โครงการเข็มแข็งไว้ ปลอดภัยแม่และลูก ปี 2560
ชื่อโครงการ | โครงการเข็มแข็งไว้ ปลอดภัยแม่และลูก ปี 2560 |
รหัสโครงการ | 60-4149-01-06 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านปะแต |
วันที่อนุมัติ | 11 พฤษภาคม 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤษภาคม 2560 - 30 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 57,700.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านปะแต |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลปะแต อำเภอยะหา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.344,101.139place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | 200 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
งานอนามัยแม่และเด็กเป็นบริการสุขภาพขั้นพื้นฐานที่สำคัญของการพัฒนาคุณภาพประชากร ซึ่งเริ่มตั้งแต่การดูแลครรภ์ เพื่อให้การตั้งครรภ์และการคลอดอย่างมีคุณภาพ มารดาและทารกปลอดภัยและมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงต่อเนื่องถึงการให้การดูแลเด็กในช่วงปฐมวัย ซึ่งเป็นทรัพยากรอันทรงคุณค่าและเป็นอนาคตของชาติ ควรให้การเลี้ยงดูให้เจริญเติบโตและมีพัฒนาการที่สมวัย ทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์สังคม และสติปัญญา การส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ดังนั้น การดูแลสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์และทารกในครรภ์มีความสำคัญโดยต้องฝากครรภ์ตั้งแต่ในระยะแรกในการตั้งครรภ์เพื่อสุขภาพที่ดีของหญิงตั้งครรภ์และการอดชีวิตของทารก และสามารถวินิจฉัย ป้องกัน รักษาภาวะแทรกซ้อนในหญิงตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ซึ่งลดอัตราตายและอัตราทุพลภาพต่อทารกกับหญิงตั้งครรภ์
การไม่ฝากครรภ์ของหญิงตั้งครรภ์เพิ่มความเสี่ยงของทารกตายคลอด เนื่องจากกลุ่มอาการหายใจลำบากเกิดในทารกแรกเกิด เลือดออกในโพรงสมอง พยาธิสภาพจอตาผิดปกติและโรคปอดเรื้อรัง ทารกน้ำหนักน้อย คลอดก่อนกำหนด จากนอกจากนั้นยังส่งผลให้หญิงตั้งครรภ์มีภาวะแทรกซ้อนในขณะตั้งครรภ์ได้แก่ โรคโลหิตจาง (ภาวะซีดในหญิงตั้งครรภ์)โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงจากการตั้งครรภ์และโรคไต ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การมาฝากครรภ์ครบ 5 ครั้งตามเกณฑ์มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการส่งเสริมสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และให้การวินิจฉัย ตรวจรักษาภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในระยะก่อนคลอด คลอดและระยะหลังคลอดจากพื้นที่ส่วนใหญ่ พบว่ามีหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะบกพร่องเหล็กหรือภาวะโลหิตจางเนื่องจากขาดธาตุเหล็ก ร้อยละ 27.78 ค่อนข้างสูงซึ่งเกณฑ์ต้องไม่เกินร้อยละ 10 นอกจากนั้นยังมีหญิงตั้งครรภ์ในพื้นที่ที่มีความเชื่อว่า การกินอาหารมากๆ รวมทั้งยาบำรุง ทำให้เด็กโต คลอดยาก ทำให้งดการกินยาขณะใกล้คลอด แต่หลักคำสอนอิสลาม ท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า “ทุกโรคนั้นมียา เมื่อใช้ยาถูกกับโรคก็จะหายด้วยการอนุมัติของอัลลอฮ์”จากคำสอนดังกล่าว เมื่อมีอาการเจ็บป่วยอิสลามสนับสนุนให้มีการบำบัดรักษาด้วยยา ส่วนการหายจากโรคนั้นเป็นความประสงค์ของอัลลอฮฺ(ยูซุฟ, สุภัทร, 2551) และหญิงตั้งครรภ์มุสลิมไม่นิยมการเว้นช่วงการ มีบุตร ทำให้มีการตั้งครรภ์หลายครั้ง