมชนเมืองและในชนบทอีกทั้งผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อรังนั้น ถ้ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ขาดการรักษาการกินยาต่อเนื่อง จะเกิดภาวะแทรกซ้อน ทั้งทางตา ไต เท้า สมอง หัวใจหรืออาจหมดสติจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูง หมดสติจากภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ติดเชื้อง่าย หลอดเลือดตีบหรือแตกในสมอง ทำให้เป็นอัมพาตได้ ผลกระทบของผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อรังมีทั้งกระทบโดยตรงต่อผู้ป่วยและครอบครัว คือ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างๆในการรักษาพยาบาล ในการเฝ้าดูแลและเพิ่มการเดินทางในการไปโรงพยาบาลมากขึ้น ต้องพบแพทย์เฉพาะทางซึ่งเป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลศูนย์ ทำให้เพิ่มภาระในส่วนของการเดินทางไปกลับและต้องพบแพทย์เพื่อติดตามอาการบ่อยขึ้น รวมทั้งสูญเสียอวัยวะ และความพิการ ซึ่งเกิดขึ้นได้มากกว่าคนปกติ รวมทั้งมีผลกระทบถึงสภาพจิตใจด้วย นอกจากนี้ผลเสียทางอ้อมอันเกิดจากภาวะแทรกซ้อนและการมีพยาธิสภาพ ทำให้เกิดความพิการหรือไร้สมรรถภาพ เช่น ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ขาดรายได้จากการทำงาน สมรรถภาพในการทำงานลดลง การสูญเสียทรัพยากรบุคคลและอาจมีอายุสั้นกว่าปกติถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ดีพอ อีกทั้งรัฐต้องเสียค่าใช้จ่ายในการนำเข้าเวชภัณฑ์จากต่างประเทศ และค่าใช้จ่ายในด้านอุปกรณ์การตรวจ ดังนั้นการควบคุมป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งการควบคุมการเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคเรื้อรังนั้นต้องประกอบไปด้วยการควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย การผ่อนคลายอารมณ์เครียด การงด เหล้า งดบุหรี่ และ การมีพฤติกรรมที่เหมาะสม การรักษาต่อเนื่อง ไม่ขาดยา มีความรู้ความตระหนักในการดูแลตนเองเมื่อเป็นโรคเรื้อรังก็จะทำให้สามารถควบคุมโรคและลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ จากการสำรวจโดยกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมสำนักโรคไม่ติดต่อ ปี พ.ศ ๒๕๖๐พบว่าคนไทยป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง จำนวน๒๖๖,๙๐๓คน และโรคเบาหวานจำนวน๒๒๐,๔๑๓ คน
        โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านในปง ปี ๒๕๖๐ พบว่าประชากรในพื้นที่รับผิดชอบ หมู่ 3,7,8,10,14 มีผู้ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงทั้งหมด 276 คน และโรคเบาหวานจำนวน 132 คน ข้อมูลผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีภาวะแทรกซ้อนย้อนหลัง๓ปีตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕60 – ๒๕๖2 พบว่า ในเขตรับผิดชอบ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีภาวะแทรกซ้อนทางด้านหลอดเลือดสมองส่งผลให้เกิดอัมพฤกษ์อัมพาตตามมา จำนวน - คน หลอดเลือดหัวใจ 5คนได้รับการผ่าตัดทำบอลลูน 1 คน และ ผ่าตัดทำทางเบี่ยงหัวใจ 1 คนภาวะเบาหวานขึ้นตา 3 คน และมีแผลที่เท้า จำนวน 3 คน ภาวะไตวายเรื้อรังระดับ ๔ ขึ้นไป 10 คน จากจำนวนดังกล่าว การมีภาวะแทรกซ้อน   ดังนั้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านในปง จึงจัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ป้องกันภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยโนคเรื้อรัง มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง มีความรู้ สามารถนำความรู้ที่ได้ ไปปฏิบัติได้จริงในชีวิตประจำวัน สามารถเฝ้าระวัง ควบคุมพฤติกรรมต่างๆที่ส่งผลต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ก็จะส่งผลให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังห่างไกลจากภาวะแทรกซ้อนและมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อให้ผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้รับการประเมินภาวะแทรกซ้อนครอบคลุมตามเกณฑ์

ร้อยละ 80 ของผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้รับการประเมินภาวะแทรกซ้อนครอบคลุมตามเกณฑ์

0.00
2 เพื่อให้ผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่พบภาวะแทรกซ้อนได้รับการดูแล และส่งต่อตามมาตรฐาน

ร้อยละ ๑๐๐ ของ ผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่มีภาวะแทรกซ้อนได้รับการดูแลและส่งต่อ ตามมาตรฐาน

0.00
3 เพื่อให้ผู้ป่วยควบคุมระดับความดันโลหิต และน้ำตาลในเลือดแบบมีส่วนร่วมในการจัดการตนเอง และสถานบริการ

ร้อยละ 80 ของผู้ป่วยที่ควบคุมระดับความดันโลหิตด้วยตนเองที่บ้าน มีค่าระดับความดันโลหิตลดลง/น้อยกว่า๑๔๐/๙๐mmHg
ร้อยละ ๖๐  ของ ผู้ป่วยที่เจาะระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองที่บ้าน มีค่าระดับน้ำตาลเฉลี่ยลดลง/น้อยกว่า ๗

