โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) งานควบคุมโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ปี 2563
ชื่อโครงการ | โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) งานควบคุมโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ปี 2563 |
รหัสโครงการ | L5301-63-02-011 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ตำบลควนขัน |
วันที่อนุมัติ | 31 มกราคม 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2563 - 30 กันยายน 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 35,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางฮาซะนะห์ อยู่ดี |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลควนขัน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.633,100.036place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ระบบการจัดการด้านสุขภาพ หมายถึง การที่ชุมชนมีกระบวนการร่วมกันคิด วิเคราะห์ถึงสภาพความเป็นอยู่และร่วมกันสร้างกิจกรรมการดำเนินงานด้านสุขภาพ หมู่บ้านที่จะมีระบบการจัดการสุขภาพที่สมบูรณ์และดำเนินไปสู่ความสำเร็จได้ นั้นมีหลายๆปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้อง การจะทำให้ประชาชนมีจิตสำนึกและแสดงบทบาทในการดูแลตนเองและพัฒนาสุขภาพของคนในครอบครัวและชุมชนนั้น สามารถทำได้ด้วยการสร้างกระบวนการที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมและเสริมสร้างความเข้มแข็งของสังคม ภายใต้การตัดสินใจและความต้องการของประชาชนและชุมชนตามศักยภาพท้องถิ่น โดยประชาชนและชุมชนมีอำนาจเต็มที่ คนในชุมชนรวมตัวกันร่วมคิด ร่วมกันทำ ร่วมใจกันบริหารจัดการคน ทุนและความรู้ของชุมชน เพื่อให้เกิดโครงการของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชนในชุมชน ที่เน้นการพัฒนาคนในชุมชนให้เข้าใจปัญหาของตนและชุมชน คิดเป็น มีทักษะ วางแผนในการแก้ปัญหาเองได้ มีอิสระในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ วิเคราะห์ปัญหาชุมชนร่วมกัน โดยมีอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เชื่อมประสานและกระตุ้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และภาคีเครือข่ายสนับสนุนทรัพยากร เพื่อสื่อสารให้ประชาชนผู้สนใจหันมามีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมของชุมชน ด้วยการเป็นแกนนำประจำครอบครัว ผู้รับผิดชอบดูแลสุขภาพตนเอง ครอบครัวและชุมชนตลอดจนสภาวะแวดล้อมเอื้อ อำนวยต่อการมีสุขภาพที่ดี ทั้งนี้ไม่เพียงแต่ใช้เทคนิคและกระบวนการสร้างความครอบคลุมประชากรจำนวนมาก ด้วยยุทศาสตร์ใช้ระบบผู้นำการเปลี่ยนแปลง (อสม.หรือเครือข่ายสร้างสุขภาพ) โดยที่ทุกส่วนก็ต้องร่วมมือร่วมใจที่จะสร้างชุมชนให้แข็งแรง ภายใต้ระบบการจัดการที่ดี เหมาะสมกับท้องถิ่นของตนเอง อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เป็นตัวแทนของคนในคุ้มของหมู่บ้าน โดย 1 คน จะรับผิดชอบ 1-15 ครัวเรือน ซึ่งจะต้องมีความรู้ความเข้าใจ รวมถึงมีทักษะในการดูแลสุขภาพของตนเองและคนในชุมชนได้ ดังนั้นอาสาสมัครสาธารณสุขจึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาทักษะการจัดการระบบสุขภาพในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นกลวิธีหนึ่งที่จะทำให้ชุมชนได้เรียนรู้สุขภาพของคนในชุมชน เริ่มต้นจากการสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลง โดยการปรับทัศนคติและบทบาทสร้างจิตสำนึก ศรัทธา ความรัก ความสามัคคี เสริมสร้างและพัฒนาผู้นำให้มีศักยภาพในการส่งเสริม สนับสนุนให้ประชาชนสามารถจัดการสุขภาพด้วยตนเอง อย่างเป็นที่ยอมรับของสังคม ด้วยการสร้างความเป็นผู้นำที่มีผลงานสูง สร้างมาตรฐาน แนวปฏิบัติ และให้ความสำคัญต่อกระบวนการเสริมสร้างให้เกิดความเเข็งแรงของโครงสร้างชุมชน ที่เอื้อต่อการจัดการระบบ สุขภาพภาคประชาชน ผ่านตามกระบวนการการเรียนรู้ต่างๆ อย่างเป็นระบบตามโครงสร้างของชุมชน ทำให้เกิดเวทีประชาคมสุขภาพ ศูนย์การเรียนรู้ สังเคราะห์บทเรียนและเเลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อสุขภาพชุมชนจากประสบการณ์จริง สร้างกิจกรรมให้เกิดความเคยชิน ส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพไปในทางที่ถูกต้อง เกิดการดูแลสุขภาพโดยโครงการของชุมชนด้วยชุมชน เพื่อชุมชนของตนเอง กลุ่มผู้นำการเปลี่ยนเเปลง มีความเข้าใจในความสำคัญ ในบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของตน มีบทบาทในการเฝ้าระวังภาวะสุขภาพวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของคนในครัวเรือน รวมทั้งเป็นต้นแบบการดูแลสุขภาพของครอบครัว ประสานระหว่างบุคคลในครอบครัวกับชุมชน ในการร่วมกิจกรรมของชุมชน และปฏิบัติต่อสภาวะแวดล้อมอย่างเหมาะสม ดังนั้นจากสถานการณ์ดังกล่าว ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขตำบลควนขัน จึงได้จัดทำโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในงานควบคุมโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง ตำบลควนขัน ปี 2563 ขึ้น เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพ เพิ่มพูนความรู้ด้านสุขภาพ สามารถดำเนินกิจกรรมการดูแลสุขภาพตนเอง คนในครอบครัวและในชุมชน เกิดการดูแลสุขภาพด้วยตนเองแบบบยั่งยืน ต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อส่งเสริมให้ อสม. มีโอกาสเรียนรู้ด้วยรูปแบบและวิธีการที่หลากหลาย
|
0.00 | |
2 | 2.เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ทักษะทางด้านวิชาการสาธารณสุขเพื่อให้ อสม. สามารถนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ และแก้ไขปัญหาในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
|
0.00 | |
3 | 3.เพื่อส่งเสริมให้อสม. ที่ได้รับการพัฒนาการรักษาพยาบาลเบื้องต้น คัดกรองผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และสามารถดำเนินงานสุขภาพชุมชนในเขตพื้นที่ ได้อย่างเข้มแข็ง
|
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 35,000.00 | 0 | 0.00 | |
1 ม.ค. 63 - 30 เม.ย. 63 | อบรมและสาธิตการปฐมพยาบาลเบื้องต้น | 0 | 31,800.00 | - | ||
1 ก.พ. 63 - 31 มี.ค. 63 | ค่าวัสดุอุปกรณ์ในการฝึกอบรม | 0 | 3,200.00 | - |
- รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์สถานการณ์การดำเนินงานสุขภาพภาคประชาชน และพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ในปีที่ผ่านมา เพื่อวางแผนและกำหนดทิศทางการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพ อสม. ในงานควบคุมโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง ตำบลควนขัน ปี 2563 2.เขียนโครงการเพื่อขออนุมัติโครงการและจัดทำแผนการดำเนินงาน 3.ประสานงานและติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 4.ประชาสัมพันธ์โครงการ 5.ประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานแก่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนขัน และอาสาสมัครสาธารณสุขทุกหมู่บ้าน 6.เตรียมเอกสาร วัสดุอุปกรณ์ในการดำเนินโครงการ 7.จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพ อสม. ในงานควบคุมโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง ตำบลควนขัน ปี 2563 8.สรุป วิเคราะห์ ประเมินผล และจัดทำรายงานผลการดำเนินงาน
อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมุ่บ้าน มีโอกาสได้รับการพัฒนาศักยภาพของตนเอง ทั้งในด้านการบริหารวิชาการ และการปฏิบัติเพื่อยกระดับการบริการประชาชน และมีหน้าที่ในการสร้างสุขภาพและบริการของชุมชนตนเอง เพื่อให้ประชาชนพึ่งตนเองได้อย่างมีรูปธรรม รวมถึงอาสาสมัครสาธารณสุข สามารถนำประสบการณ์ที่ได้รับไปใช้ในการศึกษ่าต่อเนื่องด้วยตนเอง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2563 11:32 น.