โครงการบริหารจัดการขยะอินทรีย์เพื่อป้องกันแมลงและสัตว์นำโรค
ชื่อโครงการ | โครงการบริหารจัดการขยะอินทรีย์เพื่อป้องกันแมลงและสัตว์นำโรค |
รหัสโครงการ | 63-L1467-02-06 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานสาธารณสุขอื่นของ อปท. เช่น กองสาธารณสุขของเทศบาล |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อน้ำร้อน |
วันที่อนุมัติ | 9 มกราคม 2020 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2020 - 31 กรกฎาคม 2020 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 25 กันยายน 2020 |
งบประมาณ | 50,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อน้ำร้อน |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบ่อน้ำร้อน อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.425,99.474place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ทุกวันนี้ ปัญหาเรื่องการจัดการขยะ ถือเป็นหนึ่งปัญหาระดับโลก เลยก็ว่าได้ ยิ่งมนุษย์มีพัฒนาการด้านความเจริญทางวัตถุมากขึ้น ขยะจากความเจริญ ก็มีมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขยะที่เน่าเสียและย่อยสลายได้เร็ว สามารถนำมาหมักทำปุ๋ยได้ เช่น เศษผัก เปลือกผลไม้ เศษอาหาร ใบไม้ เศษเนื้อสัตว์ เป็นต้น โดยถึงแม้ว่าขยะเหล่านี้ดูเหมือนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าขยะพลาสติก แต่กลับพบว่าขยะย่อยสลายนี้เป็นขยะที่พบมากที่สุด คือพบมากถึง 64% ของปริมาณขยะทั้งหมดในกองขยะ ซึ่งเป็นขยะที่คนส่วนใหญ่ละเลยถึงคุณค่าและส่งกลิ่นเหม็น โดยการทิ้งเศษอาหารลงในถังขยะรวมกับขยะประเภทอื่นๆที่พอจะนำกลับไปรีไซเคิลได้ เช่น กระดาษ พลาสติก แก้ว หรือโลหะ จะเป็นการเร่งให้ภาวะโลกร้อนเป็นไปอย่างรุนแรงและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะแทนที่จะนำขยะดังกล่าวกลับมารีไซเคิลได้ง่ายๆ กลับต้องใช้แรงงาน เวลา พลังงาน และทรัพยากร ในการจัดการมากขึ้น อีกทั้งขยะเศษอาหารก็จะเน่าเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ อีกทั้งเร่งให้จุลินทรีย์กลุ่มเป็นโทษทำลายสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งขยะเศษวัสดุ ของเสีย มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ เนื่องจากเชื้อจุลินทรีย์ที่ปนเปื้อนมากับขยะมูลฝอยมีโอกาสที่จะขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้นได้ เพราะขยะมูลฝอยมีทั้งความชื้นและสารอินทรีย์ที่จุลินทรีย์ใช้เป็นอาหาร ขยะพวกอินทรีย์สารที่ทิ้งค้างไว้ จะเกิดการเน่าเปื่อยกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแมลงวัน นอกจากนั้นพวกขยะที่ปล่อยทิ้งไว้นานๆ จะเป็นที่อยู่อาศัยของหนู ดังนั้นขยะที่ขาดการเก็บรวบรวม และการกำจัด จึงทำให้ในแต่ละวันส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสภาพความเป็นอยู่ ได้แก่ บ้านเมืองสกปรก ไม่น่ามอง เสียทัศนียภาพ ส่งกลิ่นเหม็นรบกวน เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์ และพาหนะนำโรคต่าง ๆ เช่น หนู แมลงสาบ แมลงวัน ทั้งยังเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคโดยตรง เช่น อหิวาตกโรค อุจจาระร่วง บิด โรคผิวหนัง บาดทะยัก โรคทางเดินหายใจ ดังนั้นการนำเศษอาหารหรือขยะอินทรีย์มาทำน้ำหมักชีวภาพสำหรับใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันกัน ซึ่งมีวิธีการทำและใช้อุปกรณ์ที่หาได้ง่าย ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ดังนั้นทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อน้ำร้อน จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมการทำน้ำหมักชีวภาพจากวัสดุเหลือใช้ เพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยการหมักเศษอาหารสู่ EM (น้ำหมักชีวภาพ ) สำหรับใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน หรือสามารถนำไปหมักเป็นปุ๋ยหมักชั้นเลิศ เพื่อใส่พืชผักและผลไม้ที่ปลูกไว้ได้
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อควบคุมและป้องกันแมลงและสัตว์นำโรคที่นำมาสู่มนุษย์ ร้อยละของการลดลงของแมลงและสัตว์นำโรคที่นำมาสู่มนุษย์ |
5.00 | |
2 | เพื่อส่งเสริมการนำวัสดุเหลือใช้ไปทำน้ำหมักชีวภาพ ร้อยละของขยะอินทรีย์ลดลง |
2.00 | |
3 | เพื่อลดปริมาณขยะ ที่นำไปสู่การเกิดโรคต่างๆ ร้อยละของปริมาณขยะ ที่นำไปสู่การเกิดโรคต่างๆลดลง |
2.00 |
1.จัดทำเพื่อเสนอโครงการของบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ อบต.บ่อน้ำร้อน 2.ประชาสัมพันธ์และประสานวิทยากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3.ดำเนินกิจกรรมตามโครงการ 4.สรุปผลการดำเนินกิจกรรมตามโครงการ
- อัตราการเกิดจากโรคอันมาจากขยะอินทรีย์ โดยมีแมลงและสัตว์นำโรคเป็นพาหนะลดลง
- เกิดการนำวัสดุเหลือใช้ไปทำน้ำหมักชีวภาพและใช้ประโยชน์ต่อไป
- ปริมาณขยะ ที่นำไปสู่การเกิดโรคต่างๆลดลง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2020 11:08 น.