และมักชอบดื่มน้ำชา กาแฟ พร้อมกับการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะอาหารมื้อเช้าซึ่งอาหารเหล่านี้จะไปขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก และยังพบภาวะซีดที่เกิดจากการได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ เนื่องจากรับประทานอาหารน้อย จากเศรษฐกิจของครอบครัว ซึ่ง พบว่าหญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่จะได้รับธาตุเหล็กและสารอาหารไม่เพียงพอเนื่องจากฐานะทางเศรษฐกิจต่ำหญิงตั้งครรภ์จะประกอบอาชีพทำสวน ทำนา และรับจ้าง ทำให้ไม่มีเวลาในการสนใจการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อการตั้งครรภ์อย่างเพียงพอและเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ท่านนบีมูฮัมหมัด (ศ็อลฯ) ได้กล่าวไว้ว่า “ผู้ศรัทธาที่เข็มแข็งย่อมดี และ เป็นที่รักของอัลลอฮฺ ยิ่งกว่าผู้ศรัทธาที่อ่อนแอ” (ยูซุฟ, สุภัทร, 2551) ดังนั้นเราในฐานะที่เป็นมุสลิมหรือมุสลิมะฮฺ ผู้ศรัทธาคนหนึ่ง จะต้องมีความตระหนักในเรื่องของการดูแลสุขภาพอยู่เสมอ โดยการสร้างเสริมพฤติกรรมสุขภาพที่ดีให้คงอยู่กับตัวเราตลอดไป และ บุคคลใดไม่ดูแลสุขภาพถือว่าไม่ศรัทธาต่อองค์ฮัลเลาะห์ (เหราะหมาน, 2547) และการตั้งครรภ์ถือว่าเป็นความประสงค์ขององค์ฮัลเลาะห์ ผู้เป็นมารดาจะต้องดูแลตนเองให้ดีเพื่อให้ทารกที่คลอดออกมาสมบูรณ์ดังนั้นแนวทางการดูแลและป้องกันการเกิดปัญหาดังกล่าว คือนำหลักการปฏิบัติของศาสนาอิสลามที่เน้นการดูแลสุขภาพหากนำมาปรับใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่หญิงตั้งครรภ์มุสลิมที่มีภาวะซีดให้สามารถดูแลตนเองได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม รวมถึง ต้องให้การดูแลที่มีคุณภาพมีมาตรฐาน หญิงตั้งครรภ์ได้รับบริการฝากครรภ์คุณภาพและเสริมทักษะการดูแลหลังคลอด และทารกควรได้รับการเลี้ยงลูกด้วยนมมารดาอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือน ได้รับการอบรมเลี้ยงดูที่ตอบสนองความต้องการและส่งเสริมพัฒนาการของเด็กทุกด้านตามวัย การมีส่วนร่วมของชุมชนมีเครือข่ายที่เข้มแข็ง
ดังนั้น ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำลบ้านปะแตได้เล็งเห็นความสำคัญของ การส่งเสริมสุขภาพของหญิงขณะตั้งครรภ์และการดูแลสุขภาพมารดาและทารกหลังคลอด เพื่อให้ทารกที่อยู่ ในครรภ์และที่จะเกิดมาในอนาคตได้รับการดูแลที่ถูกวิธีเพื่อให้มีสุขภาพกายสุขภาพจิตที่ดี และเป็นกำลังสำคัญ ของประเทศชาติในอนาคต และยังเป็นการสร้างสายใยรักความผูกพันของครอบครัว จึงจัดโครงการสร้างเสริมสุขภาพหญิงตั้งครรภ์และหลังคลอดเข้มแข็งไว้ ปลอดภัยแม่และลูก จากการดำเนินงาน ย้อนหลัง 3 ปี ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านปะแต พบว่า การดำเนินงานแก้ภาวะซีดไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร และยังเป็นปัญหาระดับอำเภอยะหา ดังนั้นต้องแก้ไขและส่งเสริมการดูแลตนเองของหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะซีดต่อไปยิ่งขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อส่งเสริมให้หญิงตั้งครรภ์มุสลิมที่มีภาวะซีดพร้อมญาติ มีความรู้ ความเข้าใจและทักษะการดูแลตนเองเกี่ยวกับโรค สามารถปฏิบัติกิจกรรมการดูแลตนเองได้อย่างถูกต้องอยู่ในเกณฑ์ระดับดี ร้อยละ 90 ร้อยละ 90 |
||
