โครงการห่วงใย ใส่ใจ ดูแลสุขภาพผู้สูงวัยติดบ้าน ติดเตียง อบต.นาเกตุ
ชื่อโครงการ | โครงการห่วงใย ใส่ใจ ดูแลสุขภาพผู้สูงวัยติดบ้าน ติดเตียง อบต.นาเกตุ |
รหัสโครงการ | 63-LNK-3-01 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 3 สนับสนุนการจัดกิจกรรมของ ศูนย์เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุตำบลนาเกตุ |
วันที่อนุมัติ | 25 ธันวาคม 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 17 กุมภาพันธ์ 2563 - 30 กันยายน 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2563 |
งบประมาณ | 249,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายพล อินทโกษี |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางประภัสสร ขวัญกะโผะ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลนาเกตุ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.744,101.155place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
วัยสูงอายุเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทางสรีระของร่างกาย การทำหน้าที่ของร่างกายลดลงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรค โดยเฉพาะโรคเรื้อรังซึ่งเป็นปัญหาทางสุขภาพที่สำคัญของผู้สูงอายุ (จีราพร ทองดีและคณะ, 2553 : 90) จากสถานการณ์ด้านโครงสร้างประชากรในปัจจุบันซึ่งมีประชากรรวม 64.5 ล้านคน พบว่า มีจำนวนผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป จำนวน 9.4 ล้านคน หรือคิดเป็น 14.57% ของประชากรรวม มีจำนวนผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป จำนวน 6.3 ล้านคน หรือคิดเป็น 9.77% ของประชากรรวม จากข้อมูลดังกล่าวเกิดผลกระทบ ทำให้เกิดความชุกเพิ่มมากขึ้นของโรคที่เกี่ยวเนื่องกับความเสื่อมถอยของอวัยวะ นอกจากนี้จะพบโรคของผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องการการดูแลระยะยาว ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพเพิ่มสูงขึ้นตามการสูงวัยของประชากร ส่วนผลทางด้านเศรษฐกิจและสังคม พบว่า อัตราการพึ่งพิงของประชากรสูงอายุต่อคนวัยทำงานของประเทศไทย ในปีพ.ศ. 2553 วัยทำงาน 100 คน ต้องดูแลผู้สูงอายุ 19.7 คน ซึ่งในปีพ.ศ. 2563 วัยทำงาน 100 คน ต้องดูแลผู้สูงอายุ 30.3 คน เมื่อพิจารณาถึงสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านบริการสุขภาพของภาครัฐ ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในปี 2553 รวมเท่ากับ 2.2% เป็นภาระค่าใช้จ่ายบริการสุขภาพของผู้สูงอายุ เท่ากับ 0.6% คิดเป็น 27% ของค่าใช้จ่ายด้านบริการสุขภาพทั้งหมด ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2565 รวม เท่ากับ 2.8% เป็นภาระค่าใช้จ่ายบริการสุขภาพของผู้สูงอายุเท่ากับ 1.1% คิดเป็น 39% ของค่าใช้จ่ายด้านบริการสุขภาพทั้งหมด
นโยบายหลักในการบริหารประเทศภายในช่วงระยะเวลา 4 ปี ที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ คือ นโยบายสังคมและคุณภาพชีวิต โดยการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนตั้งแต่ในช่วงตั้งครรภ์ วัยเด็ก วัยเจริญพันธุ์ วัยบรรลุนิติภาวะ วัยชรา และผู้พิการ โดยสนับสนุนโครงการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและผู้พิการ เพื่อดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ส่วนนโยบายความมั่นคงของชีวิตและสังคม ให้มีการเสริมสร้างให้ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาสมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะต่างๆ สำหรับรองรับผู้สูงอายุและคนพิการ สร้างความพร้อมในการเป็นสังคมผู้สูงอายุ พัฒนาบริการสุขภาพอนามัย ให้การสงเคราะห์ จัดการศึกษา จัดสวัสดิการ รวมถึงหาอาชีพให้แก่ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการหรือทุพพลภาพ และสนับสนุนให้ผู้สูงอายุร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมภายใต้หลักคิดที่ว่า ผู้สูงอายุเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์สูง สมควรให้มามีส่วนร่วมในการพัฒนาบ้านเมือง