0.00
4 เพื่อชะลอและลดอัตราการเกิดภาวะไตวาย การถูกตัดเท้า หรือตาบอดในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง ที่พบเบาหวานขึ้นจอประสาทตา

ร้อยละ ๑๐๐ ของผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีอัตราการเกิดภาวะไตวาย หรือตาบอดในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่พบเบาหวานขึ้นจอประสาทตาลดลง

0.00
5 เพื่อให้ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง มีพฤติกรรมสุขภาพ (ด้าน ๓ อ ๒ ส และการรับประทานยา) ในการดูแลตนเองที่ถูกต้อง และเหมาะสม

ร้อยละ 80 ของผู้ป่วยมีความรู้และสามารถดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม

0.00
stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม กลุ่มเป้าหมาย
(คน)
งบกิจกรรม
(บาท)
ทำแล้ว
 
ใช้จ่ายแล้ว
(บาท)
วันที่ กิจกรรม 300 29,042.00 1 29,042.00
2 ธ.ค. 62 - 30 ก.ย. 63 กิจกรรมประชุมชี้แจงการพัฒนาศักยภาพผู้ป่วยโรคเรื้อรังเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนและการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 300 29,042.00 29,042.00

ขั้นเตรียมการ
    1. ประชุมชี้แจงผู้มีส่วนร่วมเกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อรับทราบนโยบายวัตถุประสงค์ของโครงการ     ๒. ชี้แจงการดำเนินงานแก่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องและ อสม     ๓. สำรวจกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด ( ผู้ป่วยโรคเรื้อรังเบาหวานความดันและอื่นๆจำนวน 300 คน )     4.จัดทำแผนงานโครงการและเสนอขออนุมัติ     5.จัดทำเอกสาร / แผ่นพับ ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง     6. แจ้งกลุ่มเป้าหมายในการดำเนินโครงการ ขั้นดำเนินการ     1.จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ       -เจาะเลือดตรวจสุขภาพประจำปีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในรายที่ผิดปกติตรวจทุก 3 เดือน ทุก 6เดือน ตรวจตา ตรวจเท้า ปีละ 1ครั้ง ในผู้ป่วยเบาหวาน       -อบรมให้ความรู้แก่กลุ่มกลุ่มเป้าหมายโดยจัดเป็น 6 รุ่น โดยนักกายภาพบำบัด นักโภชนาการ พยาบาลวิชาชีพ นักวิชาการสาธารณสุข เภสัชกร และ ทันตาภิบาล       -ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกลุ่มเป้าหมาย เพื่อแลกเปลี่ยนการดูแลสุขภาพที่ดีที่เหมาะสมและการดูแลที่ยังไม่เหมาะสม       - หาเคสตัวอย่างผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนที่ต้องล้างไต เป็นแผลที่เท้า เป็นอัมพฤกษ์อัมพาต เบาหวานขึ้นตา เพื่อเป็นกรณีศึกษาของผู้ป่วย       - พาผู้ป่วยกลุ่มเป้าหมาย ออกนอกสถานที่ ฟังธรรมะเรียนรู้ หลักธรรมของศาสนา และ ฝึกการนั่งสมาธิ เพื่อการทำจิตใจให้สงบ / หรือดูเคสตัวอย่างที่ไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้ป่วย ( ตามความเหมาะสม)     2.ติดตามเยี่ยมบ้านโดยทีมอาสาสมัครดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังในหมู่บ้านเพื่อติดตามดูวิถีชีวิตของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
      -สำรวจพฤติกรรมการบริโภค เกลือ Na รายครัวเรือนและจัดทำทะเบียน     - รับสมัครครัวเรือนเข้าร่วมโครงการลดเค็ม     -.ออก Mobile ลด เกลือ Na ในชุมชน     -ติด sticker รณรงค์ลด Na เพื่อชะลอไต / อัมพฤกษ์ / อัมพาต     -มอบป้ายรางวัลครัวเรือนที่บริโภคเกลือ Na ต่ำ
    3.การวัดความดันด้วยตนเองที่บ้าน(SMBP) อย่างน้อย 7 วันต่อเนื่อง ในรายที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ และ การเจาะน้ำตาลปลายนิ้วด้วยตนเองในรายที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ (SMBG)     4. ส่งเสริมสนับสนุนการดูแลตนเองแบบมีส่วนร่วมจากผู้ป่วยเอง ครอบครัวและชุมชน โดยขับเคลื่อนโดยแกนนำ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม สุขภาพระดับชุมชน เช่น มีสถานที่ที่เหมาะสม  ในการ ออกกำลังกาย ต้องส่งเสริม ให้ มีการปลูกผักและกินผักที่ปลูก หรือ เลือกซื้อผักที่ปลอดสารพิษส่งเสริม

stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ

๑.ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดหัวใจ สมองมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่เจ็บป่วยด้วยภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง ๒.ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดหัวใจ สมอง ตระหนักในการดูแลตนเองและได้รับการดูแลอย่างถูกต้องเหมาะสม และชะลอการเกิดภาวะแทรกซ้อน
๓.ผู้ป่วยและครอบครัวมีส่วนร่วมในการจัดการโรค

stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2019 09:32 น.