2 | เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์ ครอบครัว ชุมชน มีความรู้และตระหนักถึงความสำคัญของการมาฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ ฝากครรภ์ครบ 5 เกณฑ์ ไม่มีภาวะซีด คลอดน้ำหนักไม่น้อยกว่า 2500กรัมตามเกณฑ์ในระดับดีได้ร้อยละ 90 ร้อยละ 90 |
- กลยุทธ์และขั้นตอนการดำเนินงาน
กลยุทธ์ที่ 1 การสร้างความรู้ความเข้าใจในกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์มีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักถึงผลกระทบของการไม่ได้รับการฝากครรภ์ หรือดูแลตลอดการตั้งครรภ์ที่ถูกต้อง กิจกรรม
1.มีการให้ความรู้แก่พ่อแม่ มีกำหนดการอย่างน้อย 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกที่มาฝากครรภ์ในช่วงอายุครรภ์น้อยกว่า 28 สัปดาห์ และครั้งที่ 2 เมื่ออายุครรภ์ 32 สัปดาห์ขึ้นไป หรือระยะใกล้คลอด อบรมเชิงปฏิบัติการในเรื่องหลักสูตรโรงเรียนพ่อแม่ ในขณะตั้งครรภ์ ระยะใกล้คลอด ระยะหลังคลอด และ ระยะเลี้ยงดูบุตรตามช่วงวัย และถอดบทเรียนในด้านความเชื่อ วิถีชีวิต โดย จัดทำเนื้อหาหลักสูตร เน้น การนำความรู้สู่การปฏิบัติ
- ประสานกลุ่มเป้าหมาย
- จัดเตรียมวัสดุการอบรมและเตรียมสถานที่
- ดำเนินการอบรมตามตารางอบรม และถอดบทเรียน จำนวน 1 วัน
- สรุปผล
กลยุทธ์ที่ 2 กิจกรรมสร้างแรงจูงใจเพื่อติดตามหญิงตั้งครรภ์คุณภาพ
กิจกรรม
1.ขึ้นทะเบียนหญิงตั้งครรภ์ ฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ ฝากครรภ์ครบตามนัด ในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านปะแต แบ่งตามตามความรับผิดชอบของ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน
2.จัดทำแผนการเยี่ยมบ้าน และเยี่ยมติดตามหญิงตั้งครรภ์ หญิงหลังคลอด ให้มาตามนัดและแนะนำการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 6 เดือนส่งเสริมพัฒนาการและการดูแลตนเองโดยเจ้าหน้าที่ร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขโดยบันทึกความก้าวหน้าในการเยี่ยมแต่ละครั้ง
3.อสม./แกนนำ/จนท. ติดตามหญิงตั้งครรภ์ ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านปะแต โดยมีการบันทึกผลงานหญิงตั้งครรภ์ และสรุปผลการปฏิบัติตนในขณะตั้งครรภ์และหลังคลอดรวมถึง มีการดูแลตนเองถูกต้อง
4.จัดประกวดอาสาสมัครดีเด่นในการติดตามหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะซีด ฝากครรภ์ครบ 5 เกณฑ์ คลอดไม่มีภาวะซีด คลอดน้ำหนักไม่น้อยกว่า 2500 กรัมเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนประชุมชี้แจง
- แต่งตั้งคณะกรรมการในการประกวด โดยเน้นชุมชนมีส่วนร่วมและคิดเกณฑ์ให้คะแนน
- ประกาศผลโดยให้รางวัล อสม. ดีเด่น หมู่บ้านละ 1 รางวัลพร้อมเกียรติบัตร
- สรุปผล
5.จัดประกวดหญิงตั้งครรภ์ทีมีการดูแลตนเองระดับดี โดยแบ่งตามเกณฑ์คุณภาพหญิงตั้งครรภ์คืออายุครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์, ฝากครรภ์ครบ 5 ครั้งตามเกณฑ์และ หลังคลอดไม่มีภาวะซีด คลอดน้ำหนักไม่น้อยกว่า 2500 กรัม
- ประชุมชี้แจงและหากลุ่มเป้าหมาย
- แต่งตั้งคณะกรรมการในการประกวด โดยเน้นชุมชนมีส่วนร่วมและคิดเกณฑ์ให้คะแนน
- จัดกิจกรรมประกวด
- ประกาศผลโดยให้รางวัลพร้อมเกียรติบัตร
- สรุปผล
1.ภาวะซีดในหญิงตั้งครรภ์น้อยกว่าร้อยละ 10ในปี 2560 2.ได้รับความร่วมมือจากประชาชน และความร่วมมือจากหลายองค์กร 3.การฝากครรภ์คุณภาพ มีความครอบคลุมที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ 4.ประชาชนมีความเข้าใจเกี่ยวกับหญิงตั้งครรภ์ หญิงหลังคลอด เพิ่มขึ้น
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2560 13:37 น.