การมีส่วนร่วมเป็นการที่กลุ่มบุคคลที่มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกขั้นตอนของโครงการหรือกิจกรรม เข้ามาร่วมกระทำกิจกรรมให้เกิดการพัฒนา และมีส่วนในการตัดสินใจ การกำหนดนโยบาย กำหนดวัตถุประสงค์และแผนงานร่วมกันกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และปฏิบัติงานตามแผนงานของโครงการ รวมทั้งได้รับประโยชน์จากการมีส่วนร่วมในกระบวนการ หรือกิจกรรมนั้นๆทั้งทางตรงและทางอ้อม ในที่นี้คือการที่ผู้สูงอายุ ครอบครัวเข้ามีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดสวัสดิการ
เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐาน เพราะถ้ากิจกรรมการใดๆก็ตามที่มีผู้สูงอายุและครอบครัวที่มีความรู้สึกเป็นเจ้าของและร่วมกิจกรรมแล้ว กิจกรรมนั้นจะสำเร็จและดำรงอยู่ได้อย่างถาวร ในการมีส่วนร่วมต้องให้ผู้สูงอายุและครอบครัวมีความรู้มีความเข้าใจในกระบวนการนั้นอย่างถ่องแท้ สามารถมองเห็นและคาดหวังในผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่อตนเองต่อครอบครัวต่อชุมชนอีกทั้งได้รับข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับตนเองหรือตรงกับปัญหาของตนเอง และแสวงหาหาแนวทางในการแก้ไขเพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลง จนเกิดการตัดสินใจเข้าร่วม ถือว่ามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินกิจกรรมให้สอดคล้องกับความเป็นจริงของชุมชนนำไปสู่ความยั่งยืนของกิจกรรม และการดำเนินการกิจกรรมนั้นจะประสบความสำเร็จ ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบต้องศึกษาถึงวัตถุประสงค์ของนโยบายที่ได้รับ เพราะจะช่วยทำให้ผู้ปฎิบัติดำเนินกิจกรรมไปในแนวทางเดียวกันมาตรฐานการสงเคราะห์ผู้สูงอายุ มีความครอบคลุมในด้านการดูแลสุขภาพและการรักษาพยาบาล ในการจัดให้ความรู้แก่ผู้สูงอายุเกี่ยวกับสุขภาพ มีการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพตามจำนวนเงินที่กฎหมายกำหนดเพื่อเป็นรายได้กับผู้สูงอายุ มีการจัดหาที่พักอาศัย ให้แก่ผู้สูงอายุตามความจำเป็น นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมในวันสำคัญต่างๆ มีการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ พาผู้สูงอายุไปสันทนาการ มีศูนย์ให้การช่วยเหลือและคุ้มครอง และมีเครือข่ายที่เกื้อหนุนในการจัดกิจกรรมต่างๆ เห็นได้ว่า กิจกรรมดำเนินการทั้งหมดเป็นการดูแลให้การช่วยเหลือแบบองค์รวม ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม เศรษฐกิจ รวมถึงครอบครัว แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมทั้งภาครัฐที่เป็นผู้ให้ ผู้สูงอายุ รวมทั้งครอบครัว ชุมชน จึงจะทำให้การดำเนินกิจกรรมต่างๆในการจัดสวัสดิการสำเร็จ แม้ว่าสังคมไทยจะมีนโยบายและแผนเกี่ยวกับผู้สูงอายุมาอย่างต่อเนื่อง แต่มีลักษณะเป็นนโยบายทั่วไปที่ใช้กับผู้สูงอายุในขอบเขตทั่วทั้งประเทศ ยังไม่มีแผนหรือนโยบายที่ใช้สำหรับจัดการกับปัญหาผู้สูงอายุในลักษณะเฉพาะพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งมีสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความรุนแรงสูงและผู้คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม จึงอาจทำให้ไม่สามารถตอบสนองปัญหาและความต้องการของผู้สูงอายุได้อย่างครอบคลุมในมิติต่างๆ ของชีวิต องค์การบริหารส่วนตำบลนาเกตุ สามารถนำผู้สูงอายุในตำบล ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามมาตรฐานการสงเคราะห์ผู้สูงอายุอย่างครอบคลุมและทั่วถึง รวมทั้งเป็นแนวทางให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องนำไปให้การดูแลช่วยเหลือและจัดสวัสดิการผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ดำรงชีวิตในชุมชนและสังคมได้อย่างสันติสุข และยั่งยืน สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ตามอัตภาพไม่เป็นภาระแก่ผู้อื่น ซึ่งจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายของการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุต่อไปได้ โดยการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพที่แข็งแรง เคลื่อนไหลได้สะดวก ร่างกายแข็งแรงตามความเหมาะสมกับร่างกายที่สามารถดำเนินการได้ แต่ยังมีประชาชนอีกส่วนหนึ่งที่เป็นผู้สูงอายุที่ได้รับการเจ็บป่วยไม่สามารถดูแลตัวเองได้ในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลนาเกตุ มีผู้สูงอายุติดบ้าน 62 คน ติดเตียง 9 คน และได้มีทีมงาน Long Term Care ประกอบด้วย Caregiver เป็นผู้ดูแล Caregiver มีหน้าที่ในการดูแลผู้สูงอายุติดบ้านและติดสังคม ในการรักษาเบื้องต้น การดูแลให้ผู้สูงอายุกินอาหาร กินยาตามเวลาและจัดสถานที่อยู่อาศัยให้เหมาะสม สะอาด ปลอดภัยต่อผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุเหล่านี้มีปัญหาไม่มีแพมเพอร์สสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่ง 1 คน จะใช้ 2 ชิ้นต่อวัน และเครื่องเจาะเบาหวาน เครื่องวัดความดันที่มีอยู่ในศูนย์ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุชำรุดไม่สามารถใช้การได้เนื่องจากชำรุดด้วยอายุการใช้งาน ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุองค์การบริหารส่วนตำบลนาเกตุ จึงจัดทำโครงการห่วงใย ใส่ใจ ดูแลสุขภาพผู้สูงวัยติดบ้าน ติดเตียง อบต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ขึ้นมาเพื่อขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานของท่านต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อจัดให้ผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียงและผู้ด้อยโอกาสตำบลนาเกตุ มีกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่เหมาะสมกับการดูแลสุขภาพให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดีต่อไป
|
0.00 | |
2 | เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลสุขภาพที่ถูกสุขลักษณะอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันสำหรับผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาสตำบลนาเกตุ ในศูนย์ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุตำบลนาเกตุ
|
0.00 | |
3 | เพื่อสนับสนุนให้มีเครื่องมือ อุปกรณ์สำหรับตรวจคัดกรองดูแลสุขภาพผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาส ที่เหมาะสมใช้งานได้อย่างมีคุณภาพ และการส่งเสริมการป้องกันและการดูแลสุขภาพตนเอง เป็นต้น
|
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 249,000.00 | 1 | 249,000.00 | |
20 ก.พ. 63 | สนับสนุนให้มีเครื่องมือ อุปกรณ์สำหรับตรวจคัดกรองดูแลสุขภาพผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาส ที่เหมาะสมใช้งานได้อย่างมีคุณภาพ และการส่งเสริมการป้องกันและการดูแลสุขภาพตนเอง | 0 | 249,000.00 | ✔ | 249,000.00 |
- สำรวจสภาพปัญหาและความต้องการของผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียงและผู้ด้อยโอกาสในตำบลนาเกตุ ประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุ , ผู้นำชุมชน , แกนนำ เพื่อเขียนโครงการขอสนับสนุนงบประมาณ
- จัดทำโครงการเพื่อรับการสนับสนุนงบประมาณ
- ขอรับการสนับสนุนการจัดกิจกรรมดุแลสุขภาพส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาส “โครงการห่วงใย ใส่ใจ ดูแลสุขภาพผู้สูงวัยติดบ้าน ติดเตียง อบต.นาเกตุ ของผู้สูงอายุของศูนย์ฯ ให้เป็นไปตามรูปแบบศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาส
- ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาส “โครงการห่วงใย ใส่ใจ ดูแลสุขภาพผู้สูงวัยติดบ้าน ติดเตียง อบต.นาเกตุ
- ติดตามและประเมินผลความก้าวหน้าของโครงการ
- ทำให้ผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียงและผู้ด้อยโอกาสตำบลนาเกตุ มีกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่เหมาะสมกับการดูแลสุขภาพให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดีต่อไป
- ผู้สูงอายุได้รับการดูแลสุขภาพที่ถูกสุขลักษณะอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันสำหรับผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาสตำบลนาเกตุ ในศูนย์ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุตำบลนาเกตุ
- ส่งเสริมสนับสนุนให้มีเครื่องมือ อุปกรณ์สำหรับตรวจคัดกรองดูแลสุขภาพผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาส ที่เหมาะสมใช้งานได้อย่างมีคุณภาพ และการส่งเสริมการป้องกันและการดูแลสุขภาพตนเอง เป็นต้น
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2563 10:24 น.